WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLS copyบล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

รอบด้านตลาดหุ้น
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง 0.05% ปิดที่ 1,489.39 จุดด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 4 หมื่นล้านบาท โดยตลาดหุ้นไทยลดต่ำกว่าระดับเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น-ยาว 1,480 จุดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากความกลัวการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจแย่กว่าคาดก่อนแรงซื้อในช่วงปลายสัปดาห์จะดันดัชนีฯขึ้นได้อีกครั้ง เราคาดว่าตลาดอยู่ในรูปแบบของการพักตัวอยู่ในกรอบและมีลุ้นดีดขึ้นเนื่องจากเหตุผล:
1.แรงซื้อกลับ Short cover ในหุ้นกลุ่มธนาคาร สื่อสารและกลุ่มโรงพยาบาลภายหลังจากหุ้นเริ่มกลับขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลึ่ยระยะสั้น อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมีเรายังคาดว่าจะปรับขึ้นได้ไม่มากนักเนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะเปลี่ยนเป็นรอบขาขึ้น ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบเบรนท์ยังคงติดบริเวณกรอบด้านบนที่ $48/บาร์เรล
2.ส่วนปัจจัยที่จะพลิกตลาดบวกมาจากผลดีเบตเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ เนื่องจากความนิยมฮิลลาลีทำคะแนนได้ดีกว่า ในการโต้วาทีรอบแรกจากทั้งหมด 3 ครั้ง ก่อนที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีจะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย.
3.การประชุมโอเปก และ รัสเซีย 28 กย.นี้ หากยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องกำลังการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพน้ำมันได้ อาจสร้างความกดดันราคาน้ำมันดิบและเป็นลบต่อหุ้นเชื่อมโยง
4.ฝ่ายกลยุทธ์เราคาดว่าดัชนีตลาดทรงตัวหรืออาจยืนเหนือ 1,500 จุดซึ่งได้แรงหนุนจากกระแสเงินทุนและเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัว
สำหรับกลยุทธ์ในการเทรดกับภาวะตลาดผันผวนเราจะเลือกซื้อหุ้นประเภท
1. สัญญาณแข็งแกร่งกว่าตลาด
2. หุ้นที่เกิดสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น ซึ่งเราได้ใช้กลยุทธ์ในรูปแบบนี้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นบางกลุ่มหรือบางตัวปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดอย่างเห็นได้ชัด แต่เนื่องจากวอลุ่มตลาดที่ลดลงและไม่มีปัจจัยหนุนทำให้แนวโน้มตลาดระยะสั้นคาดว่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1480-1510 จุด
ระยะสัปดาห์ ลุ้นเกิด Window dressing แนวต้าน 1,510/,1520 จุด แนวรับ 1,480 จุด
หุ้นมีข่าว/มีประเด็น
(+) TPCH TSE: ที่ประชุม ครม. อนุมัติแพ็คเกจลดหย่อนภาษี 2 เท่า จากการลงทุน- ขยายกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ (bangkokbiznews.com) // คาดเป็นบวกต่อ TPCH TSE เพราะบริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลอยู่บริเวณ 3 จังหวัดภาคใต้ คาดการลงทุนอาจได้ผลประโยชน์ทางภาษีมากกว่าที่ตลาดประเมินก่อนหน้านี้ (ความเห็น BLS Research)
(+) MINT CENTEL ERW AOT AAV: การท่องเที่ยวแห่งชาติจีน (CNTA) เปิดเผยว่า ชาวจีนมากกว่า 600 ล้านคนจะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วง 5 ปีข้างหน้า หลังจากที่ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ชาวจีนมากกว่า 59 ล้านคนได้เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ (อินโฟเควสท์)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) US consumer confidence ก.ย. ออกมา 104.1 จากคาด 99.0 สูงสุดนับแต่ ส.ค. 2007 (ที่มา Bloomberg)
(+) พุธ US ยอดขายสินค้าคงทน สค.คาด -1% จาก +4.4% m-m, ECB’s Draghi attends meeting of German Parliament’s EU Committee. (ที่มา Bloomberg)
(-) พฤหัส US GDP 2Q 3rd คาด +1.4% จาก +1.1% q-q ar. เงินเฟ้อ เยอรมนี กย.คาด +0.6% y-y, จาก +0.4% y-y, Euro area Economic sentiment (Sep) คาด 103.5 คงที่, ธนาคารกลางไต้หวัน คาดลดดอกเบี้ย เหลือ 1.25% จาก 1.38% (ที่มา Bloomberg)
(-) ศุกร์ US Personal spending สค. คาด +0.2% จาก 0.3% m-m. US Core PCE index สค.คาด +0.2% จาก +0.1% m-m, US Chicago PMI กย.คาด +52 จาก 51.5, EU area HICP inflation กย.คาด +0.3% จาก +0.2%, UK GDP 2Q 3rd คาด 0.6%, ญี่ปุ่น Industrial production คาด +1.1% และเงินเฟ้อ สค. คาด -0.5%, ไทย Mfg Production สค. คาด -2.3% จาก -5.1% y-y, เกาหลีใต้ Industrial production สค.คาด 2% จาก 1.6% y-y. (ที่มา Bloomberg)


Anchor theme
• กลุ่มท่องเที่ยว ท่าอากาศยาน สายการบิน (อ่อนตัวสะสมต่อไป / ถือ)
• News flow drive earnings กลุ่มกำไรโตต่อเนื่อง ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม High season หรือได้ประเด็นหนุนกำไรใหม่ๆ เช่น COM7
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) RJH แนะนำ ซื้อ เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 30 บาท ตามการปรับกำไรปี 2016-17 ขึ้น 5% และ 10% เป็น 154-185 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 50%/ปี (CAGR) เพราะมาร์จิ้นมีโอกาสดีกว่าคาด จากการประเมินเบื้องต้น คาดผลการดำเนินงาน QTD ของบริษัทเห็นการเติบโตขึ้น ทั้งจำนวนและมาร์จิ้น นอกจากนี้ประมาณการใหม่ของเรายังมีโอกาสปรับขึ้นได้อีกจาก การที่โรงพยาบาล RJH โรจนะ ยื่นขอ มาตรฐาน HA1 (Hospital accreditation) หากได้รับในปีหน้า จะช่วยหนุนโควต้าฐานลูกค้าประกันสังคงเพิ่มขึ้นได้อีก 10% ปัจจุบันราคาหุ้นเทรดบน P/E เทียบเท่ากลุ่มฯ ที่ 36 เท่า แต่เรามองว่าบริษัทมีการเติบโตที่ดีกว่ากลุ่มฯ
(-) MAJOR earnings prelim. 3Q15 ที่ 224 ล้านบาท ลดลง 5%YoY และ 53%QoQ จากคาด ยอดขายตั๋วของบริษัทปรับตัวลดลงใน ก.ค.-ส.ค. ราว 5% YoY จากรายงานของ นิตยสาร Entertain Weekly รายงานตัวเลข country’s top-10 box-office เรามองว่ากำไรที่อ่อนตัวอาจกดดันให้ราคาหุ้นปรับตัวลงซึ่งเรามองเป็นจังหวะเข้าซื้อสำหรับการลงทุนระยะยาว เพราะ 4Q16 คาดกำไรจะกลับมา เติบโตแข็งแกร่งจาก คาดจะมีภาพยนต์เด่นออกฉายและคาดมีรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท ถึง 5 เรื่อง และภาพยนต์ไทยฟอร์มดีอีก 3 เรื่อง คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 38 บาท

ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์/ปัจจัยทางเทคนิค

 

BSP

 

adsoptimal100

paidtoclick copy

 

  

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!