- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 29 September 2016 17:27
- Hits: 852
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
หุ้นน้ำมันนำตลาดฟื้น แต่ภาพรวมยังผันผวน
KGI คาด SET วันพฤหัสฯ รีบาวด์ หนุนโดยหุ้นน้ำมันเป็นหลัก แต่มองยังผันผวนสูง (เมื่อวานดัชนีฯ ลงแรงช่วงบ่าย แย่กว่าที่เราคาด) ปัจจัยต่างประเทศเป็นบวก หลังที่ประชุมโอเปกลงมติลดปริมาณผลิตจาก 33.2 ล้านบาร์เรลสู่ 32.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน และน่าจะหนุนจิตวิทยาหุ้นน้ำมันในระยะสั้น ด้านหุ้นธนาคารหลักๆ ในยุโรปฟื้นตัวหลังซีอีโอของ ธ.ดอชย์แบงก์ยืนยันไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากทางการเยอรมัน กรณีค่าปรับ 1.4 หมื่นล้านบาทกับสหรัฐฯ ด้านปัจจัยภายใน นักลงทุนชะลอเพื่อติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไทย ส.ค. ที่จะทยอยออกมาวันนี้และวันศุกร์ขณะที่แรงซื้อปิดงวดบัญชีไตรมาส 3/2559 ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาถือว่าอ่อนแรงกว่าที่เราคาด และเรามองว่ามีโอกาสน้อยลงที่จะเห็นแรงซื้อหนักจากฝั่งสถาบันฯ ในช่วง 2 วันทำการที่เหลือของไตรมาสนี้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
รับเสี่ยงได้เก็งกำไร SMPC, COM7*
SMPC (เป้า Consensus 15.8 บาท) 1) ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 13.9 บาท และถัดไปที่ 14.7 บาท โดยมีแนวรับแรก 13.4 บาท และถัดไปที่ 13 บาท 2) ในเบื้องต้นประเมินผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 จะยังเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูง >90% (เทียบกับ 87% ในไตรมาส 2/59) เป็นผลจากดีมานด์ถังแก๊ซที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากทวีปแอฟริกา และเอเชียใต้ (มีการสนับสนุนให้เปลี่ยนจากการใช้ฟืนในการหุงต้มเป็นเตาแก๊ซ) 3) จากประมาณการกำไรใน Consensus คาดกำไรเติบโต 16.5% CAGR 2558 - 2561 จากราคาปิดวานนี้คิดเป็น PEG 0.97 เท่า (ยังต่ำกว่า 1 เท่า)
COM7* (เป้า Consensus 10.5 บาท ... เป้าสูงสุด 12 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 10.5 บาท และถัดไปที่ 10.2 บาท คาดรูปแบบราคารอสัญญาณการ Breakout แนวต้านเทรนไลน์รอบใหม่ที่ 10.8 บาท หากทะลุผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 11 บาท และ 11.4 บาท 2) คาดผลตอบรับ iPhone7 ในไทยจะดีเป็นบวกต่อ COM7 (ประเมินผู้บริโภคจะยังกังวลต่อปัญหาแบตเตอรี่มือถือของคู่แข่งอย่าง Samsung ทำให้คาดดีมานด์โทรศัพท์สมาร์ทโฟนตีกลับมาที่ iPhone) 3) ผลการเป็นพันธมิตรกับ TRUE* คาดจะเริ่มเห็นผลในงบการเงินไตรมาส 3/59 (ขายเครื่องพ่วงซิม + เริ่มเข้าบริหาร TRUE shop)
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่มน้ำมัน ราคาน้ำมันดิบ +5% หลังจาก ที่ประชุมโอเปกบรรลุข้อตกลงในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ในการลดกำลังการผลิตน้ำมันลง (และจะนำเข้าที่ประชุมอย่างเป็นทางการในเดือน พ.ย.นี้) คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน อาทิ PTT*, PTTEP* รวมถึงหุ้นกลุ่มโรงกลั่นอย่าง IRPC*, PTTGC* เป็นต้น ขณะเดียวคาดจะเป็น Sentiment ลบต่อหุ้นกลุ่มสายการบิน อาทิ THAI*, AAV*, BA* และกลุ่มพลาสติกอย่าง EPG*, WIIK, TPBI เป็นต้น
