- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 16 September 2016 16:39
- Hits: 1312
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งขึ้น คลายกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยหนุนตลาดต่อ
KGI คาด SET วันศุกร์ขึ้นต่อเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน หนุนโดยแรงรีบาลานซ์ดัชนี FTSE วันสุดท้าย ผนวกตัวเลขสหรัฐฯ อ่อนแอ ลดความกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า (วานนี้ดัชนีฯ บวกแคบ ตามคาด) เมื่อคืนนี้สหรัฐฯ รายงานยอดค้าปลีก และผลผลิตอุตสาหกรรม ส.ค. ล้วนติดลบมากกว่าที่ตลาดคาด ส่งผลให้ CME Fed futures ลดโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 20-21 ก.ย. เหลือต่ำมากที่ 12% และโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยใน ธ.ค. ลดลงต่ำกว่า 50% เป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ ปัจจัยต่างๆ ข้างต้นจะส่งผลให้ฟันด์โฟลว์ยังแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี เรามองว่าแรงหนุนจากประเด็นดัชนี FTSE จะสิ้นสุดในวันนี้แล้ว ผนวกกับระดับของดัชนีฯ อิง PE band พบว่าดัชนีฯ อาจชะลอแถว PE band 16.5x ของกำไรไตรมาส 3/2559 ซึ่งคิดเป็นดัชนีฯ แถว 1,480 จุด กลยุทธ์ช่วงสั้นมากแนะนำทยอยล็อกกำไรช่วงดัชนีฯ แกว่งขึ้น เราประเมินว่าดัชนีฯ จะชะลอตัวในช่วงต้นสัปดาห์หน้า ก่อนผลประชุมเฟด และผลประชุม BoJ
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
รับเสี่ยงได้เก็งกำไร COM7*, SMT / กลัวเสี่ยงเน้นปันผล JASIF, DIF
COM7* (เป้า Consensus 10.15 บาท ... เป้าสูงสุด 12 บาท) 1) ราคาหุ้น APPLE ในตลาดสหรัฐฯปรับขึ้นแรง (ยอดขาย iPhone7 ดีกว่าที่คาด เดิมฝ่ายวิจัยฯ บล เคจีไอ ประเทศไต้หวัน คาดผลตอบรับอาจแย่กว่า iPhone6 .. แต่อาจได้อานิสงส์จากโทรศัพท์รุ่นใหม่ของคู่แข่งอย่าง Samsung มีปัญหาทางเทคนิค) 2) คาดผลตอบรับ iPhone7 ในไทยจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เป็น Sentiment บวกต่อ COM7 3) รูปแบบราคาฟื้นตัวขึ้น โดยรูปแบบราคาในรายชั่วโมง มีแนวต้านสั้นที่ 10.10 บาท และแนวรับแรกที่ 9.85 บาท หาก Breakout แนวต้านดังกล่าวได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 10.5 บาท และ 11.0 บาท (Stop loss 9.4 บาท)
SMT (เป้าพื้นฐาน 8.25 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯประเมินผลการดำเนินงานปีนี้จะพลิกมาเป็นกำไรสุทธิ 212 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 55 ล้านบาทในปี 2558 จากการปรับกลยุทธ์เน้นสินค้าเทคโนโลยีที่มีอัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง (เริ่มเห็นภาพการ Turnaround ตั้งแต่ 1H59 แล้ว แต่คาดอัตราการใช้กำลังการผลิตสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นใน 2H59) 2) ประเมินการรับรู้รายได้จากสินค้า High margin ดังกล่าวแบบเต็มปีในปี 2560 ทำให้ คาด PE ปีหน้าจะลดลงเหลือ 12 เท่า (จากปีนี้ที่ 22 เท่า) 3) ประเมินแนวรับ 5.5 บาท แนวต้านแรก 5.75 บาท หากผ่านได้มีโอกาสทดสอบ 6.1 บาท ... วันนี้ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
หุ้นกองทุน Infrastructure fund ปันผลดี (DIF, JASIF) สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย ในช่วงภาวะตลาดฯ ผันผวน อาจพิจาณาเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงต่ำอย่างกองทุน Infrastructure fund ที่มีปันผลสูงรองรับ เช่น DIF (Consensus คาด Dividend yield 6.6%) และ JASIF (Consensus คาด Dividend yield 8%)
