- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 23 September 2016 15:42
- Hits: 819
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'FED ไม่ขึ้นดอกเบี้ยหนุนตลาดเดินหน้าต่อ'
ตลาดหุ้นไทยสามารถยืนในแดนบวกได้ตั้งแต่เปิดตลาด จากปัจจัยบวกที่ธนาคารกลางสหรัฐฯมีมติยังไม่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งล่าสุด รวมถึงดัชนีสามารถทะลุแนวต้านที่ระดับ 1,500 จุดทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา โดยกลุ่มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดได้แก่กลุ่มค้าปลีกและกลุ่มอีเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นกว่า 2% ปิดตลาดดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.82 จุด (+1.27%) ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ 46,460 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสิ้นสุดวันที่ 17 ก.ย. ลดลง 8,000 ราย มาอยู่ที่ 252,000 ราย สวนทางที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 262,000 ราย
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปที่ปิดไปก่อนหน้านี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง โดย DJIA +99 จุด (+0.54%) ส่วน DAX +238 จุด (+2.3%), FTSE +1.1%
(+) วานนี้นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิหุ้นไทยไปกว่า 2 พันลบ. และซื้อสุทธิติดต่อกัน 3 วันทำการ รวม 4.1 พันลบ.
(+) ราคาน้ำมัน WIT เพิ่มขึ้น 4 วันติด โดย +2.2% มาอยู่ที่ 46.32 US/Barrel
(+) ราคาสินค้า Commodity อย่างดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ยังเพิ่มขึ้นอีก 4% มาอยู่ที่ 937 จุด ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 11 เดือน สร้างแรงบวกต่อการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มเดินเรือ (TTA, PSL)
(-) ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ ในเดือน ส.ค. ลดลง 0.9%MoM แต่เพิ่มขึ้น 0.8%YoY มาอยู่ที่ 5.33 ล้านยูนิต (ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้)
(+/-) ค่าเงินบาทมีทิศทางที่แข็งค่าขึ้น หลังจากที่ FED มีมติคงดอกเบี้ย
(+/-) กกพ. เปิดให้เอกชนยื่นเสนอขายไฟฟ้าจากขยะ 50 MW ระหว่างวันที่ 22-28 ก.ย. ล่าสุดมีผู้ยื่นขอแล้วกว่า 300 MW
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
ประชุม OPEC+รัสเซีย ในสัปดาห์หน้า (วันที่ 26-28 ก.ย.)
ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และค่าเงินสกลุหลัก
เยอรมัน จะรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือน ก.ย. ในวันศุกร์นี้
สัปดาห์หน้ามีโอกาสเกิด Window Dressing ช่วงใกล้สิ้นเดือน ก.ย.
ตัวเลขยอดขาดบ้านใหม่สหรัฐ (26 ก.ย.), อัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่น (30 ก.ย.)
กลยุทธ์การลงทุน “พลังงาน ธนาคาร”
ประเมินดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,530 จุด รับโมเมนตัมบวกจากปัจจัยจาก Dot Plot ที่สะท้อนภาพการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐที่ช้ากว่าเดิม โดยเรามองกลุ่มที่มีโอกาสนำตลาดขึ้นรอบนี้คือกลุ่ม พลังงาน และ ธนาคาร จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและผลดำเนินงานที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในไตรมาส 3 ยังคงแนะนำเก็งกำไรสั้นกลุ่มพลังงาน โดยเพิ่มกลุ่มธนาคารที่ laggard ตลาด สำหรับระยะยาว แนะนำทยอยสะสมกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มส่งออก เพื่อรอค่าเงินที่มีแนวโน้มอ่อนค่าในช่วงปลายปี
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
PTTEP เก็งกำไร
คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของผลประกอบการในช่วง 2Q59 โดยในช่วง 2H59 จะได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่สูงกว่า 1H59
ตลาดน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวเข้าสู่สมดุลมากขึ้นหลังจากที่ผู้ผลิตราย ใหญ่หั่นงบลงทุน และผู้ผลิตต้นทุนสูงลดการผลิต
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นจากค่าเงินสหรัฐที่อ่อนค่าลง
GFPT เก็งกำไร
คาดราคาเนื้อไก่กลับมาฟื้นตัว หลังจากไทยห้ามนำเข้าไก่ปู่ย่าพันธ์จากต่างประเทศเพราะประเทศต้นทางเกิดไข้หวัดนก
ขยายกำลังการผลิตทั้งตัวเองและบริษัทร่วม หนุนผลประกอบการในอนาคตเติบโตได้อีกมาก
ประเมินกำไรสุทธิปี 59 กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้กว่า 21%
ทีมวิเคราะห์