- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 16 September 2016 16:47
- Hits: 2873
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ดีใจด้วยเหตุผลที่ไม่ถูกหรือเปล่า?
คาดว่าหุ้นไทยปรับตัวขึ้นวันนี้ตามตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่และน่าจะปิดเหนือกว่าสัปดาห์ก่อนจากตัวเลขล่าสุดหลายตัวของสหรัฐที่ไม่ค่อยดี แต่กลับทำให้โอกาสขึ้นดอกเบี้ยของ Fed สัปดาห์หน้าลดลง อย่างไรก็ตามตลาดไม่น่าไปไกลนัก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างๆ มองต่างกันไปเรื่องดอกเบี้ย หุ้นขึ้นและดอลลาร์ลงสอดคล้องกับการจะไม่ขึ้นดอกเบี้ย แต่ทองลงและตั๋วเงินคลังสหรัฐร่วงเป็นเรื่องของการจะขึ้นดอกเบี้ย ปัจจัยภายในประเทศก็ทั้งดีและไม่ดี ที่ไม่ดีคือผลสำรวจของ ม.หอการค้าพบว่าหนี้ครัวเรือนพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 9 ปีแต่ที่ดีคือรองนายกสมคิดย้ำเศรษฐกิจไทยกลับมาแข็งแกร่งแล้ว แม้จะยังมีปัญหาอยู่บ้าง
หุ้นเด่นวันนี้ : TASCO (Bt20.60; BUY; 17AWS TP Bt29)
คาด TIPCO ยังมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งมากในช่วงปี 2560-2561 โดยได้รับประโยชน์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ของภาครัฐของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ระดับต่ำ แม้ว่ากำไรสุทธิงวด 1H59 ปรับตัวลดลง อย่างเห็นได้ชัดจากฐานที่สูงในปี 2558 แต่เรายังมองว่า TASCO จะได้ประโยชน์จากการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลไทย โดยมองว่าผลประกอบการไตรมาส 2/59 อาจจะเป็นจุดต่ำสุดของปี คาดว่าจะฟื้นตัวในไตรมาส 3/59 และกำไรคาดว่าเร่งตัวขึ้นได้ในไตรมาส 4/59 จากปริมาณขายที่คาดว่าเพิ่มขึ้น และสเปรดระหว่างราคายางมะตอยกับน้ำมันดิบปรับตัวดีขึ้น โดยไตรมาส 2/59 ประกาศกำไรสุทธิ 702 ล้านบาท ลดลง 47% YoY and 41% QoQ และราคาหุ้นปรับตัวลดลง QTD ถึง 16% แต่เราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/59 คาดว่าจะขึ้นไปที่ระดับ 900 ล้านบาท จากคาดการณ์ปริมาณขายที่ 500,000 ตัน ดีกว่าไตรมาส 2/59 ที่ 440,000 ตัน อย่างไรก็ตาม เราปรับลดคาดการณ์กำไรต่อหุ้น ปี 2559 และ 2560 ลง 7.7% และ 3.6% เป็น 2.41 บาท และ 2.94 บาท ตามลำดับ แม้กำไรต่อหุ้นปี 2559 จะลดลง 26.7% YoY แต่คาดปี 2560 กำไรจะโตขึ้น 22% YoY เราจึงปรับไปใช้ราคาเป้าหมายอิงจาก PER ปี 2560 ที่ 10 เท่า แทนประมาณการเดิมที่อิง PER ปี 2559 ที่ 11 เท่า แต่ยังได้ราคาเป้าหมายคงเดิมที่ 29 บาท ณ ปัจจุบันหุ้น TASCO ซื้อขายกันที่ค่า PER เฉลี่ย 8.6 เท่าในปี 2559 และ 7.0 เท่าในปี 2560 สะท้อนว่าราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าแท้จริง (Undervalued)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงสุด ตามผลสำรวจล่าสุดของ ม.หอการค้า ค่าเฉลี่ยหนี้ครัวเรือนเติบโต20.2% เติบโตสูงสุดในรอบ 9 ปี ค่าเฉลี่ยหนี้เพิ่มขึ้นสู่ 298,000 บาทต่อครัวเรือนจาก 248,000 บาทช่วงสิ้นปี 58 อย่างไรก็ดีตัวเลขยังไม่น่าเป็นห่วงนักเพราะเป็นหนี้ภายใต้ระบบสถาบันการเงิน ไม่ใช่จากนอกระบบ เช่น เจ้าหนี้นอกระบบ (Bangkok Post) ความเห็น: สาเหตุหนึ่งที่หนี้ครัวเรือนปรับตัวสูงอาจเป็นผลพวงจากมาตรการประชานิยมของรัฐบาลก่อน เช่น นโยบายรถคันแรก
การรถไฟฯ เตรียมพัฒนาที่ดินริมแม่น้ำคลองเตยมูลค่าราว 9.0 หมื่นลบ. นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าการรถไฟฯ เตรียมที่จะพัฒนาที่ดินบางส่วนบริเวณสถานีรถไฟแม่น้ำ เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่กว่า 277.5 ไร่ มูลค่าที่ดินประเมินราว 1.33 หมื่นลบ. โดยมีแผนที่จะพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัย ดอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน โรงแรม และห้างสรรพสินค้า ทั้งนี้ผลการศึกษาความเป็นไปได้และรายละเอียดแผนต่างๆ กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม (Bangkok Post)
