- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 20 September 2016 16:52
- Hits: 1128
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : Commodities WoW, DW Report (BEAU24C1612A, MTLS24C1710A)
Our Portfolio Sep 2016 : ARROW, BCH, BJC, BLA, KTC
หลัง SET รีบาวด์กลับขึ้นมาพอควร ต้องระวังโอกาสปรับพักก่อนขึ้นต่อ!
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังคงเปิดบวกต่อ จากแรงซื้อเก็งกำไรกับการที่นักลงทุนต่างประเทศมียอดซื้อหนาตาในช่วงท้ายสัปดาห์ก่อน รวมทั้งยังมีความหวังว่าเฟดอาจจะไม่ขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมช่วง 20-21 ก.ย.นี้ โดยครึ่งวันแรกดัชนียังแกว่งบวกในกรอบจำกัด แต่ภาคบ่ายตลาดสามารถขยับขึ้นต่อเนื่อง จนกระทั่งปิดบวกไปกว่า 13 จุด
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET เริ่มมีความเสี่ยงกับโอกาสที่จะอ่อนตัวลงบ้าง โดยนักลงทุนบางส่วนอาจต้องการรอดูผลประชุมเฟดในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ย.) ขณะที่วานนี้นักลงทุนต่างประเทศเริ่มมียอดขายสุทธิออกมาให้เห็นบ้าง หลังการทำRebalance เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน รวมทั้งในช่วงสัปดาห์เศษที่ผ่านมาดัชนีก็สามารถรีบาวด์กลับขึ้นมาจากจุดต่ำถึงเกือบ 100 จุด นอกจากนี้ SET เริ่มขยับขึ้นมาแกว่งตัวแถวระดับดัชนีที่ปรับลงจาก panic sell ครั้งแรกตามคาดแล้วด้วย ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งก็แกว่งตัวผันผวนพอควร หลังตลาดหุ้นสหรัฐย้อนลงปิดลบเล็กน้อย จากช่วงแรกที่ขยับบวกขึ้นกว่า 130 จุดโดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสุขภาพและกลุ่มเทคโนโลยี
กลยุทธ์ : ระยะสั้นคาดว่า SET มีโอกาสปรับพักตัวลงจากระดับดัชนีแถว 1500จุด(+/-) ได้ แต่กรอบลบไม่ลึกมาก และสุดท้ายยังลุ้นขึ้นหาเป้า 1650 จุดอยู่ดังนั้นถ้าเทรดดิ้งสามารถทำกำไรก่อนได้ เพื่อรอซื้อใหม่ช่วงปรับลง
แนวรับ 1490-1487 , 1485-1480 จุด
แนวต้าน 1495-1497 , 1500-1505 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : AAV, EPG , TTA(short)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$274ล้าน นำโดยไต้หวันUS$354ล้าน และเกาหลีใต้ US$45ล้าน (สองประเทศนี้เพิ่งเปิดทำการเป็นวันแรกหลังหยุดประจำเทศกาลไปเมื่อสัปดาห์ก่อน) ขณะที่ไหลออกไทย US$99ล้าน และฟิลิปปินส์ US$19ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางชะลอการไหลเข้าภูมิภาคเพื่อรอผลการประชุม Fed และ BOJ ในวันนี้-พรุ่งนี้ก่อน
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (0) แม้ Fed ขึ้นดอกเบี้ย กระทบ SET จำกัด หากดูการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของ Fedในรอบเกือบ 10 ปีเมื่อ 15-16 ธ.ค. 2015 พบว่า SET อยู่ในทิศทางขาลงชัดเจนในช่วง 1เดือนก่อนการประชุม โดนปรับลง 11% แต่หลังจากทราบผลการประชุม SET กลับผ่อนคลายขึ้น โดย +5% ก่อนจะปรับไปตามปัจจัยปัจจัยแวดล้อมขณะนั้น เราจึงไม่มองเป็นลบต่อ SET หาก Fed ขึ้นดอกเบี้ย ผลกระทบที่มีต่อค่าเงินและ Flow จะเป็นช่วงสั้นเท่านั้น
• (0) JAS การที่คุณพิชญ์ซึ่งเป็นทั้ง CEO และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทประกาศทำTender offer หุ้น JAS และ JAS-W3 จากผู้ถือหุ้นรายย่อยทั้งหมดที่ราคา 7.25 บาทสำหรับ JAS และ 3.68 บาทสำหรับ JAS-W3 ทำให้ราคาหุ้นทั้งสองวิ่งขึ้นชนราคา Tenderoffer เราแนะนำนักลงทุนให้ขายหุ้นแก่คุณพิชญ์เพราะได้ผลตอบแทนที่สูงมาก ถ้าเทียบราคาปิดในวันก่อนหน้าของ JAS ซึ่งปรับขึ้นมาแล้วยังได้ return 9% ส่วน JAS-W3 ได้return ถึง 15% การทำคำเสนอซื้อจะเริ่ม 28 ก.ย. โดยคุณพิชญ์ระบุว่าจะไม่นำหุ้นออกจากตลาดฯ เราไม่แนะนำให้ซื้อเพิ่มเพื่อเก็งกำไรว่าคุณพิชญ์อาจนำหุ้นไปขายต่อตามที่มีกระแสข่าวในตลาดเพราะอาจเป็นข่าวโคมลอย และถึงแม้ JAS จะถูกนำไปรวมกับบริษัทใดก็ตาม เราไม่แน่ใจว่าจะเกิด Synergy หรือไม่ หรือถ้ามี ต้องใช้เวลาและมีต้นทุน