หุ้นที่มีดีล M&A (ประกาศแล้ว) คาดงบการเงิน 2H59 และ 2560 เติบโต (TCMC, SALEE)
1) TCMC (ยังไม่มีเป้า Consensus) i) เตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการลงทุนในธุรกิจผลิตโซฟาที่ประเทศอังกฤษ (ชื่อย่อ DMM) วันที่ 25 ต.ค. (TCMC จะถือหุ้นราว 75%) โดยบริษัท DMM จากงบการเงินย้อนหลัง 3 ปี มีกำไรเฉลี่ยปีละ ?120 ล้านบาท (เทียบกับกำไรปี 2558 ของ TCMC ที่ 117 ล้านบาท) ดังนั้นคาดผลการดำเนินงานปี 2560 หลังการซื้อกิจการคาด TCMC จะมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ii) Trailing PE ตอนนี้ 11.3 เท่า คาดจะลดลงหลังการควบรวมกิจการ iii) ประเมินแนวรับ 4.6 บาท และ 4.4 บาท แนวต้าน 4.8 บาท และ 5.2 บาท
2) SALEE (เป้า Consensus 1.97 บาท) i) ซื้อกิจการ บ.เพชรสยาม (ผลิตภัณฑ์พลาสติกและเครื่องสังฆภัณฑ์) เข้ามาแล้ว คาดจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/59 และรับรู้เต็มปีในปี 2560 (อยู่ระหว่างจัดระบบภายในคาดว่าผลการดำเนินงาน บ.เพชรสยามในไตรมาส 3/59 จะยังไม่เด่น) ii) อย่างไรก็ดีคาดธุรกิจ SLP (บ. ลูก ถือหุ้น 65%) จะมีกำไรเด่นในไตรมาส 3/59 เพราะเป็น High season ของธุรกิจ ทำให้งบไตรมาส 3/59 ของ SALEE กลับมาโต QoQ iii) ประเมินแนวรับ 1.46 บาท และ 1.40 บาท แนวต้าน 1.54 บาท และถัดไปที่ ?1.60 บาท
หุ้นกองทุน Infrastructure fund ปันผลดี (DIF, JASIF) สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย ในช่วงภาวะตลาดฯผันผวน + ดอกเบี้ยต่ำ อาจพิจาณาเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงต่ำอย่างกองทุน Infrastructure fund ที่มีปันผลสูงรองรับ เช่น DIF (Consensus คาด Dividend yield 6.5%) และ JASIF (Consensus คาด Dividend yield 7.9%)
หุ้นมีข่าว
(-) BDMS* ซื้อที่ดินโครงการปาร์คนายเลิศ เพื่อพัฒนาโครงการศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร (ตลาดหลักทรัพย์) ข่าวดังกล่าวเป็นลบเล็กน้อยต่อ BDMS เนื่องจากเรามองว่าเป็นโครงการใหม่ที่กว่าจะให้ผลตอบแทนน่าจะใช้เวลาเกินกว่า 2 ปีจากนี้ อีกทั้งยังอาจทำให้ D/E ของบริษัทสูงขึ้นในระยะสั้น และมีผลกดดันต่อประมาณการกำไรสุทธิของเราในปัจจุบัน แม้โครงการดังกล่าวจะเป็นบวกต่อการเติบโตในระยะยาว ในขณะนี้ เรายังคงแนะนำซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายที่ 25.50 บาท
(+) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง; กรมทางหลวงเร่งประมูลมอเตอร์เวย์ 2 สายเดือนตุลาคมนี้ (โพสต์ทูเดย์) โดย 9/25 สัญญาของมอเตอร์เวย์ บางใหญ่/กาญจนบุรี และ 25/40 สัญญาของมอเตอร์เวย์ บางปะอิน/โคราช ได้มีการเซ็นสัญญาไปแล้ว และการเร่งประมูลในสัญญาที่เหลือเดือนต.ค.นี้ จะทำให้กรมทางหลวงสามารถเซ็นสัญญากับผู้ชนะการประมูลเดือนธ.ค. ตามคาด เรายังคงน้ำหนัก "มากกว่าตลาด" ในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และเลือก CK* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม ราคาเป้าหมาย 39.50 บาท
