- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 28 September 2016 16:59
- Hits: 2818
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้'แกว่งแคบๆในแดนลบ'
ตลาดหุ้นไทยปิดลบต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติม อีกทั้งยังมีแรงขายนักลงทุนต่างประเทศมียอด net sale ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยระหว่างวันตลาดสามารถยืนแดนบวกได้หลังจากการโต้วาทีระหว่างผู้สมัครประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ออกมาว่านางฮิลลารี ได้รับคะแนนนำนายโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ตลาดตอบรับในทางบวกก่อนจะถูกขายออกมาในช่วงท้ายกดดันให้ดัชนีลบไป 0.75 จุด (-0.05%) ด้วยปริมาณการซื้อขายในระดับ 34,648 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) วานนี้นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ที่ระดับ 1 พันลบ. รวมขายสุทธิต่อเนื่อง 2.2 พันลบ.
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 1.26 ดอลลาร์/บาร์เรล (-2.7%) หลังซาอุดิอาระเบียเผยว่าการประชุม OPEC รอบนี้เป็นเพียงการประชุมเพื่อรับฟังมุมมองเท่านั้น และ อิหร่านเตรียมเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันขึ้นอีก 0.4 ล้านบาร์เรล/วัน
(+) หลังจากการดีเบตครั้งแรกเมื่อเช้าวานนี้ โพลสำนักต่างๆ ได้คาดการณ์ว่า Clinton มีโอกาสชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ สูงกว่า Trump
(+) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือน ก.ย. อยู่ที่ 104.1 จุด สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 99 จุด แสดงให้เห็นถึงมุมมองที่ดีขึ้นของผู้บริโภคต่อภาวะการจ้างงาน และสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
(+) PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ เดือน ก.ย. อยู่ที่ 52 จุด สูงสุดในรอบ 5 เดือน
(+) ADB ปรับคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 59 ขึ้นจาก 3% เป็น 3.2%
(+) ครม. อนุมัติให้เปิดประมูล สร้างทางคู่มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ วงเงิน 2.98 หมื่นล้าน คาดประมูลราว ต.ค. 59 (บวกต่อกลุ่มรับเหมาฯ)
(+/-) BCPG (ธุรกิจโรงไฟฟ้าของ BCP) เข้าเทรดในวันนี้ ที่ราคา IPO 5 บาท
(+/-) กลต. เตรียมออกเกณฑ์หลักการบริหารของผู้บริหาร บจ. และนักลงทุนสถาบัน เพื่อยกระดับธรรมภิบาลตลาดทุนไทย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
ประชุม OPEC+รัสเซีย ช่วงวันที่ 26-28 ก.ย. (สิ้นสุดในวันนี้)
สหรัฐฯจะมีรายงานถ้อยแถลงของประธาน FED และยอดซื้อสินค้าคงทนเดือน ส.ค. ในวันที่ 28 ก.ย. ส่วนวันพฤ. มีตัวเลข GDP 2Q59 รอบสุดท้าย
เยอรมันสัปดาห์นี้จะมีรายงานตัวเลขอัตราการว่างงาน เดือน ก.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค. และตัวเลขเงินเฟ้อ
จีน จะรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิต และญี่ปุ่น จะมีตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค. และอัตราการว่างงาน ออกมาในวันศุกร์นี้
กลยุทธ์การลงทุน “สายการบิน และ ส่งออก”
ประเมินดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังจากที่วานนี้ดัชนี แกว่งไปทำจุดสูงสุดที่ 1,498 จุด ก่อนที่จะย่อตัวลงมา เรามองว่าจะมีโมเมนตัมลบต่อเนื่องในวันนี้ จากมุมมองทางเทคนิค และกดดันจากแนวโน้มเงินทุนต่างชาติที่ไหลออก ประกอบกับ ความคาดหวังต่อผลประชุม OPEC เริ่มลดลงหลังจากทีซาอุดิอาระเบีย มีทีท่าว่าจะยังไม่มีข้อตกลงใดๆ เพิ่มเติม กดดันราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน เราจึงแนะนำสลับมาเก็งกำไรกลุ่มส่งออกที่มีแนวโน้มฟื้นตัว หลังจากการรายงานตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค. เติบโต และเก็งกำไรกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงเช่นกลุ่มสายการบิน
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
THAI เก็งกำไร
FAA ปรับขึ้นมาตรฐานการบินของไทยส่งผลให้สายการบินของไทยจะสามารถเข้าไปทำการบินภายในอเมริกาได้
ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง และการปรับโครงสร้างการดำเนินงาน สร้างการฟื้นตัวของผลประกอบการในปี 59
เดินหน้าแผนการปรับโครงสร้าง สร้างรายได้ ควบคุมค่าใช้จ่าย สร้างความแข็งแกร่งในอนาคต
TU เก็งกำไร
ประเมินธุรกิจกุ้งไตรมาส 3 ยังเติบโตต่อเนื่องหลังการส่งออกเดือน ส.ค. ของไทยขยายตัวกว่า 20%YoY
คาด 3Q59 ผลประกอบการยังเติบโตได้ดีทั้งจากธุรกิจกุ้งข้างต้นและการปรับราคาในส่วนของธุรกิจปลาแซลม่อน
ตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯภายในปี 2563
ทีมวิเคราะห์