สมคิดเชื่อเศรษฐกิจยังไปได้ตามแผนท่ามกลางความท้าทายที่ยังคงมีอยู่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวในระหว่างงานแถลงการประเมินผลงานของรัฐบาลว่า เศรษฐกิจไทยปัจจุบันได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและกำลังเดินหน้าขยายตัวตามแผน แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่ใช่การฟื้นตัวเต็มที่ก็ตามเนื่องจากผลบวกดังกล่าวยังไม่ได้กระจายตัวไปยังกลุ่มรากหญ้า ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงซบเซาอยู่ในขณะนี้ (The Nation)
VIBHA (2.80 บ.) เตรียมเข้าซื้อหุ้นสัดส่วน 28.57% ในโรงพยาบาลบางโพ คิดเป็นมูลค่าการเข้าซื้อ 300 ลบ. ซึ่งจะทำให้ VIBHA กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ ภายใต้กลยุทธ์ที่จะขยายธุกิจโดยการเจาะตลาดกลุ่มผู้ป่วยรายได้ต่ำในแถบพื้นที่รอบนอกของเมือง ทั้งนี้คาดว่าดีลการเข้าซื้อจะเกิดขึ้นในเดือน ต.ค. (Bangkok Post)
บริษัทลูกของ TRUE (7.10 บาท) และ ADVANC (160.50 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 200 บาท) ถูก กสทช. ฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ให้จ่ายเงิน 1070 และ 627 ลบ. ตามลำดับภายในสามสิบวันเพื่อคืนเงินรายได้สุทธิที่สองบริษัทเคยได้ไปเมื่อช่วงมาตรการเยียวยาหลังจากที่สัมปทานมือถือได้หมดไปตั้งแต่ปี 2556 อย่างไรก็ดีทั้งสองบริษัทท้วงว่าต้นทุนค่าใช้จ่ายดำเนินการนั้นมากกว่าที่ กสทช. ประเมินไว้ จริงๆ แล้วขาดทุนด้วยซ้ำไม่ใช่ได้กำไร จึงไม่มีอะไรจ่ายให้ กสทช. โดยอ้างว่าบริษัทต้องคงลูกค้าไว้เพราะกฎเกณฑ์บังคับให้รักษาลูกค้าไว้ (Bangkok Post) ความเห็น: ประเด็นนี้เคยโต้กันอย่างยาวนาน สุดท้ายก็ไปจบที่ศาล เราคิดว่าทั้งสองบริษัทไม่น่าต้องจ่าย แต่หากศาลเกิดตัดสินว่าต้องจ่ายจริงตามที่ระบุข้างต้น ก็น่าจะกระทบมูลค่าหุ้นของ TRUE และ ADVANC แค่ 3 สตางค์และ 21 สตางค์ต่อหุ้นเท่านั้น
ต่างประเทศ
ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอทำให้โอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยลดลง หลังจากการประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกที่ลดลงมากกว่าที่คาด เทรดเดอร์คาดว่ามีโอกาส 12% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ลดลงจาก 15% เมื่อวันพุธ จากรายงานของ CME Group’s FedWatch ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐที่จะประกาศในวันนี้เป็นข้อมูลถัดไปที่เทรดเดอร์จับตาเพื่อดูแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ย (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งเมื่อวันพฤหัส ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีลดลง 4/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 1.70% เพิ่มขึ้นจากที่ระดับ 1.69% เมื่อวันพุธ ช่องว่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปีกับพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีกว้างขึ้นถึง 130 bps เมื่อวันพุธ ซึ่งเป็นเส้นแสดงผลตอบแทนพันธบัตรที่ชันมากที่สุดนับแต่วันที่ 27 มิ.ย. (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเทียบกับเงินเยนเมื่อวันพฤหัส จากมีความวิตกกังวลว่าบีโอเจจะทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงโดยผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น ในขณะที่การทำกำไรและการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์มีผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐปิดลดลง 0.22% เทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.18 เยน หลังจากแตะระดับสูงสุดในการซื้อขายช่วงเช้าที่ 102.74 เยน (Reuters)
สหรัฐ :
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันพฤหัส ได้แรงหนุนจากราคาหุ้นแอปเปิลที่เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 วัน ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและข้อมูลเศรษฐกิจที่ลดลงซึ่งลดความคาดหวังว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า (Reuters)
