- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 13 September 2016 17:56
- Hits: 891
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนียังคงแกว่งตัวลงต่อตั้งแต่เปิดตลาด กระโดดลง 22.50 จุด พร้อมแกว่งตัวผันผวนในทิศทางลงอย่างต่อเนื่องด้วยการทำจุดต่ำสุดที่ 1410.87 จุด ลดลง 34.41 จุด ถึงแม้จะมีการดีดกลับได้ระหว่างทางแต่ยังอ่อนกำลัง โดยมีจุดสูงสุดของวันที่ 1432.37 จุด ลดลง 12.91 จุด ทำให้มีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันที่ 21.50 จุด ทั้งนี้หุ้นที่กดดัชนีได้แก่ PTT, KBANK, SCC, SCB, ADVANC, AOT, CPF, BBL, PTTEP, PTG, CBG, CK ก่อนที่ดัชนีจะทำปิดที่ 1411.85 จุด ลดลง 33.43 จุด (-2.31%) มูลค่าการซื้อขาย 53,983ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้เป็นอีกวันที่ปรับตัวลงแรง ด้วยการเปิดกระโดดลงสร้าง Gap ขาลงมีความกว้าง 3.5 จุด (1432.17-1435.67) ไหลลงต่อเนื่องทำ New Low 1410 จุด หลุดทุกแนวรับโดยเฉพาะแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 75 สัปดาห์ (1416) จากภาพที่ลงมาลึกมากถึง 140 จุด หรือ 9% ใช้เวลาเพียงแค่สัปดาห์กว่า และสัญญาณที่ Oversold มาก ๆ ที่ Stochastic มีค่า %K = 10 // RSI = 19.9 ทำให้มีแนวโน้มเกิด Technical Rebound แนวต้าน 1420-1430 จุด หากเลือกที่จะปรับตัวลงต่อเชื่อว่าแนวรับที่ระดับจิตวิทยา 1400 จุด หรือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (1393) น่าจะเป็นจุดพักตัวได้อีกจุด
กลยุทธ์ : แกว่งตัวผันผวน-ปรับฐานต่อ
Support 1417 // 1390 // 1350 จุด Resistance 1470-1490 // 1500 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(+) SMPC: ผู้ผลิตถังแก๊สอันดับ 1 ของโลก แนวโน้มกำไรโดดเด่นต่อเนื่อง
Market Trend
ทิศทางตลาดหุ้นไทย วานนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) 2 ท่านออกมาแสดงความเห็นต่อการพิจารณาของ Fed แต่ที่ตลาดให้ความสนใจจะเป็นคำกล่าวของ นางลาเอล เบรนนาร์ด ที่ยังไม่สนับสนุนให้ Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ (Fed Fund Rate Implied Probability เดือน ก.ย. ขยับจาก 30% เป็น 22%) พลิกตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี Dow Jones บวกต่อขึ้นไปได้ ค่าเงินดอลล่าร์และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวลดลงขณะที่ราคาน้ำมันดิบขยับตัวสูงขึ้น สอดคล้องกับโอกาสที่ Fed จะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยตลาดหุ้นยุโรปคืนที่ผ่านมา ยังไม่ได้รับรู้ผลบวกตัวนี้ แต่ถึงตลาดหุ้นสหรัฐฯจะบวกได้ก็ตาม แต่เราคาดว่า จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นอื่นๆได้ไม่มากนัก เพราะตัวแปรตัวนี้ จะยังคงวนเวียนอยู่ในตลาดจนกว่าจะมีการประชุมจริงของ Fed (FOMC) ในวันนี้ 20-21 ก.ย. หรือสัปดาห์หน้า ข้อมูลการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นเอเซีย ส่วนใหญ่ยังเป็น Net Sell โดยเฉพาะ อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ บ่งชี้ว่า นักลงทุนกลุ่มนี้ยังมีแนวโน้มที่จะชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นอยู่ต่อไป ส่วนหนึ่งเราว่ามาจากตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ โดยเฉพสะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางต่างๆ ที่ออกมาตรการใหม่ๆน้อยกว่าเดิม (รอการตัดสินใจของ Fed ก่อน)
