WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

SET ยังมีลุ้นขึ้นต่อ แม้ว่าอาจผันผวนบ้าง ดังนั้นซื้อแล้วยังเน้นถือดีกว่า

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัวบวก-ลบเล็กน้อยในช่วงแรก ตามบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ยังเป็นลบ หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลงเกือบ 3% เป็นแรงกดดัน แต่สำหรับตลาดหุ้นไทยยังมีแรงซื้อหนุนเข้ามาจนยังสามารถแกว่งตัวด้านบวกต่อเนื่องได้อีก
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : บรรยากาศการลงทุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศกลับมาสดใสมากขึ้นอีกครั้ง โดยตลาดหุ้นสหรัฐสามารถพลิกกลับมาแกว่งตัวด้านบวกและปิดบวกไปเกือบ 1% จากคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกลางสัปดาห์หน้า เนื่องจากยอดค้าปลีกของสหรัฐลดลงมากกว่าคาด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ฟื้นตัวขึ้นเกือบ 1% จากข่าวการปิดท่อส่งน้ำมันในรัฐเท็กซัสเป็นการชั่วคราว เพราะพบการรั่วไหล กระตุ้นให้มีแรงซื้อในตลาดหุ้นเอเชียกลับเข้ามาอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะยังส่งผลบวกต่อ SET ต่อเนื่องได้อีก โดยเฉพาะช่วงนี้สถาบันในประเทศเริ่มกลับมามียอดซื้อสุทธิต่อเนื่องบ้างแล้ว แม้ว่าจะยังเบาบางก็ตาม ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET จะอยู่ในช่วงรีบาวด์ขึ้นต่อได้อีกมากกว่า
  กลยุทธ์ : คาดว่าระยะสั้น SET ยังมีโอกาสกลับขึ้นไปแถว 1500 จุด(+/-) ให้ทำกำไรตามรอบได้ แต่ FSS แนะนำให้เน้นถือลงทุนเพื่อลุ้นดัชนีขยับขึ้นหาระดับดัชนีตามพื้นฐานที่เราประเมินไว้ที่ 1650 จุดมากกว่า
  แนวรับ 1460-1457 , 1452-1448 จุด
  แนวต้าน 1465-1468 , 1477-1482 จุด
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : SYNTEC, PS , TVO(buy back)
  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$16ล้าน ส่วนใหญ่ไหลออกจากอินโดนีเซีย US$40ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไทยในปริมาณใกล้เคียงกันที่ราว US$40ล้าน (เกาหลีใต้และไต้หวัน ปิดทำการเนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์) แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางชะลอการไหลเข้า เพื่อรอการประชุม Fed ในสัปดาห์หน้า