• (-) DTAC ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นแรงวานนี้เป็นโอกาสดีในการขาย แนวโน้มกำไรใน 2H16อ่อนแอมากเพราะค่าใช้จ่ายจากการแจกมือถือฟรีเพื่อดึงลูกค้าจะเข้ามาเต็มที่ใน 3Q16นอกเหนือจากธุรกิจหลักที่อ่อนแออยู่แล้วหลังเสีย Market share ต่อเนื่อง ขณะที่ต้นทุนค่าเสื่อมราคาจากการขยายโครงข่ายยังอยู่ในช่วงขาขึ้น กำไรใน 1H16 ที่ลดลง 62% Y-Yคาดแย่ลงมากใน 2H16 เรายังคาดกำไรสุทธิปีนี้ -71% Y-Y คงราคาพื้นฐาน 26.50บาท
• (+) EPG แม้ว่าธุรกิจของ EPG (ชิ้นส่วนรถที่เป็นพลาสติก, ฉนวนยาง, บรรจุภัณฑ์พลาสติก) จะเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจ แต่มีลักษณะ defensive พอสมควรเพราะบริษัทมีฐานการผลิตและตลาดกระจายอยู่หลายประเทศทั่วโลก จึงได้รับผลกระทบจำกัดหากเศรษฐกิจของประเทศใดประเทศหนึ่งแย่ไป ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมายังพิสูจน์ว่าไม่ถูกกระทบจากราคาน้ำมันดิบและอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน ราคาหุ้นปัจจุบันมี ForwardPE 20 เท่า ปรับลงจากในช่วงก่อนหน้าที่อยู่ที่ 24-25 เท่า และต่ำกว่าการเติบโตของกำไรเฉลี่ยใน 2 ปีนี้ที่ 22% จึงยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 16 บาท
• (+) โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ มีประเด็นให้กลับมาเก็งกำไรอีกครั้ง โดย กกพ. จะเปิดให้ยื่นข้อเสนอขายไฟโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ไม่เกิน 50 MW (โครงการละไม่เกิน 10MW) ในวันที่ 22-28 ก.ย. ประกาศผลภายใน 28 ต.ค. นี้ และลงนามในสัญญาซื้อขายไฟภายใน 25 ก.พ. 2017 ผู้สนใจเข้าร่วมมีหลายรายเช่น BWG, AKP, GENCO, IEC, WHA,SUPER และ PSTC ในจำนวนนี้ BWG ถือว่าเป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าขยะรายหลักในปัจจุบัน (ราคาเป้าหมายจาก SAA Consensus = 2.50-3.10 บาท)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20-21 ก.ย. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
20 ก.ย. - ไทย: ยอดขายรถ (ส.ค.)
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ส.ค.)
21 ก.ย. - BOJ ประชุม
22 ก.ย. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ย.)
23 ก.ย. - ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.ย.)
24 ก.ย. - ไทย: ดุลการค้า (ส.ค.)
26 ก.ย. - สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ส.ค.)
27 ก.ย. - ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม, อัตราการใช้กำลังการผลิต (ส.ค.)
28 ก.ย. - สหรัฐ: คำสั่ง ซื้อสินค้าคงทน (ส.ค.)
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดทรงตัวท่ามกลางการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงเร็ว โดยนักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางทั้งญี่ปุ่นและสหรัฐฯ
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกได้ดีพอสมควรจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามตลาดยังจับตาดูการประชุมFED ที่จะเริ่มขึ้นวันนี้
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมโดยนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายหลังการประชุม BoJ ได้เริ่มขึ้นในวันนี้ ขณะที่ FED จะเริ่มคืนนี้เช่นกัน
(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ34.76-34.85 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ขยับขึ้น 0.27ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 43.30 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังเวเนซูเอล่าระบุว่ากลุ่ม OPEC ใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงในการรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 7.6 ดอลลาร์/ออนซ์มาอยู่ที่ 1,317.8 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงโดยตลาดจับตาดูผลการประชุม FED ขณะที่ Bond Yield ของสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้น
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research