- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 21 September 2016 18:45
- Hits: 1622
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> BCP, CPALL, GPSC, TFG
Stock S R Comment
BCP 29.50 32.55 อัตรา dividend yield สูงสุดในกลุ่ม
CPALL 56.50 63.00 โปรแสตมป์หนุน คาดยอดขายโตดีกว่าปีก่อน
GPSC 32.75 37.25 คาดกำไรปี 58-62 โต 21% CAGR ต่อปี EPS ปี 60 เติบโตเด่นสุด
TFG 4.60 5.40 คาดผลกำไรครึ่งหลัง New High วางเป้ารายได้ ปี 60 เติบโตสูง
Dot plots is key
ติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) และสหรัฐฯ (FOMC) ในวันนี้ ซึ่งเรามีมุมมองดังต่อไปนี้
1) ผลการประชุม BoJ คาดว่า BoJ จะมีมติคงระดับมาตรการต่างๆไว้ที่ระดับเดิม หรือหากมีการออกมาตรการใหม่ออกมา คาดว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับติดลบมากขึ้นจากเดิมที่ -0.1% และ/หรือการเพิ่มวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ไปยังตราสารต่างๆ อาทิเช่นสินทรัพย์เสี่ยงจำพวก REIT / ETF เป็นต้น
2) ผลการประชุม FOMC คาดว่า Fed จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25-0.50% และจะมีการปรับลดค่ากลางระดับดอกเบี้ยที่เหมาะสมผ่าน Dots plot ตลอดปี 2016-18
หากผลออกมาตรงตามที่เคาคาดไว้ ประเมิน SET Index มีโอกาสปรับตัว Sideways up สู่ระดับ 1500 - 1520 จุดในช่วงที่เหลือของเดือนกันยายนนี้ (เป็นระดับที่คำนวณได้จากโมเดล EYG อิง EPS คาดการณ์ปีหน้าที่ 106.5 บาทและ Bond yield 10 ปีของสหรัฐฯที่ 1.65% - 1.70%) โดยหากค่ากลางของ Dots plot มีการปรับลงมากเท่าไหร่ ก็จะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นมากเท่านั้น อย่างไรก็ดีมองมีโอกาสยากที่ดัชนีจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่บริเวณ 1550 จุด เนื่องจากไม่คาดว่า Bond yield และเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากนักลงทุนคงมองข้ามช็อตไปว่า Fed คงจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม 100% แน่นอนนั่นเอง
หากผลออกมาไม่เป็นไปตามที่เราคาดไว้ มองผลกระทบที่จะมีต่อ SET Index ในกรณีต่างๆดังต่อไปนี้
1) หาก Fed มีมติคงดอกเบี้ย และ BoJ มีมติออกมาตรการใหม่ๆที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เช่น Helicopter money คาดว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่บริเวณ 1550 จุด
2) หาก Fed มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย และ BoJ มีมติไม่ออกมาตรการเพื่มเติมหรือออกมาตรการเพิ่มแต่เป็นมาตรการเดิมๆ คาดว่าดัชนีจะปรับตัวลง โดยมองระดับดัชนี 1400 - 1420 จุดเป็นแนวรับสำคัญ
3) หาก Fed มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย และ BoJ มีมติออกมาตรการใหม่ๆที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เช่น Helicopter money คาดว่าผลกระทบของทั้ง 2 ปัจจัยจะหักล้างกัน และน่าจะทำให้ดัชนีแกว่งตัว Sideways บริเวณ 1450 จุด
กลยุทธ์การลงทุน: จากการที่เราคาดว่า Fed จะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมคืนวันนี้ ทำให้เราแนะนำ Let profit run สำหรับหุ้นที่ได้เข้าสะสมไปแล้ว และมองว่าการปรับตัวลงของดัชนีเมื่อวานนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ยังมีหุ้นในน้ำหนักที่น้อยในการเข้าลงทุนเพิ่ม แนะนำโฟกัสหุ้นในกลุ่มที่คาดว่าจะมีผลประกอบการเติบโตโดดเด่นในช่วงครึ่งปีหลัง อาทิ กลุ่มอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ สายการบิน และกลุ่มที่มีความผันผวนต่ำ เช่น โรงไฟฟ้าและโรงพยาบาล
แนวรับ 1,454 แนวต้าน 1,500
นักวิเคราะห์ :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932) E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]