............. ปัจจัยในประเทศ แรงขายที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการวกกลับของดัชนีฯ ตราบที่ยังมีแรงขายโดยมีสาเหตุที่ไม่ชัดเจน จะทำให้แรงใหม่ๆมีน้อย นักลงทุนต่างประเทศมียอดเป็น net buy แต่จะเลือกซื้อเป็นรายตัวมากกว่า จึงแทบไม่ได้ช่วยตลาดหุ้นในช่วงนี้ ทำให้เราประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ อาจบวกได้ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อเปิดตลาด แต่ถ้ายังมีแรงขายเข้ามา อาจทำให้ตลาดนั้น พลิกมาอยู่ในแดนลบได้เช่นกัน ........... Event ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างวัน ประกอบด้วย ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดขายปลีกของจีน และการประชุม ครม.ของไทย
กลยุทธ์การลงทุน จากที่เรามองตลาดวันนี้ จะมี technical rebound ให้เห็น หากดัชนีฯสามารถยืนได้ ก็ควร "ถือ"หุ้นต่อไป แต่ถ้าตามมาด้วยแรงขายหรือซื้อน้อย ภาพตลาดก็จะออกไปในทางลบ ทั้งนี้ ตลาดยังมีความอ่อนไหวต่อตัวแปรต่างๆค่อนข้างมาก และนักลงทุนพร้อมที่จะขายมากกว่า ............. กลยุทธ์การลงทุน เรายังแนะนำให้ลดพอร์ต รอซื้อเมื่อดัชนีฯเริ่มยืนได้ (หรือขึ้น 2 วันติดต่อกัน) กรอบเวลาการลงทุนปรับเป็นเล่นสั้นๆ เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและราคาปรับตัวลงมามากๆไว้ก่อน หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ KCE , QH , TU
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (12 ก.ย.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,411.85 จุด ลดลง 33.43 จุด หรือ -2.31% มูลค่าการซื้อขาย 53,983.22 ล้านบาท ตลาดฯเจอแรงกดดันจากต่างประเทศเพิ่มเข้ามา หลังนักลงทุนมีความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี่ยของเฟดในการประชุมครั้งหน้า
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ 18,325.07 จุด พุ่งขึ้น 239.62 จุด หรือ +1.32% หลังหนึ่งในคณะผู้ว่าการ เฟด กล่าวว่า เฟดควรดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ส่งผลให้ความกังวลเริ่มคลี่คลายลงบ้าง แต่ด้าน Stoxx Europe 600 ร่วงลง -1% ปิดที่ 342.23 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 46.29 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - นางเบรนนาร์ดหนึ่งในคณะผู้ว่า เฟด แนะนำให้เฟดใช้ความระมัดระวังมิให้ปรับนโยบายอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป ขณะที่มีความวิตกต่อผลกระทบจากปัจจัยภายนอกประเทศที่จะกระทบเศรษฐกิจสหรัฐ
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธาน เฟด สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันเป็นเหตุผลสนับสนุนให้เฟดควรทำการหารืออย่างจริงจังในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
กลุ่มสายการบิน - กพท.ระบุว่า หาก ICAO ปลดธงแดงหน้าชื่อประเทศไทยแล้ว กพท.จะพิจารณาออก AOC ให้กับผู้ประกอบการสายการบินใหม่ อีก 10 ราย ที่ขณะนี้กำลังอยู่ในกระบวนการยื่นขอรับใบ AOC เพื่อทำการบิน
กลุ่มท่องเที่ยว - จากเหตุการณ์ทัวร์ศูนย์เหรียญ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาคาดจะกระทบต่อการท่องเที่ยวจากจีนในระยะสั้น โดยคาดนักลท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาไทยในเดือน ก.ย.นี้ จะลดลง 20% จากเป้าหมาย