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่มพลาสติกอานิสงส์น้ำมันต่ำ (WIIK, TPBI, EPG*) เราประเมินราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มพลาสติก (ต้นทุนเม็ดพลาสติกลดลง โดยเฉพาะ PE)
1) WIIK (เป้า Consensus 6.3 บาท) คาดผลการดำเนินงาน 2H59 ยังเติบโตจากดีมานด์ท่อ HDPE (ท่อประปา) + Valuation ต่ำด้วย Trailing PE (PE ย้อนหลัง 4 ไตรมาส) 14.1 เท่า (PE ปีนี้คาดจะต่ำลงอีกเพราะกำไรโต) ประเมินแนวรับ 4.42 บาท / แนวต้าน 4.86 บาท และถัดไปที่ ±5 บาท
2) TPBI (เป้าพื้นฐาน 15 บาท) คาดผลการดำเนินงาน 2H59 เป็น High season + มีดีลซื้อกิจการปลายปีนี้ + Valuation ต่ำด้วย PE ปีนี้ 13.1 เท่า ประเมินแนวรับ 13.3 บาท / แนวต้าน 14.5 บาท
3) EPG* (เป้า Consensus 17.2 บาท) คาดผลการดำเนินงาน 2H59 เป็น High season + มีดีลซื้อกิจการปลายปีนี้ ... อย่างไรก็ดี Valuation สูงกว่า WIIK และ TPBI ด้วย PE ปีนี้ 21.7 เท่า ประเมินแนวรับ 13.5 บาท / แนวต้าน 14.5 บาท
รอจังหวะเก็บหุ้นเข้า FTSE ปลายสัปดาห์ (SCC*, KBANK*, BEM*) นักลงทุนอาจพิจารณาเข้าเก็งกำไรหุ้นหลักดักเม็ดเงินลงทุนต่างชาติจากการปรับเพิ่มหุ้นเข้าคำนวณดัชนี FTSE อาทิ SCC*, KBANK*, BEM* โดยคาดเม็ดเงินลงทุนจากการ Rebalance ดัชนีดังกล่าวจะสิ้นสุดวันนี้ ... อย่างไรก็ดีสำหรับหุ้น SCC* (กำไรโตต่อ Spread ปิโตรฯยังดี), KBANK* (คาดพ้นวัฏจักรเศรษฐกิจตกต่ำไปแล้ว) และ BEM* (สัปดาห์หน้าพิจารณาเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน) ฝ่ายวิจัยฯมีมุมมองเชิงบวกในเชิงปัจจัยพื้นฐานอยู่แล้ว ดังนั้นสำหรับนักเก็งกำไรสั้นอาจพิจารณาขายล๊อกกำไรวันนี้ แต่สำหรับนักลงทุนระยะกลาง อาจพิจารณา “ซื้อสะสม” ได้ในเชิงพื้นฐาน
หุ้นมีข่าว
(-) กรรมการ PPP เบรกแผนร่วมทุน งานมอเตอร์เวย์ 2 สาย เหตุไม่มั่นใจข้อกฎหมาย (ข่าวหุ้น) กรรมการ PPP เบรกแผนร่วมทุนงานวางระบบเก็บค่าผ่านทาง และซ่อมบำรุง (O&M) มอเตอร์เวย์ 2 สาย เหตุไม่มั่นใจข้อกฎหมายกรมทางหลวง มอบกระทรวงคมนาคมเร่งปรึกษากฤษฎีกา พร้อมส่งผลสรุปเร็วที่สุด
(+) TAPAC กำไรพุ่งพรวด 359% บอร์ดไฟเขียวเพิ่มทุนผถห. (ทันหุ้น) TAPAC โชว์กำไรไตรมาส 3/2559 ร้อนแรงพุ่งขึ้น 359% แตะ 31.65 ล้านบาท หลังลุยธุรกิจก่อสร้างและอสังหาในสวีเดน หนุนรายได้เพิ่ม 174% แถมคุมต้นทุนอยู่หมัด ด้านบอร์ดอนุมัติเพิ่มทุน 56.82 ล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิม 4:1 ที่ราคาหุ้นละ 2.60 บาท รองรับขยายกำลังการผลิต
(+) SGP จ่อบุ๊กโรงไฟฟ้า Q3 บุกสยายปีกบังกลาเทศ (ทันหุ้น) "SGP" เตรียมบุ๊กกำไรลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมขนาด 230 เมกะวัตต์ ประเทศเมียนมาในไตรมาส 3/2559 เล็งขยายการลงทุนต่อเฟส 3 ตั้งเป้าโกยยอดขายแก๊สผ่านแนวชายแดนเพิ่มขึ้นเดือนละ 7-8 พันตันในปลายปีนี้ แย้มเตรียมสยายปีกรุกบังกลาเทศ ลงทุนโรงบรรจุก๊าซ คลังเก็บก๊าซ และท่าเรือ คาดได้ข้อสรุปภายในปีนี้
(+) 'เทมเพิลตัน' ซื้อบิ๊กล็อตออริจิ้น กลุ่มหุ้นใหญ่ลดสัดส่วนหลังเจรจากว่า 1 เดือน (กรุงเทพธุรกิจ) ผู้บริหารชูจุดเด่นหุ้นเติบโตสูง กองทุนเทมเพิลตันซื้อบิ๊กล็อตหุ้นออริจิ้น 25 ล้านหุ้น หรือ 3.7% จากกลุ่มจรูญเอกซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ผู้บริหารเผยกองทุนสนใจเพราะเป็นหุ้นเติบโตสูง ไม่หวั่นสถาบันถือหุ้นทำสภาพคล่องหนืด ปรับเป้ายอดขายปีนี้แตะ 8.5 พันล้าน
