- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 13 September 2016 17:48
- Hits: 914
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ฟื้นตัว แนะเข้าเก็งกำไร แต่ยังให้ระวังความผันผวนของตลาด
KGI คาด SET วันอังคารรีบาวด์ แนะเข้าเก็งกำไร มองระดับราคาหุ้นปัจจุบันคุ้มเสี่ยงแล้ว (วานนี้ตลาดยังเจอแพนิกเซลต่อ ท้ายตลาด) ปัจจัยบวกมาจากฝั่งสหรัฐฯ หลังหนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด ลาเอล เบรนนาร์ด (มีสิทธิ์โหวตปีนี้) ชี้ว่าเฟดควรคงนโยบายไว้ก่อน ในช่วงที่ความไม่แน่นอนยังสูง ซึ่งความเห็นของเธอส่งผลให้เฟดฟันด์ฟิวเจอร์ลดโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยใน ก.ย. สู่ 15% จากเดิม 24% และจากนี้ถึงวันประชุมเฟด 20-21 ก.ย. จะไม่มีการแถลงจากเจ้าหน้าที่เฟดหลักๆ แล้ว คาดตลาดการเงินจะมีเสถียรภาพมากขึ้น ด้านภาวะตลาดหุ้นไทย การปรับพอร์ตของกองทุนและพอร์ต บล. ยังมีต่อ แต่คาดว่าที่ Valuations ปัจจุบันจะเริ่มมีแรงซื้อสวนมากขึ้น ทั้งนี้ SET ปิดเมื่อวานที่ PE band ไตรมาส 3/2559 ต่ำกว่า 16 เท่า และ fwd PE2560 ที่เพียง 13.2 เท่า เราแนะนำให้เก็งกำไรเร็ว แต่ยังต้องระมัดระวังความผันผวนของตลาด และติดตามการปรับพอร์ตของนักลงทุนอย่างใกล้ชิด
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไรสั้นลุ้น Short covering / “หลุมหลบภัย” หุ้นปันผล JASIF, DIF
หุ้นลุ้นรีบาวด์จากแรงซื้อคืนปิดสถานะชอร์ต (KBANK*, PTTEP*, IVL*, ANAN*, ADVANC*) สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้เท่านั้น อาจพิจารณา เก็งกำไรสั้นในหุ้นที่มีโอกาสรีบาวด์สั้น (ดูตารางข้างล่าง) โดยเราเลือกหุ้นที่มีองค์ประกอบ 2 ประเด็นคือ 1) ถูกชอร์ตในปริมาณมากช่วงวันที่ 7 – 12 ก.ย. และ 2) ค่า Bull beta สูง (คำนวณ Beta เฉพาะวันที่ตลาดฯบวก) และกำหนดจุด Stop loss ถ้าขาดทุนมากกว่า 3%
หุ้นกองทุน Infrastructure fund ปันผลดี (DIF, JASIF) สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย ในช่วงภาวะตลาดฯผันผวน อาจพิจาณาเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงต่ำอย่างกองทุน Infrastructure fund ที่มีปันผลสูงรองรับ เช่น DIF (Consensus คาด Dividend yield 6.7%) และ JASIF (Consensus คาด Dividend yield 8.0%)
หุ้นในกระแส
“Wait & see” รอจังหวะเก็บหุ้นเข้า FTSE ปลายสัปดาห์ (SCC*, KBANK*, BEM*) SET index บริเวณ ±1,400 จุด นักลงทุนอาจพิจารณาเข้าเก็งกำไรหุ้นหลักดักเม็ดเงินลงทุนต่างชาติจากการปรับเพิ่มหุ้นเข้าคำนวณดัชนี FTSE ในปลายสัปดาห์ อาทิ SCC*, KBANK*, BEM* (กำหนดจุด Stop loss ถ้า SET index ต่ำกว่า 1,390 จุด)
หุ้นมีข่าว