News Release :
ซื้อBEM-SCC-KBANK จ่อคำนวณดัชนีฟุตซี่ฯ จับตาศุกร์นี้วิ่งรับข่าวดี พื้นฐานเด่น-อัพไซด์สูง
+ ดักซื้อ 3 หุ้นบลูชิพ "BEM-SCC-KBANK" จ่อเข้าคำนวณดัชนี "FTSE Asia Pacific Ex Japan" ศุกร์นี้ จับตาวิ่งรับข่าวดี พื้นฐานเด่น-ราคาหุ้นมีอัพไซด์สองหลักทุกตัว(ข่าวหุ้น)
BIGอัพไซด์57%เป้า6บาท ครึ่งหลังกำไรพุ่ง 560 ล้าน
+ "BIG" วิ่งบวกสวนตลาด เทรดหุ้น P/E สุดต่ำแค่ 18 เท่า โบรกฯ การันตี "ซื้อ" ตอกย้ำพื้นฐานแกร่ง กำไรครึ่งปีหลังโตแรงรับไฮซีซั่น 560 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 200% จากปีก่อน ราคาเป้าหมาย 6 บาท อัพไซด์ทะลัก 57% (ข่าวหุ้น)
คลังชี้ปัจจัยภายในกดหุ้น โบรกฯลุ้นบจ.กำไร Q3 สวย
+ สบช่องดัชนีวูบหนัก เงินเริ่มไหลเข้ากองทุน LTF บลจ.บัวหลวง คาดเงินไหลเข้าอีก 1.8 หมื่นบ้านบาท ด้านมอร์นิ่งสตาร์เปิดโผกองทุน LTF ที่ทำผลตอบแทนได้สูงสุดย้อนหลัง 1 ปี เป็นของ บลจ.กสิกรไทย 26.32% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี คือ บลจ.ยูโอบี 15.67% (ข่าวหุ้น)
ยก CK-SEAFCO เด่นสุด รับอานิสงส์ลงทุนภาครัฐ
+ "CK-SEAFCO" เด่นสุดหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ โบรกฯ ให้น้ำหนักลงทุน "มากกว่าตลาด" ชี้จ่อรับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ 6.78 แสนล้านบาท เชียร์ "ซื้อ" CK เป้าราคา 38 บาท ส่วน SEAFCO เป้าราคา 14.50 บาท(ข่าวหุ้น)
MCSหุ้นเด่นพื้นฐานแกร่ง โชว์กำไรทุบสถิติ3ปีซ้อน
+ MCS พื้นฐานแกร่ง โชว์สเต็ปกำไรทุบสถิติ 3 ปีซ้อน (59-61) แถมปันผลสูง 6-7% ต่อปี สวนทางราคาหุ้นสุดถูก P/E ต่ำ 8.10 เท่า จับตาผลงานไตรมาส 3-4/2559 สดใส หลังรายใหญ่ญี่ปุ่น 4 ราย เรียงคิวป้อนออเดอร์งานโครงสร้างเหล็กล็อตใหญ่ หนุน Backlog ทะลุ 200,000 ตัน เสือนอนกินยาว 4-5 ปี พิกัดราคา 17.19 บาท มี Upside 37% (ทันหุ้น)
SAMARTเตรียมรับข่าวดี ชูงบครึ่งปีหลังฟื้นตัวแรง
+ SAMART เตรียมมีข่าวดี หลังภาครัฐเริ่มปีงบประมาณใหม่ ดันงานเปิดประมูลมากขึ้น มูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านบาท "วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์" เชื่อหนุนผลประกอบการครึ่งปีหลังฟื้นตัว ฟากโบรกส่องกล้องปีหน้าเติบโตสดใส บริษัทลูกตั้งหลักได้ จ่อโกยรายได้เต็มสูบ (ทันหุ้น)
โบรกชี้จังหวะสะสมหุ้นP/Eต่ำ กลุ่มแบงก์-อสังหาราคายั่วใจ
+ โบรกเกอร์มองตลาดหุ้นปรับฐานรอบใหญ่ หลังดัชนีดีดตั้วขึ้นแรงตั้งแต่ช่วงต้นปี มองเป็นจังหวะช็อปหุ้นดีราคาถูก ชี้เป้าลงทุนหุ้นใหญ่กลุ่มแบงก์ พลังงาน และอสังหาริมทรัพย์ หลังราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E ต่ำเพียง 9-10 เท่า พร้อมชี้มีลุ้นดัชนีหุ้นไทยปีหน้าวิ่งยาวทดสอบ 1,600-1,700 จุด(ทันหุ้น)
รัฐลุยสายไฟลงดิน6.3หมื่นล. CTW-ILINK-ASEFAชิงเค้ก
+ กฟน.เร่งเครื่อง "โครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน วงเงิน 6.3 หมื่นล้านบาท เปิดฉากประมูลตุลาคมนี้ นำโดยโครงการพระราม 3 เฟสแรก มูลค่า 2.5 พันล้านบาท โบรกชี้ CTW-ILINK-ASEFA เบียดไหล่เข้าประมูล ด้าน CTW ภาษีดี ITD หนุนหลัง ปูพรมกำไรนิวไฮ ส่วน ILINK ฮุบงานหนุนแบ็กล็อกทะลุ 3 พันล้านบาท ASEFA ชิงเค้กปั๊มรายได้โต 15-20% (ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ :
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์