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
TPCH (เป้า Consensus 24.6 บาท) ราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัว สำหรับนักลงทุนที่ขายตัดขาดทุนไปแล้ว อาจพิจารณา ซื้อสะสมใหม่ หากยืนบริเวณ 17.4 บาทได้ (เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แบบ EMA) ... ในเชิงพื้นฐานยังคงประเมินแนวโน้มกำไรทำนิวไฮ 3-5 ไตรมาสติด + รอ Catalyst การได้ PPA 20MW (เปลี่ยนจาก LOI)
GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 17 บาท) ประเมินแนวรับ 13 บาท และถัดไปที่ 12.5 บาท แนวต้านแรก 13.4 บาท และถัดไปที่ 14.4 บาท (Stop loss 12.4 บาท) … ในเชิงพื้นฐานฝ่ายวิจัยฯประเมิน Upside หุ้น GLOBAL* มากกว่า HMPRO* (GLOBAL upside 30% / HMPRO upside 17%)
TMT (เป้าพื้นฐาน 14.2 บาท) ประมาณการฯล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯคาดปันผลปีนี้ 1.6 บาท/หุ้น (คิดเป็น Dividend yield 12.8%) ... อย่างไรก็ดี คาดปันผลปีนี้มากเป็นพิเศษเพราะราคาเหล็กที่ฟื้นตัวแรงในไตรมาส 2/59 เป็นหลักดังนั้น ในปีหน้าคาดปันผลจะลดลงสู่ระดับปกติที่ ±6%
ILINK (เป้า Consensus 24.1 บาท) รูปแบบราคาแกว่งตัวในกรอบ 19.0 – 22.2 บาท หากทะลุแนวต้าน 22.2 บาทได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 22.9 บาท … หุ้นลูก ITEL (ILINK ถือหุ้น 60%) เข้าเทรด เป็นการปลดล๊อกมูลค่าของ บ.ลูก
IFEC* (อยู่ระหว่างพิจารณาปรับประมาณการฯ) ในเชิงพื้นฐานประเมิน Replacement cost (หรือ Liquidation value) ที่ 6.1 บาท
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
SMT แนะนำ “ซื้อ” (Initiate Coverage) เป้าพื้นฐาน 8.25 บาท เริ่มดูแลหุ้น SMT ด้วยคำแนะนำซื้อ และให้ราคาเป้าหมายที่ 8.25 บาท ประเด็นสำคัญการลทุนได้แก่ i) บริษัทกำลังขยับธุรกิจเข้าไปหาตลาดที่มีศักยภาพสูง อย่างเช่น กลุ่มผู้บริโภคขั้นสูง, อุปกรณ์การแพทย์, Internet of things, optical communication, อิเล็กทรอนิกส์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ และ พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้ EPS เติบโตอย่างน่าประทับใจถึง 59.3% CAGR ในช่วงปี 2560 -2561 และ ii) ราคาหุ้นที่ไม่แพง ซึ่งคิดเป็น PER ปี 2560 ที่เพียง 11.9 เท่า
GPSC* แนะนำ “ถือ” (ปรับจากเดิม “ขาย”) เป้าพื้นฐาน 34 บาท Downside เริ่มจำกัด (ราคาหุ้นลง) ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ดีมี Upside เปิดจากการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะที่ จ. ระยองและการจับสลากโครงการโซลาร์ส่วนราชการ รวมถึงการประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวลเฟสที่ 2
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ค่าเฉลี่ยเก้าวันที่ต้าน 1467 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1467 จุดได้นั้น อาจผลักราคาขึ้นทดสอบต้าน 1478 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1467 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1467-1450 จุด
แนวรับวันนี้: 1457/1450 แนวต้านวันนี้: 1467/1477
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]