- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 30 September 2016 17:56
- Hits: 3539
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ผันผวน? คาดมีโอกาสปรับลดลงตามตลาดต่างประเทศ ภายใต้ (1) ความ
ไม่แน่นอน และความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเงินของดอยซ์ แบงก์ หลังกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ เรียกร้องค่าปรับเป็นมูลค่าสูงถึง 14,000 ล้านUSD แต่อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทั้งรัฐบาลเยอรมันและสถาบันการเงินหลายแห่งพร้อมให้ความช่วยเหลือ หากธนาคารไม่สามารถเพิ่มทุนได้ รวมถึงความเชื่อมั่นต่อธนาคารในสหรัฐฯ และ (2) ความไม่มั่นใจต่อข้อตกลงลดการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่สามารถทำได้
รวมถึงประเด็นความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ที่คาดมีขึ้นอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้ ซึ่งคาดยังเป็นปัจจัยที่กลับมากดดันภาพรวมตลาดฯ อีกครั้งหลังจากนี้ ซึ่งเฟดเหลือการประชุม 2 ครั้งในปีนี้ (1 – 2/11/59 และ 13 – 14/12/59)
ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ แม้ยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ คาดภาพรวมยังได้รับปัจจัยหนุนจาก Fund Flow แม้มูลค่าซื้อ/ขาย สุทธิ จะมีความผันผวนบ้าง
แต่ YTD ยอดซื้อสุทธิสะสม ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 133,000 ล้านบาท และประเด็น Window Dressing – 3Q/59 ที่จะมีการปิดงบในวันนี้ (30/9/59)
นอกจากนี้แนะติดตามหุ้นในกลุ่มค้าปลีก รวมถึงหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่เน้นลูกค้าระดับล่าง – กลาง เช่น DCC และ DRT เป็นต้น ที่คาดได้รับประโยชน์จากการที่มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่มีรายได้น้อย โดยลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร ที่คาดช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น EPG และ SCC
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, SYNTEC
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ในขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น
SET SET50 SET100
1,491.43 +11.85 949.91 +8.61 2,126.37 +19.02
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-/+) ตลาดต่างประเทศ DJIA -195.79, NASDAQ -49.39, S&P -20.24,FTSE +70.04, CAC +11.39 และ DAX -32.80
ภายใต้ปัจจัยกดดันจาก (1) ความกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของดอยซ์ แบงก์ หลังกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เรียกร้องให้ดอยซ์แบงก์จ่ายค่าปรับเป็นวงเงินสูงถึง 1.4 หมื่นล้านUSD เพื่อยุติคดีความที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) รวมถึงประเด็นความน่าเชื่อถือต่อธนาคาร หลังพนักงานของธนาคารเวลส์ ฟาร์โก เปิดบัญชีลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นจำนวนกว่า 2 ล้านบัญชี เพื่อจะเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ด้านการเงิน และ (2) ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่างน้อย 2 ราย (ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และสาขาแอตแลตตา) ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
ขณะที่สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจ (+) GDP – 2Q/59 ขยายตัว 1.4% สูงกว่าประมาณการเบื้องต้นที่ระดับ 1.1% และดีกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 1.3% รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ล่าสุด เพิ่มขึ้น 254,000 ราย ดีกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 260,000 ราย (-) ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) – ส.ค. ลดลง 2.4%MoM อยู่ที่ 108.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่ม.ค. ที่ผ่านมา
ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ยังได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น แต่ภายใต้ปัจจัยกดดันจากประเด็นของดอยซ์ แบงก์ ข้างต้น ทำให้การปรับขึ้นเป็นไปอย่างจำกัด
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
21.89 1.9 3.17
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 50,602.28
สถาบัน 496.44
บัญชีหลักทรัพย์ 2,094.26
ต่างประเทศ -1,290.93
ในประเทศ -1,299.77
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน พ.ย. +US$0.78 อยู่ที่ US$47.83ต่อบาร์เรล โดยยังได้รับปัจจัยบวกจากมติของที่ประชุม (ไม่เป็นทางการ) ของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปก) ลดการผลิตน้ำมัน อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันปรับขึ้นในกรอบจำกัด หลังยังมีความไม่มั่นใจต่อข้อตกลงดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมานั้น สมาชิกโอเปกมักไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้ในการลดการผลิต และติดตามประชุมโอเปกครั้งต่อไป ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (30/11/59)
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$2.3 อยู่ที่ US$1,326.0ต่อออนซ์ จากการกลับเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลง จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของธนาคารดอยซ์ แบงก์ และธนาคารรายอื่นๆ
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -1,291 ล้านบาท สะสม YTD +133,038 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 30 ก.ย. 2559
30/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
รายได้ส่วนบุคคลเดือนส.ค.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนก.ย
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ย.
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
(7) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี’59 ที่คาด อยู่ที่ 33 ล้านคน เพิ่มจากประมาณการเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6% ในขณะที่ประเด็นทัวร์ศูนย์เหรียญคาดว่าจะเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT และ BA
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.01 อยู่ที่ 1.56% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +1.63 อยู่ที่ 14.02
หุ้นแนะนำ : CPN
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788