บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน13-9-16

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Tuesday, 13 September 2016 18:20; Hits: 6361

บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

รอบด้านตลาดหุ้น
ผลตอบแทนตลาดหุ้นเอเชียผ่าน 2 สัปดาห์แรกของเดือนกันยายน 2559 ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมากที่สุด 7.5% ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียปรับตัวลดลงเฉลี่ยที่ 2% ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงจะหดตัวลงท่ามกลางความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น สินทรัพย์เสี่ยง อาทิเช่น ทองคำ น้ำมันดิบ และหุ้น ให้ผลตอบแทนลดลง โดยนักลงทุนมีแนวโน้มที่จะลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทุกประเภทเนื่องจากความกังวลที่เฟดอาจจะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เงินดอลล่าร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินในเอเชีย ดังนั้น เราจึงมองว่าเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติจะยังชะลอตัวลง ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงปรับตัวลดลง โดยลงไปทำจุดต่ำสุดและปิดที่ 1411.85 จุด เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับลงไปถึงแนวรับหลักระยะยาว คำถาม:แนวรับหลักของดัชนีอยู่บริเวณใด? จุดที่น่าสนใจคือหากปรับตัวลงแรงแถวบริเวณ 1390 จุด จะส่งผลให้เครื่องมือทางเทคนิคอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ และแนวรับตามตัวเลข Fibonacci 50% ซึ่งน่าจะทำให้เครื่องมือทางเทคนิคอยู่ในระดับต่ำ Oversold
คำแนะนำ “ระยะสั้นซื้อเก็งกำไรเล่นรอบ ระยะยาวเน้นถือเงินสด” เพื่อรอโอกาสซื้อเมื่อตลาดเริ่มมีสัญญาณกลับตัวคาดว่าแนวรับจะอยู่บริเวณ 1390 จุด

รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
หุ้น Small-Cap
ILINK (BUY, TP 30.00 บาท): Catalyst มาจาก 1) คาดกำไรโตแรง 55% ในปี 2017 จากการรับรู้รายได้โครงการ AOT ราว 800 ล้านบาท ในขณะที่โอกาสกำไรโตผิดคาดมีน้อย เพราะมี Backlog แล้ว 2) คาดราคาหุ้น Re-rate PE ตามโครงการที่จะออกประมูลในปีนี้ราว 14,800 ล้านบาท (คาด ILINK มีโอกาสได้งานราว 1 ใน 3 หรือ 5,000 ล้านบาท หนุน backlog สูงเป็นประวัติการณ์) ในอดีตเมื่อบริษัทมี Backlog สูงกว่า 2,000 ล้านบาท หุ้นเทรด P/E 30 เท่า 3) รายได้ Recurring income จาก ITEL คาดเติบโตสูง และขึ้นเป็นส่วนใหญ่ของพอร์ต หนุนกำไรมั่นคงในระยะยาว
COM7 (BUY, TP 12.50 บาท): ยอดขายในช่วง 2H16-2017 มีโอกาสเติบโตดีกว่าคาดจากการ model change ของ 2 ผลิตภัณฑ์ Apple iPhone และ Macbook (ซึ่งรายได้จาก Apple คิดเป็นประมาณ 50% ของรายได้รวม) ซึ่ง Bloomberg’s consensus คาดยอดขาย iPhone จะเติบโตพลิกกลับมาเป็นบวกในปีหน้า (ปีนี้ Apple ยอด iPhone หดตัว แต่ COM7 ยอดขายเพิ่ม) ประกอบกับยอดขาย accessory จากที่คาดเติบโตสูงเกือบ 20% จาก accessory แบบใหม่ที่ใช้งานร่วมกับ iPhone7
TPCH (BUY, TP 27.50 บาท): คาดกำไร 2H16-2017 จะเห็นการเติบโตก้าวกระโดด คาดกำไรจะทำจุดสูงสุดใหม่ในแต่ละไตรมาส จากการเริ่มขายไฟฟ้า (COD) ของโรงไฟฟ้าอีก 3 โรง ในช่วง 3Q16, 1Q17 และ 2Q17 ตามลำดับ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง (บริษัทได้รับ PPA เป็นที่เรียบร้อยแล้ว) และยังมี upside จากการได้รับ PPA ในโครงการปัตตานี เฟส 1 23MW และ โรงไฟฟ้าขยะชุมชนอีก 8MW ที่จะคัดเลือกในเดือน พ.ย. นี้
TACC (BUY, TP 12.30 บาท): ปัจจุบัน TACC เทรด PEG ปี 2016 เพียง 0.7 และ PEG ปี 2017 ที่ 0.8 เท่า (เทียบกับกลุ่มเทรดเกิน 1 เท่า) ประกอบกับปัจจัยด้านพื้นฐานที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดกำไร 2H16 จะเติบโตถึง 93% YoY โดยเฉพาะใน 4Q16 ที่จะมีสินค้าใหม่เข้ามาหนุน ภาพรวมทั้งปี 2016 ยังคงมองว่าจะโต 57% YoY และปี 2017 โตต่อเนื่องที่ 39% YoY เพราะฉะนั้นราคาหุ้นน่าจะมีการแรลลี่ขึ้นไปได้อีกครั้งสอดรับกับโมเมนตัมของกำไรที่ดีต่อเนื่อง
(+) TISCO เรามองว่าบริษัทพยายามที่จะขยายการให้สินเชื่อไปกลุ่มที่อัตราผลตอบแทนสูง เช่น กลุ่มสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อรถมือสอง โดยคาดว่าจะทำให้สินเชื่อในปี 2016 ลดลง 4% ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวราว 3% ในปี 2017 เราคาดการณ์กำไรปี 2016 ที่ 4.95 พันล้านบาท (+16.5%) และ 2017 ที่ 5.35 พันล้านบาท (+8.1%) โดยกำไรที่เติบโตค่อนข้างดีมาจากการตั้งสำรองฯที่ลดลง และ NIM ที่คงอยู่ในระดับสูง สำหรับมุมมองใน 3Q16 ที่จะถึงนี้เราประเมินกำไรไว้ที่ 1.28 พันล้านบาท เติบโต 6% QoQ และ 58% YoY สาเหตุหลักมากจาก การตั้งสำรองที่ลดลงอย่างมากราว 58% YoY และ 3% QoQ (ปี 2015 มีการตั้งสำรอง SSI) ในขณะที่ NIM ยังคงระดับที่ดี 4% (+30bps เทียบกับปีที่แล้ว) เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 63.50 บาท

ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์/ปัจจัยทางเทคนิค

---------------------------------------