ยอดค้าปลีกสหรัฐลดลงเกินคาดในเดือนส.ค. เนื่องจากการซื้อรถยนต์และสินค้าประเภทอื่น ๆ ที่ลดลง บ่งชี้ความต้องการสินค้าภายในประเทศที่ชะลอตัว ยอดค้าปลีกในเดือนส.ค. ลดลง 0.3% หลังจากที่ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. และเพิ่มขึ้น 1.9% YoY หากไม่รวมรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้างและภัตตาคาร ยอดค้าปลีกลดลง 0.1% ในเดือนก่อนหลังจากที่ลดลงเช่นเดียวกันในเดือนก.ค. ยอดค้าปลีกพื้นฐานมีความสอดคล้องกับการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งเป็นองค์ประกอบของจีดีพี ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกโดยรวมจะลดลง 0.1% ยอดค้าปลีกพื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก่อน (Reuters)
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.4% ในเดือนส.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. ผลผลิตที่ลดลงเกิดจากการลดลงของการผลิตสินค้าไม่คงทน ในขณะที่สินค้าคงทนหลายรายการมีปริมาณลดลงเกือบ 1% หรือมากกว่านั้น แต่การประกอบชิ้นส่วนรถยนต์เพิ่มขึ้น (Reuters)
เฟดสาขาแอตแลนต้าปรับลดประมาณการจีดีพีไตรมาส 3/59 อยู่ที่ 3.0% ต่อปี จากการประกาศรายงานตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวที่อ่อนแอ ทั้งนี้ เศรษฐกิจในไตรมาส 2/59 ขยายตัวในอัตรา 1.1% (Reuters)
การเลิกจ้างในสหรัฐยังคงต่ำมาก จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสหรัฐเพิ่มขึ้น 1,000 รายอยู่ที่ 260,000 ราย ณ วันที่ 10 ก.ย. ต่ำกว่าที่ระดับ 300,000 รายติดต่อกัน 80 สัปดาห์ ซึ่งแสดงถึงตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และยาวนานที่สุดนับแต่ปี 1970 (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวสูงขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาอ่อนแอ ส่งผลให้ความเป็นไปได้ที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. นี้มีน้อยลง ทั้งนี้หุ้น Morrisons ซึ่งประกอบธุรกิจซุปเปอร์มาร์เกตสัญชาติอังกฤษปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่นจากแนวโน้มผลประกอบการที่สดใส (Reuters)
ธนาคารกลางสวิส (SNB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) คงมาตรการทางการเงินไว้เช่นเดิม โดยไม่มีการเคลื่อนไหวเพิ่มเติมที่จะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจหรืออ่อนค่าเงิน (Reuters) ความเห็น: เป็นไปได้มากว่าทั้งสองธนาคารกลางรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ก่อนที่จะเคลื่อนไหวใดๆ
เอเชีย :
มีบริษัทญี่ปุ่นไม่กี่แห่งที่มองนโยบาย super easy money ของ BOJ จะบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ของการกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อ จากผลสำรวจโพลรอยเตอร์ พบว่าบริษัทต่าง ๆ มองผลกระทบเชิงลบจากโปรแกรมดังกล่าวมากกว่าผลในเชิงบวก(Reuters)
ตลาดการเงินของจีนจะปิดตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน ถึงวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน สำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ โดยจะเปิดอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 19 กันยายน (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันบวกเกือบ 2% วันพฤหัส วิ่งขึ้นตามเบนซินล่วงหน้าที่กระตุ้นโดยความล่าช้าของการกลับมาเดินหน้าของท่อส่งเบนซินของ Colonial Pipeline บริษัทอันดับหนึ่งด้านการส่งน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์ในสหรัฐ Brent บวก 74 เซนต์ (+1.6%) ปิดที่ 46.59 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังแตะจุดสูงสุดที่ 47 ดอลลาร์ น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าบวก 73 เซนต์ (+1.7%) ปิดที่ 44.31 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ทองคำร่วงสู่จุดต่ำสุดรอบสองสัปดาห์วันพฤหัส ดังที่ดอลลาร์สหรัฐปรับแข็งขึ้นแม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีทั้งบวกและลบก่อนที่จะมีประชุม Fed ในสัปดาห์หน้า ราคาทองคำตลาดจรได้ลดลง 1% ไปอยู่ที่ 1,309.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะไปปิดลบ 0.7% ที่ 1,313.43 ดอลลาร์สหรัฐ ทองคำสหรัฐล่วงหน้าส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับลดลง 0.8% ปิด 1,316.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้วย (Reuters)
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun, CFA, FRM (No.49234) Tel: 02 680 5094