- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 19 September 2016 17:22
- Hits: 1235
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
แรงขายหุ้นดอยช์แบงก์กดตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปในวันศุกร์
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ หลังหุ้นดอยช์แบงก์ดิ่งลงกว่า 9% ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐด้วย ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.49%, -0.10%, -0.38%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ หลังหุ้นดอยช์แบงก์ดิ่งลงกว่า 9% กดให้มีแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารออกมาตาม ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -1.49%, -0.30%, -0.93%, -2.43%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 0.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 0.82 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.77 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีการรายงานแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 2 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาค แต่ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายมีการไล่ราคาและมีการปิดกระโดดสำหรับราคาหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวในช่วงปิดตลาด ซึ่งเป็นผลจากการปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยที่มีผลในวันศุกร์ที่ผ่านมาของดัชนี FTSE ทำให้ SET ฟื้นตัวขึ้นอย่างโดดเด่นสวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ในขณะที่เปิดตลาดตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงจากกรณีหุ้นดอยช์แบงก์ปรับตัวลง จากข่าวกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้ดอยช์แบงก์จ่ายค่าปรับกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดีความที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS)
สำหรับ การฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลกในวันศุกร์นั้นได้อานิสงค์จากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ที่เปิดเผย ยอดค้าปลีกเดือนส.ค. ที่ปรับตัวลง 0.3% MoM. ลดลงสวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ทำให้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่สามารถฟื้นตัวขึ้นได้ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ และนักลงทุนเริ่มกลับมาคาดการณ์ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในวันที่ 20-21 ก.ย. นี้ โดย CME Group Fedwatch เปิดเผยว่า นักลงทุนได้ลดคาดการณ์ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนก.ย. นี้สู่ระดับ 12% จากเดิมที่ 15% ทางด้าน Fed fund futures เดือนก.ย. ปรับตัวลงสู่ระดับ 18% จาก 28% ส่วนเดือนธ.ค. ปรับตัวลงสู่ระดับ 49.7% จาก 58.5% สัปดาห์นี้จะมีการประชุมสำคัญทั้งการประชุมเฟด และการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20-21 ก.ย. นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าบีโอเจอาจจะเพิ่มวงเงินในการซื้อสินทรัพย์จากฐานเงิน 80 ล้านล้านเยนต่อปี เป็น 100 ล้านล้านเยนต่อปี รวมทั้งอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้ติดลบมากขึ้นจากระดับปัจจุบันที่ -0.10% สู่ระดับ -0.30%
แต่อย่างไรก็ตามมีรายงานจากสื่อบางฉบับว่า เสียงภายในคณะกรรมการของบีโอเจยังมีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับการเพิ่มวงเงินในการซื้อสินทรัพย์ คณะกรรมการบางส่วนต้องการให้มีการคงการซื้อสินทรัพย์ไว้ที่ระดับเดิม แต่ให้เพิ่มการติดลบของอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น ในขณะที่การเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค. ปรับตัวขึ้น 0.2% MoM. จากค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์ที่พุ่งขึ้น ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% และปรับขึ้น 1.1% YoY. สูงกว่าตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.0% หลังจากที่ปรับเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งทีทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลง โดย CME Group Fedwatch ระบุว่ามีความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. สู่ระดับ 15% จากเดิม 12% แต่ในกรณีหุ้นดอยช์แบงก์ที่ปรับตัวลงกว่า 9% เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลง เนื่องจากจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ด้วย ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่า จะปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด รอดูผลประชุมเฟดปลายสัปดาห์
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ดีดกลับไม่ข้ามแถว ๆ 1,480 จุด แนะนำ ขายเพื่อหวังผลซื้อกลับเมื่ออ่อนตัว
Saravut Tachochavalit, Analyst TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754 EMAIL : [email protected]