(-) การปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนหดตัวลง 20% ในเดือน ก.ย.59 (บางกอกโพสต์) แม้ข่าวการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญจะส่งผลกระทบทางลบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในระยะสั้น แต่เราเชื่อว่าสถานการณ์จะค่อยๆ ฟื้นตัวสู่ภาวะปกติในที่สุด ทั้งนี้ รมว.ท่องเที่ยว ได้เปิดเผยถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนในช่วงวันที่ 1-11 ก.ย.59 เพิ่มขึ้น 33.74% YoY ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง (จากผลกระทบเหตุการณ์ระเบิดราชประสงค์ในปีก่อน) ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยว 7M16 เท่ากับ 19.5 ล้านคน (+11.9% YoY) โดยมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนเท่ากับ 29.5% ของทั้งหมด เราเห็นว่า กลุ่มทัวร์ศูนย์เหรียญจะเดินทางมากับ charter flight ด้วยสัดส่วน 3% ของปริมาณรวม ซึ่งมีผลกระทบไม่มากต่อกลุ่มขนส่งทางกาศ เรายังแนะนำซื้อ AOT*, AAV* และ BA*
(+) Ratchaburi Electricity (RATCH*.BK/RATCH* TB) ลุยโซลาร์ฟาร์มออสเตรเลีย ขนาด 42MW คาด COD ปี 2018 Comment: ราชบุรีได้รับการสนับสนุนให้พัฒนาโครงการ Collinsville ขนาด 42MW ที่ประเทศออสเตรเลียจาก Australian Renewable Energy Agency (ARENA) พร้อมทั้งได้รับเงินสนับสนุนการลงทุน 9.5ล้านเหรียญออสเตรเลีย จากเงินลงทุนรวมของโครงการ คือ 100ล้านเหรียญออสเตรีย ดังนั้นเราคาดว่าบริษัทจะมีต้นทุนในการก่อสร้างโครงการต่ำลง 10% และน่าจะมีอัตราผลตอบแทนที่ดีกว่าโครงการ Mount Emerald เราประเมินมูลค่าส่วนเพิ่มที่บริษัทจะได้รับจากการลงทุนในครั้งนี้ที่ 0.7บาท/หุ้น อิงเงินลงทุนสิทธิ 90.5ล้านเหรียญออสเตรีย project IRR 10% สัดส่วนการถือหุ้น 80% และ COD ปี 2018 อย่างไรก็ตามมูลค่าดังกล่างไม่ได้รวมอยู่ในมูลค่าพื้นฐานของเราเนื่องจากโครงการยังไม่ได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟกับ off-taker ให้ไว้เป็น upside ในอนาคต เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมายกลางปี 2017 ที่ 61.0 บาท
(-) งบโฆษณารวม 8 เดือน ติดลบ 6% (โพสต์ทูเดย์) นีลเส็นเผยตัวเลขโฆษณา 8 เดือนยังติดลบ 6% เคเบิลทีวีและแซทเทลไลต์ทีวีติดลบหนัก 36.24% รายงานข่าวจากเอซี นีลเส็น เผยตัวเลขการใช้เม็ดเงินโฆษณาในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา พบว่าภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณายังคงติดลบอยู่ที่ 6.04% หรือมีมูลค่าอยู่ที่ 76,882 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่มีมูลค่า 81,828 ล้านบาท โดยสื่อที่มีการขยายตัวติดลบมากที่สุด คือ สื่อเคเบิลทีวี/แซทเทลไลต์ทีวี -36.24% ตามด้วยสื่อนิตยสาร -29.41% สื่อหนังสือพิมพ์ -17.93% สื่อทีวีอะนาล็อก -11.04% และสื่อในอาคาร -7.28%
(+) RS ผนึกยูนิลีเวอร์ปลุกเพลงไทยส่งท้ายปี (กรุงเทพธุรกิจ) "อาร์เอส" จับมือ ยูนิลีเวอร์ ลุยกลยุทธ์ "มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เซอร์วิส" ปลุกอุตสาหกรรมเพลงไทยคึกคัก ระดมศิลปินเบอร์ต้น ลุย 4 แคมเปญ 4 ซิงเกิ้ล เจาะลูกค้า 4 สินค้ายอดสูง
