- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 13 September 2016 17:46
- Hits: 768
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : Commodities WoW, DW Report (EPG24C1701A, KTC24C1703A), KTB
Our Portfolio Sep 2016 : ARROW, BCH, BJC, BLA, KTC
หลังจากเลือกหุ้นซื้อแล้วยังเน้นถือไว้ก่อน เพื่อรอทำกำไรตามเป้าหมาย
ตลาดหุ้นวานนี้ : แรงขายจากสถาบันในประเทศยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า(20-21 ก.ย.) ก็ยังกดดันตลาดหุ้นในภูมิภาคต่อเนื่อง ทำให้ SET ไหลลงอีกกว่า30 จุด ส่งผลให้ในช่วง 2 สัปดาห์นี้ SET ปรับตัวลงมาแล้วเกือบ 150 จุดแนวโน้มตลาดวันนี้ : หลังจาก SET ปรับตัวลงมาแรงมากแล้ว ในขณะที่เช้านี้ยังพอที่จะมีแรงหนุนจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเป็นบวกได้กว่า 1%
เนื่องจากหนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดกล่าวสุนทรพจน์ระบุว่าเฟดยังควรดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปก่อนดีกว่า ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้าลงได้บ้าง ช่วยกระตุ้นให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่มีจังหวะรีบาวด์กลับมาแกว่งบวก พร้อมทั้งยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีจังหวะฟื้นตัวหลังโอเปกคาดว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะสูงขึ้นในปีนี้ ซึ่ง FSS คาดว่าน่าจะส่งผลบวกต่อ SET ด้วยเช่นกัน ขณะที่ผ่านมา SET ไหลลงมาค่อนข้างลึกและเร็วเกินไป ทำให้ลุ้นโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นเร็วและแรงในช่วงแรกได้ด้วย
กลยุทธ์ : หลังจากทยอยซื้อสะสมไปพอควรแล้ว ยังแนะนำให้เน้นถือเพื่อรอลุ้น SET ขยับขึ้นเร็วและแรงได้ โดยเป้าหมายระดับดัชนีตามพื้นฐานที่ FSSประเมินไว้ของปีนี้ เรายังคงมองไว้ที่ 1650 จุดอยู่
แนวรับ 1410-1405 , 1400-1393 จุด
แนวต้าน 1420-1422 , 1430-1435 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TIPCO, TACC , TVO(short)Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคแรง US$568ล้าน นำโดยไต้หวัน US$486ล้าน และเกาหลีใต้ US$172ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไทยประเทศเดียว US$98ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางชะลอการไหลเข้าเพื่อรอผลการประชุม Fed ในช่วงปลายเดือน ก.ย. นี้ก่อน
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (0) SET เป็นอย่างไรเมื่อเฟดขึ้นดอกเบี้ย ในอดีตมี 3 ครั้งสำคัญที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่คือปี 1994, 1999, 2004 เราพบว่า 3 เดือนหลังจากที่ดอกเบี้ยปรับขึ้น SET -15%, -13%, -3% ตามลำดับ และ 6 เดือนหลังจากดอกเบี้ยปรับขึ้น SET -8%, +5%,+2% สะท้อนว่ายิ่งนานวัน ผลกระทบจาก Fed ยิ่งจางลง ปัจจุบันแม้ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยเชื่อว่ากระทบตลาดหุ้นระยะสั้นและ downside ไม่มากเพราะตลาดปรับตัวไปแล้ว ตลาดเงินปรับตัวแล้วเช่นกัน ดอกเบี้ย Libor ขยับขึ้นอย่างเร็วและต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้
• (0) คาดกนง.คงดอกเบี้ยพรุ่งนี้ เศรษฐกิจไทยฟื้นค่อยเป็นค่อยไป แม้จะแผ่วในบางเดือนก็ตาม ส่วน Brexit ยังไม่ส่งผลต่อไทยอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนการประชุม BOE 15ก.ย. BOJ 21 ก.ย. FED 20-21 ก.ย. เราคาดว่าไม่เปลี่ยนแปลงนโยบาย ยังเชื่อว่า Flowจะไหลกลับภูมิภาคหลังชัดเจนเรื่องดอกเบี้ยและการหาผลตอบแทนที่สูงกว่า
• (+) หุ้นปันผลสูง เป็นแหล่งพักเงินในระยะนี้สำหรับนักลงทุนที่ขายแล้วรอซื้อรอบใหม่หุ้นที่คาด Yield มากกว่า 5% สำหรับงวดที่กำลังจะจ่ายใน 2H16 ได้แก่ ASK, HANA,IRPC, AP, AIT, TCAP, DELTA ขณะที่ PF/REIT/IFF เราพบว่าให้ Yield ต่ำกว่า 4%เพราะจ่ายงวด 1H16 ไปแล้ว