(+) คลังประเดิมเพิ่มทุนเหมืองโปแตชชัยภูมิ TRC เตรียมเซ็น APOT เดือน ต.ค.นี้ (ข่าวหุ้น) "อภิศักดิ์" รมว.คลัง เซ็นเพิ่มทุน บริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัด (มหาชน) หรือ APOT แล้ว รักษาสัดส่วนคลังไม่ต่ำกว่า 20% คาดเม็ดเงินลงทุนของคลังทั้งโครงการกว่าพันล้านบาท ด้าน "ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น" หรือ TRC ทางสะดวกจ่อเซ็นสัญญาเหมืองแร่โปแตชเดือนหน้า ปลดล็อก แบงก์ปล่อยกู้ได้ทันที
(+) UAC จ่อซิวPPAไฟฟ้าชีวมวลพม่า ปิดดีลพันธมิตรทำโรงไฟฟ้าขยะที่ลาว Q4 นี้ (ข่าวหุ้น) "UAC" รอเซ็น PPA โรงไฟฟ้าชีวมวลที่พม่า 20 MW ในเร็วๆ นี้ ขณะที่ไตรมาส 4/59 ปิดดีลพันธมิตรทำโรงไฟฟ้าขยะที่ลาว เตรียมดันบริษัทย่อย "UAPC" เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ปี 61
(+) RATCH* ทุ่ม107.17ล้าน ลุยเพิ่มทุนบริษัทร่วม เร่งเครื่องธุรกิจพลังงาน (ทันหุ้น) RATCH ใส่เงิน 107.71 ล้านบาท เพิ่มทุน "บริษัท เบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น จำกัด" หวังนำเม็ดเงินเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินงานก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างพัฒนา
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
TMT (เป้าพื้นฐาน 14.2 บาท) ประมาณการฯล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯคาดปันผลปีนี้ 1.6 บาท/หุ้น (คิดเป็น Dividend yield 12.4%) ... อย่างไรก็ดี คาดปันผลปีนี้มากเป็นพิเศษเพราะราคาเหล็กที่ฟื้นตัวแรงในไตรมาส 2/59 เป็นหลักดังนั้น ในปีหน้าคาดปันผลจะลดลงสู่ระดับปกติที่ ?6%
IFEC* (อยู่ระหว่างพิจารณาปรับประมาณการฯ) ในเชิงพื้นฐานประเมิน Replacement cost (หรือ Liquidation value) ที่ 6.1 บาท
TPCH (เป้าพื้นฐาน 22 บาท) ราคาหุ้นวานนี้ปิดเหนือ 18.3 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 19 บาท ... ในเชิงพื้นฐานประเมินแนวโน้มกำไรทำนิวไฮต่อเนื่อง 3 - 5 ไตรมาสติด จากการทยอย COD โรงไฟฟ้าชีวมวลที่มี PPA แล้วตามแผน + Catalyst ที่รออยู่คือการเปลี่ยนสัญญา LOI เป็น PPA (20MW ที่ จ.ปัตตานี)
KTC* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) แกว่งตัวในกรอบ Uptrend line channel ที่ 132 - 155 บาท โดยมีแนวต้านแรกที่บริเวณ 142.5 บาท หากผ่านได้ แนะนำ "Let profit run" แต่หากต่ำกว่า แนะนำ "ขายทำกำไร" ... ฝ่ายวิจัยฯประมาณการฯกำไรเติบโต 18% ต่อปี CAGR 2558 - 2561 จากสินเชื่อเติบโต + ต้นทุนเงินทุนทรงตัว
TACC (เป้า Consensus 10.6 บาท) ประเมินแนวรับ 8.9 บาท แนะนำ "เก็งกำไร" ที่แนวรับ และประเมินแนวต้าน 9.3 บาท และ 10 บาท ตามลำดับ ... เริ่มวางขายสินค้าใหม่ในร้าน 7-Eleven อาทิสินค้า Hello Kitty และ โดนัท
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
DTAC* อยู่ระหว่างพิจารณาปรับประมาณการฯ ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรไตรมาส 3/59 จะเติบโต +400% QoQ (แต่ยังลดลง -42% YoY) ได้จากมาร์จิ้นการขายเครื่องมือถือที่ดีขึ้น และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง ขณะที่รายได้จากการให้บริการคาดว่าจะทรงตัว อย่างไรก็ดีจากการประชุมนักวิเคราะห์ มีสัญญาณเชิงลบจากจำนวนผู้ใช้บริการที่ยังลดลง (โดยเฉพาะระบบเติมเงิน) ทำให้คาดว่าจะเป็นปัจจัยลบต่อการฟื้นตัวในระยะยาว
นักวิเคราะห์: อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]