(0) “กพท.”ลุยตรวจAOCวันแรก นำร่อง 3 แอร์ไลน์บิ๊กไซส์ “THAI-BA-AAV” (ข่าวหุ้น) “กพท.” ลุยตรวจใบอนุญาตแอร์ไลน์ (AOC) วันแรก นำร่อง 3 สายการบินบิ๊กไซส์ “THAI-BA-AAV” “จุฬา” คาด 4 เดือนทำได้ 8 แอร์ไลน์ ขณะที่ ก.พ. 60 เตรียมหารือ ICAO เข้าตรวจสอบเพื่อปลดล็อกธงแดง
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
TMT (เป้าพื้นฐาน 14.2 บาท) 1) จากประมาณการฯล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯคาดปันผลปีนี้ 1.6 บาท/หุ้น (คิดเป็น Dividend yield 12.9%) ... อย่างไรก็ดี คาดปันผลปีนี้มากเป็นพิเศษเพราะราคาเหล็กที่ฟื้นตัวแรงในไตรมาส 2/59 เป็นหลักดังนั้น ในปีหน้าคาดปันผลจะลดลงสู่ระดับปกติที่ ±6% 2) พิจารณาที่แนวรับ 12 บาท หากต่ำกว่าแนะนำ “รอซื้อที่แนวรับถัดไป” 11.5 บาท และ 11.0 บาท ตามลำดับ
IFEC* (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับลงแรงหลุดแนวรับสำคัญลงมา นักลงทุนระยะสั้นอาจพิจารณาหาจังหวะปรับพอร์ตการลงทุนโดยขายตัดขาดทุนในจังหวะรีบาวด์จากภาวะ Oversold … ในเชิงพื้นฐานยังประเมิน Replacement cost (หรือ Liquidation value) ที่ 6.1 บาท
TPCH (เป้า Consensus 24.6 บาท) เนื่องจากราคาปรับลงหลุดแนวรับสำคัญลงมา นักลงทุนระยะสั้นอาจพิจารณาหาจังหวะปรับพอร์ตการลงทุนโดยขายตัดขาดทุนในจังหวะรีบาวด์จากภาวะ Oversold ... ในเชิงพื้นฐานยังคงประเมินแนวโน้มกำไรทำนิวไฮ 3-5 ไตรมาสติด + รอ Catalyst การได้ PPA 20MW (เปลี่ยจาก LOI)
สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
HMPRO* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 11.4 บาท (ปรับไปใช้เป้าปี 2560) ฝ่ายวิจัยฯคงมุมมองที่เป็นบวกต่อตลาดการปรับปรุงที่อยู่อาศัยเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น คาดจะช่วยหนุนให้อุปสงค์ในตลาดฟื้นตัวขึ้น ในขณะที่แผนการขยายสาขา HomePro และ MegaHome จะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้กำไรในปี 2559 - 60 โตได้ถึง 7.5% และ 15.6% ตามลำดับ คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยขยับไปใช้เป้าหมายพื้นฐานสำหรับปี 2560 ที่ 11.40 บาท (เดิมเป้าปีนี้ 10.1 บาท)
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยสั้นที่ต้าน 1416 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1416 จุดได้นั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1416-1441 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1416 จุดนั้น อาจอ่อนกำลังลงในกรอบ 1416-1393 จุด
แนวรับวันนี้: 1410/1393 แนวต้านวันนี้: 1416/1441
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]
---------------------------------------
ตะลึ่ง คุณป้าแต่ยังสาวเหมือนสาว 20 เคล็ดลับง่าย ๆ เพียงแค่... |
ดูเด็กลง 15 ปีได้ในเวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น! เคล็ดลับง่าย ๆ เพียงแค่.. |