• (+) TISCO สินเชื่อเดือน ส.ค. ลดลง 0.63% M-M แม้ว่าสินเชื่อจะลดลงแทบตลอดทั้งปี (8M16 -4.8% YTD) แต่มีสัญญาณดีที่การลดลงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง เราคาดสินเชื่อจะกลับมาเป็นบวกในปีหน้า สำหรับกำไร 3Q16 เราคาด 1.2-1.3 พันล้านบาท ใกล้เคียง2Q16 โดยกำไรก่อนสำรอง +3% Q-Q แต่การตั้งสำรองที่น่าจะเพิ่ม ทำให้กำไรสุทธิน่าจะใกล้เคียง 2Q16 ส่วนกำไรทั้งปี คาด +18% คงราคาพื้นฐานปีนี้ 52 บาท แนะนำถือรอรับปันผล ซึ่งเราคาด 2.50 บาท/หุ้น Yield 5% จ่ายปีละ 1 ครั้ง
• (0) KTB เราปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปีหน้าที่ 21 บาท มี upside กว่า 20% จากราคาหุ้นปัจจุบัน จึงแนะนำซื้อ แต่เราชอบ KTB น้อยที่สุดในกลุ่มทั้งในด้านคุณภาพหนี้ที่ต้องใช้เวลาแก้ การตั้งสำรองที่สูงกว่าปกติต่อเนื่องในปีหน้า และเงินกองทุนที่น้อยสุดในกลุ่มTier 1 ที่ 12% เทียบกับกลุ่มที่ 14.7% จึงอาจมีความเสี่ยงเพิ่มทุนถ้าคุณภาพหนี้ถดถอยมากขึ้น รวมถึงกฏเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนใหม่
• (0) GUNKUL โรงไฟฟ้าพลังงานลม “WED” เฟส 2 (50MW) ที่ล่าช้า กำลังจะเริ่ม CODเดือนหน้านี้ ทำให้กำลังผลิตที่ COD แล้วสิ้นปีนี้เป็น 161MW ส่วนสัญญาที่มีอยู่ 400MWบริษัทตั้งเป้าเพิ่มเป็น 500MW สิ้นปี เรามีแนวโน้มปรับกำไรปกติปี 2016-17 ลง 13-20%เพราะกำไร 2Q16 ต่ำกว่าคาด กำไรปีนี้น่าจะโตไม่มากแต่จะโตสูง 30-40% ในปีหน้าราคาหุ้นที่ปรับลงแรงจนมี upside จากราคาพื้นฐานที่ 5.50 บาท คำแนะนำจึงเป็นซื้อ แต่เราชอบ TPCH (ราคาพื้นฐาน 23 บาท) มากกว่าเพราะกำไรเติบโตดีกว่าและ PE ต่ำกว่า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
13 ก.ย. - จีน: Industrial Production และยอดค้าปลีก (ส.ค.)
14 ก.ย. - ไทย: กนง.ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
15 ก.ย. - อังกฤษ: BOE ประชุม
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ส.ค.)
14-16 ก.ย. - ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการเนื่องในวัน Harvest Moon Day
15-16 ก.ย. - ตลาดหุ้นจีนและไต้หวันปิดทำการ
16 ก.ย. - FSTE 2016 Semi-Annual Review (เพิ่ม KBANK, SCC, GPSC,
VIBHA, IMPACT และเอาออก THRE)
- ตลาดหุ้นฮ่องกงและมาเลเซีย ปิดทำการ
- สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
20-21 ก.ย. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาพลิกมาปิดบวกได้กว่า 1% หลังนางลาเอล เบรนนาร์ด เจ้าหน้าที่ FED ได้ให้ความเห็นว่าควรที่จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมายังปิดในแดนลบต่อเนื่องโดยยังคงกังวลเรื่องความเป็นไปได้ที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
(+) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯขานรับความเห็นเชิงผ่อนคลายของนางลาเอล เบรนนาร์ด
(0) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวหลังจากอ่อนค่าลงในช่วงก่อนหน้า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.80-34.95 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 0.41 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 46.29 ดอลลาร์/บาร์เรล จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงรวมถึงตลาดหุ้นที่พุ่งขึ้น ซึ่งช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 8.90 ดอลลาร์/ออนซ์มาอยู่ที่ 1,325.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 จากคาดการณ์ที่ FED อาจขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางสินทรัพย์เสี่ยงอื่นที่ร่วงแรง
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research
ตะลึ่ง คุณป้าแต่ยังสาวเหมือนสาว 20 เคล็ดลับง่าย ๆ เพียงแค่... |
ดูเด็กลง 15 ปีได้ในเวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น! เคล็ดลับง่าย ๆ เพียงแค่.. |