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) รอผลประชุม Fed สัปดาห์หน้า แม้ตัวเลขค้าปลีกเมื่อคืนนี้ออกมาต่ำกว่าคาด ลดความคาดหวังว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยไปได้ในระยะสั้นแต่เชื่อว่า Flow สัปดาห์หน้าผันผวนรอผลประชุม Fed สำหรับ BOE ที่แม้จะคงวงเงิน QE ที่ 6 หมื่นล้านปอนด์ และคงดอกเบี้ยที่ 0.25% แต่การส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยภายในปีนี้ ซึ่งเหลือการประชุมอีก 2 ครั้ง (3 พ.ย., 15 ธ.ค.) และการเพิ่ม GDP 3Q16 ขึ้นเป็น +0.3% จาก +0.1% ที่คาดในเดือนก่อน เพราะตัวเลขเศรษฐกิจหลัง Brexit แกร่งกว่าที่ประเมิน เป็นผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง
(+) FSMART เราคาดกำไร 3Q16 ทำ new high ต่อเนื่อง +6% Q-Q, +43% Y-Y ตามการเพิ่มขึ้นของยอดเติมเงินมือถือผ่านตู้บุญเติมซึ่งเป็นรายได้หลัก เสริมด้วยบริการอื่นที่ค่อยๆเพิ่มเข้ามา คือเครื่องชั่งน้ำหนักและการโอนเงินผ่านตู้ (ปัจจุบันร่วมกับ KTB และกำลังคุยกับ 1-2 แบงก์ใหญ่) เราคาดกำไรปีนี้ +48% และปีหน้า +28% ราคาหุ้นที่ปรับลง 10% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ Forward PE ลดจาก 25x เหลือ 22x คิดเป็น PEG เพียง 0.8 เป็น Valuation ที่ถูกอีกครั้ง แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐานปีหน้า 19.50 บาท
(+) KKP สินเชื่อเดือน ส.ค. +0.55% M-M ส่วนใหญ่เป็นการเติบโตของสินเชื่อประเภท High yield (สินเชื่อรายย่อยที่ไม่ใช่เช่าซื้อ สินเชื่อที่ให้กลุ่ม High Net worth สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์) ตามกลยุทธ์ของบริษัท แนวโน้มกำไร 2H16 สดใส เพราะมีกำไรขาย KKTrade 30-50 ล้านบาทใน 3Q16 รายได้จากที่ปรึกษาทางการเงิน Thailand Future Fund ราว 100-200 ล้านบาทใน 4Q16 และแนวโน้มการขาย NPA ที่ดีขึ้น รวมถึงการตั้งสำรองที่น่าจะลดลง ยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐานปีนี้ 61 บาท
(+) IRPC เรากลับมาเริ่ม Coverage ใหม่ด้วยคำแนะนำซื้อ ประเมินราคาพื้นฐานปีหน้า 5.80 บาท โครงการ UHV (นำผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมมูลค่าต่ำมาเพิ่มมูลค่า) ที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ไปเมื่อ ก.ค. กำลังเริ่มส่งผลบวก แลเมื่อเดินเครื่องเต็มที่ (คาด 4Q16) จะเพิ่ม GIM ให้ราว US$2/บาร์เรล ปีหน้ามีโครงการ PPE+PPC ซึ่งต่อยอดจาก UHV มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าอีก เราคาดกำไรปีนี้ +6% แต่ -9% ในปีหน้าเพราะมีหยุดซ่อมบำรุง แต่ในปีถัดๆไปจะเห็นการเติบโตของกำไรเต็มที่ แม้กำไรปีหน้าจะชะลอแต่ Forward PE ต่ำเพียง 10.7 เท่าและมี PBV เพียง 1.1 เท่า ยัง laggard กลุ่มพลังงาน
(+) SQ รับเหมาให้บริการทำเหมืองแร่ครบวงจรทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่วางแผน เปิดหน้าเหมือง ขุดขนแร่ เป็นที่ปรึกษาด้านงานเหมือง คู่แข่งในประเทศมีน้อยรายเพราะต้องอาศัยบุคคลากรที่เชี่ยวชาญมาก แนวโน้มกำไรปกติใน 3 ปีข้างหน้าจะโดดเด่น คาด +75% ต่อปี เพราะจะรับรู้รายได้โครงการเหมืองหงสาและเหมืองแม่เมาะโครงการ 8 เต็มปีตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไป ในอนาคตมีโอกาสการประมูลโครงการใหม่ 3 โครงการในประเทศ และ 2 โครงการในต่างประเทศ เราประเมินราคาเหมาะสมปี 2017 ที่ 4.30 บาท (DCF) (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ SQ)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม

15-16 ก.ย. - ตลาดหุ้นจีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ ปิดทำการ
16 ก.ย. - FSTE 2016 Semi-Annual Review (เพิ่ม KBANK, SCC, GPSC, VIBHA, IMPACT และเอาออก THRE)
- ตลาดหุ้นฮ่องกงและมาเลเซีย ปิดทำการ
- สหรัฐ:อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
20-21 ก.ย. - สหรัฐ: FOMCประชุม
20 ก.ย. - ไทย:ยอดขายรถ (ส.ค.)
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ส.ค.)
21 ก.ย. - BOJประชุม
22 ก.ย. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ย.)

(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนพลิกกลับมาปิดบวก 177.71 จุดหรือ +0.99% จากคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า(20-21 ก.ย.) เพราะตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน ส.ค.ปรับตัวลง 0.3% ลดลงมากกว่าคาด
(+) ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ก็ปิดบวกจากข่าวนี้ด้วย นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่า BOE อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย
(+) ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้จึงได้รับแรงหนุนในเชิงบวกด้วยเช่นกัน
(0) ค่าเงินบาทยังค่อนข้างแกว่งตัวผันผวนขึ้น-ลงภายในกรอบ โดยแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 34.8-34.95 บาท/ดอลลาร์ มาเป็นสัปดาห์แล้ว
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. กลับมาปิดบวก 0.33 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 43.91 ดอลลาร์/บาร์เรล จากแรงซื้อเก็งกำไร หลังสัญญาน้ำมันร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้าจากข่าวการปิดท่อส่งน้ำมันในรัฐเท็กซัสเป็นการชั่วคราว เนื่องจากพบการรั่วไหล
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ร่วงลง 8.1 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,318.0 ดอลลาร์/ออนซ์ จากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังกดดัน

Contact person : Somchai Anektaweepon 
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!