- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 23 September 2016 15:21
- Hits: 848
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
เงินต่างชาติแกร่ง หนุนหุ้นหลัก / ดัชนี ไปต่อ
KGI คาด SET วันศุกร์ขึ้นต่อ ตามฟันด์โฟลว์แข็งแกร่ง (วานนี้หุ้นใหญ่นำดัชนีฯ ขึ้น ตามคาด) ดัชนีเงินดอลลาร์ฯ อ่อนต่อ ดันเงินบาทแข็งค่าขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน และยังหนุนแรงซื้อต่างชาติ ท่ามกลางมุมมองที่ว่า ธ.กลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งรวม 0.50% ในปี 2560 (น้อยกว่าเดิมที่คาดกันว่าปีหน้าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง; ส่วนแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยใน ธ.ค. ปีนี้ เป็นที่รับรู้กันทั่วไปแล้ว) ขณะที่ตัวเลขสหรัฐฯ ที่ออกมาเมื่อคืน ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง และดัชนี Leading Indicator ส.ค. ล้วนต่ำกว่าคาด ยิ่งกดดันค่าเงินดอลล่าร์ฯ ในช่วงสั้น ส่วนสัปดาห์หน้าคาดจิตวิทยาของ SET ยังดี หนุนโดยประเด็นการลงทุนภายใน ได้แก่ รายละเอียดมาตรการเพิ่มกำลังซื้อของผู้มีรายได้น้อย, ตัวเลขเศรษฐกิจไทย ส.ค. และท้ายสุดเรายังมองว่าจะมีแรงซื้อปิดงวดบัญชีไตรมาส 3/2559 หลังจากนักลงทุนสถาบันได้ปรับพอร์ตขายหุ้นไปมากในช่วงต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี เชิงวิเคราะห์ PE band เราประเมินดัชนีฯ จะเริ่มพักตัวหากขึ้นถึง PE band 17 เท่าของ EPS ไตรมาส 3/2559 หรือ SET Index ที่ 1,520 จุด
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร LST, TACC / สะสม TPCH
LST (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) คาดเครื่องดื่มน้ำนมถั่วเหลือง (ยี่ห้อ “Home Soy” ผลิตภายใต้ UFC บ.ลูกของ LST ถือหุ้น 99%) และสินค้าเครื่องดื่มน้ำผลไม้ โดยเฉพาะน้ำมะพร้าวยี่ห้อ UFC จะรับอานิสงส์เทศกาลกินเจปีนี้ (เริ่มต้นเดือน ต.ค.) 2) กำไรของ UFC ใน 1H59 คิดเป็น 65% ของกำไรรวมของ LST (อีก 35% มาจากธุรกิจน้ำมันพืช) 3) Trailing PE 11.6 เท่า Laggard หุ้นกลุ่มเครื่องดื่มอย่าง MALEE (25.8 เท่า) และ SAPPE (28.5 เท่า) ขณะที่ในความจริงแล้วปัจจุบันกำไรหลักของ LST มาจากธุรกิจเครื่องดื่มแล้ว 4) แนวรับ 3.9 บาท แนวต้านแรก 4.0 บาท (เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน) ถ้าผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 4.18 บาท และ 4.26 บาท ตามลำดับ
TACC (เป้า Consensus 10.6 บาท) 1) เราประเมินหุ้นกลุ่มการบริโภคในประเทศ (สินค้าบริโภคทั่วไป) จะได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับรากหญ้าที่จะมีในปลายปีนี้ ... TACC ขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านช่องทางร้าน 7-Eleven 2) คาดสินค้าใหม่คือ i) สินค้า Hello Kitty และ ii) โดนัท (คาดจะมีการทำโปรโมชั่นคู่กับเครื่องดื่มของ TACC) จะวางขายปลาย ก.ย.นี้ในร้าน 7-Eleven กระตุ้นผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/59 3) วานนี้ราคาปิดทดสอบแนวต้าน 8.9 บาท หากวันนี้ยืนเหนือ 8.9 บาทได้ ประเมินปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน ±9.3 บาท และถัดไปที่ ±10 บาท โดยคาดจะเริ่มเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคจาก i) MACD ที่กำลังจะตัด Signal line และกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 3 – 15 วัน เริ่มเรียงตัวในรูปแบบขาขึ้นรอบใหม่
