- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 23 September 2016 15:38
- Hits: 836
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
ข้อมูลแรงงานสหรัฐฯ ดีกว่าคาด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ขานรับผลประชุมเฟด และตัวเลขการว่างงานรายสัปดาห์ที่ดีกว่าตลาดคาด ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด 0.54%, 0.84%, 0.65%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับผลประชุมเฟด และการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด 2.28%, 1.12%, 2.27%, 1.76%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 0.98 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 0.82 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.65 ดอลลาร์/บาร์เรล แรงหนุนจากสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ลดลง
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ขานรับการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมของเฟดตามที่ตลาดคาด แต่อย่างไรก็ตามเฟดได้ส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ โดยในแถลงการณ์ได้กล่าวถึง ปัจจัยสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้มีน้ำหนักมากขึ้น โดยในส่วนของกลุ่ม TIPs จะฟื้นตัวขึ้นอย่างโดดเด่น ซึ่งเริ่มมีแรงซื้อกลับจากนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นอินโดนีเซียแล้ว แต่ในส่วนของไทยยังเป็นการซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เราคาดว่าผลจากการที่เฟดเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป ซึ่งเฟดจะเหลือการประชุมอีก 2 ครั้งในปีนี้ที่จะอยู่ในช่วงต้นเดือนพ.ย. และธ.ค. นี้ ความเป็นไปได้ถ้าอ้างอิงตาม Fed fund futures น้ำหนักของช่วงเวลาที่ปรับขึ้นจะอยู่ในเดือนธ.ค. นี้ ซึ่งเป็นความเห็นของนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาด
เพราะฉะนั้นเราคาดว่าจะมีเม็ดเงินกลับเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่อย่างอินโดนีเซีย และไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้จัดการกองทุนต่างประเทศมากที่สุดในกลุ่ม TIPs ซึ่งในส่วนของค่าเงินบาทมีการปรับตัวแข็งค่าขึ้น หลังเฟดเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป โดยในแถลงการณ์ของเฟดแสดงความมั่นใจในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เข้มแข็งขึ้น และพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งภายในปีนี้ ด้านธปท. มองการแข็งค่าของเงินสกุลในภูมิภาคเป็นการตอบสนองของตลาดในระยะสั้น แต่ไม่ได้แข็งค่ารุนแรง เนื่องจากผลประชุมเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
แต่ในระยะยาวยังต้องติดตามปฏิกริยาของตลาด เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟด และของประเทศหลักอื่น ๆ ซึ่งเป็นความเสี่ยงของตลาดเงินที่คาดว่ายังจะผันผวนต่อไป ทางด้านการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นขานรับผลประชุมเฟดเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เกี่ยวกับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมา ลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 252,000 ราย สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 262,000 ราย ทางด้านการซื้อขายน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการ จากสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง ทำให้ตลาดคลายกังวลภาวะน้ำมันล้นตลาด และนักลงทุนจะจับตาการประชุมนัดพิเศษของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ร่วมกันรัสเซียที่จะจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 26-28 ก.ย. นี้ ซึ่งความคาดหวังของตลาดจะพุ่งไปที่การหารือการตรึงกำลังการผลิต เพื่อราคาน้ำมันจะกลับมามีสเถียรภาพ และอาจไปสู่การปฏิบัติในอนาคต ซึ่งเรามองแนวโน้มน่าจะตกลงกันได้ ถ้าอิหร่านให้การสนับสนุนในการตรึงกำลังการผลิตในครั้งนี้ ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่า จะปรับขึ้นต่อในกรอบจำกัด
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ไม่ต่ำกว่าแถว ๆ 1,480 จุด แนะน่า ซื้อเก็งก่าไรหวังผลดีดกลับได้
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]