TPCH (เป้าพื้นฐาน 22 บาท) 1) รูปแบบราคาเริ่มเกิดสัญญาณซื้อหลัง i) Breakout กรอบ Sideway ii) ทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันแบบ EMA และ iii) กลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 3 – 10 วัน เริ่มตัดขึ้น (Golden Cross) ประเมินแนวรับ 17.5 บาท หากวันนี้ยืนเหนือ 17.8 บาทได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบ 18.3 บาท และถัดไปที่ ±19 บาท 2) ในเชิงพื้นฐานประเมินแนวโน้มกำไรทำนิวไฮต่อเนื่อง 3 – 5 ไตรมาสติด จากการทยอย COD โรงไฟฟ้าชีวมวลที่มี PPA แล้วตามแผน 3) Catalyst ที่รออยู่คือการเปลี่ยนสัญญา LOI เป็น PPA (20MW ที่ จ.ปัตตานี)
หุ้นในกระแส
ราคาถ่านหิน BJI ปรับขึ้น 3.5% WoW เป็น 73.95 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มฯ อาทิ LANNA แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 12.3 บาท แนวต้าน 13 บาทและถัดไปที่ 14 บาท (Stop loss 12 บาท)
หุ้นกลุ่มสื่อสาร Laggard ตลาดฯ (ADVANC*, INTUCH*) เราประเมิน SET index ที่ฟื้นตัวแรงต่อเนื่อง ขณะที่หุ้นกลุ่มหลักอย่างกลุ่มสื่อสาร ยังคง Laggard แนะนำ “เก็งกำไร” หุ้นพื้นฐานดี ปันผลสูง อย่าง ADVANC* (Dividend yield 6.4% / ปี) และ INTUCH* (Dividend yield 7.8% / ปี) ขณะที่วานนี้มีข่าวบวก คือ “การบรรลุข้อตกลงทดลองใช้คลื่น 2100 ของ TOT” คาดจะลงนามสัญญาในอีก 6 เดือน
หุ้นส่งออกที่งบ 2H59 จะดี (SMT, TCMC) เราประเมินผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 ของหุ้นกลุ่มส่งออกจะโตเด่น (High season + หุ้นบางตัวมีประเด็นบวกเฉพาะตัว เช่น TCMC)
1) SMT (เป้าพื้นฐาน 8.25 บาท) คาดผลการดำเนินงาน 2H59 จะโตเด่นต่อเนื่อง หนุนผลการดำเนินงานทั้งปี Turnaround จากการเพิ่มสัดส่วนสินค้า High margin อย่างต่อเนื่อง แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 5.85 แนวต้าน 6.15 บาท และถัดไปที่ 6.3 บาท
2) TCMC (ยังไม่มีเป้า Consensus) คาดผลการดำเนินงาน 2H59 ยังโตจากการรับรู้รายได้ธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการมาในปลายปีที่แล้ว (ผลิตโซฟาที่ประเทศอังกฤษ) และการเตรียมเข้าซื้อธุรกิจผลิตโซฟาที่ประเทศอังกฤษเพิ่มเติมอีก (ประชุมผู้ถือหุ้นปลาย ต.ค.นี้ อนุมัติการเข้าซื้อ) ปัจจุบัน PE 11.9 เท่า และคาดจะลดลงอีกหลังการเข้าซื้อกิจการฯ แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 4.86 บาท แนวต้าน 5.25 บาท
หุ้นกองทุน Infrastructure fund ปันผลดี (DIF, JASIF) สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย ในช่วงภาวะตลาดฯผันผวน + ดอกเบี้ยต่ำ อาจพิจาณาเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงต่ำอย่างกองทุน Infrastructure fund ที่มีปันผลสูงรองรับ เช่น DIF (Consensus คาด Dividend yield 6.5%) และ JASIF (Consensus คาด Dividend yield 7.8%)
หุ้นมีข่าว
(+) เอกชนชิงดำโรงไฟฟ้าขยะ 'GENCO-CWT' เต็งหนึ่ง (ทันหุ้น) GENCO-SUPER-CWT-WHA-GLOW-SCC-BWG-PSTC เบียดไหล่ยื่นเสนอตั้งโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 50 เมกะวัตต์ บิ๊ก GENCO "อิทธิฤทธิ์ วิภูศิริ" มั่นใจคว้า 2 โครงการ จำนวน 16 เมกะวัตต์ พร้อมใส่เงิน 2.4 พันล้านบาท ก่อสร้างทันที ด้าน CWT ไม่น้อยหน้า ทุ่ม 2 พันล้านบาท ลุยโรงไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์ ส่วน SUPER ยกทัพยื่น 5 โครงการ
(+) MAX ซื้อหุ้น PPTC คุ้มค่า IFAชี้ช่องดีต่ออนาคต ผลตอบแทน10% ต่อปี (ทันหุ้น) ที่ปรึกษาทางการเงินชี้ MAX ลงทุน PPTC คุ้มค่า ราคาซื้อต่ำกว่าประเมิน 31.979% แนะผู้ถือหุ้นอนุมัติรายการ เชื่อสร้างรายได้เติบโตระยะยาวคาดมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 6-10% ต่อปี สร้างโอกาสขยายการลงทุนพลังงานมากขึ้น
(+) AOT* ไฟเขียวแผนลงทุน20ปี พัฒนาสนามบินหาดใหญ่วงเงิน 1.5 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) บอร์ด AOT ไฟเขียวแผนพัฒนาสนามบินหาดใหญ่ ระยะ 20 ปี วงเงินรวม 15,100 ล้านบาท ตั้งเป้ารองรับผู้โดยสารได้ที่ 10 ล้านคนต่อปีถึงปี 2573
(+) TSE บุกไฟฟ้าชีวมวล ทุ่ม 2,505 ล้านบาท ลงทุน 3 โครงการ หุ้นวิ่งแรงรอกำไรก้อนโต (โพสต์ทูเดย์) ไทยโซล่าร์ฯ ติดเครื่องขยายลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวล กำลังการผลิต 22.2 เมกะวัตต์ เพิ่มพอร์ตเร่งการเติบโต นายสมภพ พรหมพนาพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการลงทุนในบริษัท ออสการ์ เชฟ เดอะ เวิลด์ (OSCAR) สัดส่วน 70% เพื่อดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล 2 โครงการ กำลังการผลิตโครงการละ 8.8 เมกะวัตต์ รวม 17.6 เมกะวัตต์ ที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้าและสัญญาขายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แล้ว
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
TMT (เป้าพื้นฐาน 14.2 บาท) ประมาณการฯล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯคาดปันผลปีนี้ 1.6 บาท/หุ้น (คิดเป็น Dividend yield 12.4%) ... อย่างไรก็ดี คาดปันผลปีนี้มากเป็นพิเศษเพราะราคาเหล็กที่ฟื้นตัวแรงในไตรมาส 2/59 เป็นหลักดังนั้น ในปีหน้าคาดปันผลจะลดลงสู่ระดับปกติที่ ±6%
IFEC* (อยู่ระหว่างพิจารณาปรับประมาณการฯ) ในเชิงพื้นฐานประเมิน Replacement cost (หรือ Liquidation value) ที่ 6.1 บาท
MONO (เป้า Consensus 3.82 บาท) ประเมินแนวรับ 3.0 บาท (Stop loss ถ้าต่ำกว่า 2.9 บาท) โดยมีแนวต้านแรก 3.12 บาท และต้านถัดไปที่ 3.2 บาท ... ประเมินการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ + เรตติ้งทีวีดิจิตอลของ MONO ที่ขึ้นมาเกาะอันดับที่ 4 (รองจาก WORK*) จะเป็นตัวหนุนผลการดำเนินงานใน 2H59
COM7* (เป้า Consensus 10.15 บาท ... เป้าสูงสุด 12 บาท) ประเมินแนวต้านปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 11.3 บาท และถัดไปที่ 12 บาท โดยมีแนวรับ 10.4 บาท ... คาดผลตอบรับ iPhone7 ในไทยจะดีเป็นบวกต่อ COM7 (ประเมินผู้บริโภคจะยังกังวลต่อปัญหาแบตเตอรี่มือถือของคู่แข่งอย่าง Samsung ที่เกิดเหตุระเบิด) + ผลการเป็นพันธมิตรกับ TRUE* คาดจะเริ่มเห็นผลในงบการเงินไตรมาส 3/59 (ขายเครื่องพ่วงซิม + เริ่มเข้าบริหาร TRUE shop)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
NOK แนะนำ “ถือ” (Reinitiate Coverage) เป้าพื้นฐาน 8.45 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H59 จะพลิกเป็นบวกได้ (หลังรายงานผลขาดทุนใน 1H59) แต่ผลการดำเนินงานทั้งปีจะยังคงขาดทุนราว 990 ล้านบาท อย่างไรก็ดีคาดผลการดำเนินงานจะเป็นบวกได้เล็กน้อยในปี 2560 จากการเปิดเส้นทางการบินใหม่ๆ ขณะที่คาดราคาน้ำมันจะทรงตัว
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ค่าเฉลี่ยสามสิบวันที่ต้าน 1509 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1509 จุดนั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1509-1491 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1509 จุดได้นั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1509-1528 จุด
แนวรับวันนี้: 1498/1491 แนวต้านวันนี้: 1509/1517
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]
