- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 12 September 2016 18:09
- Hits: 2589
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (12/09/59)
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ก่อน (5-9 กันยายน 59)
SET ปิดปรับตัวลดลงแรงต่อเนื่องอีกสัปดาห์ โดยปัจจัยหลักมาจากปัจจัยภายในประเทศขณะที่แรงขายส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนสถาบันแม้ว่าปัจจัยจากต่างประเทศจะค่อนข้างเป็นบวกก็ตามไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะขึ้นช่วง รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาได้ SET index ปิดที่ 1,445.28 จุด เปลี่ยนแปลงลดลง 76.2 จุด (-5%WoW)
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้
(-) ประธาน Fed สาขาบอสตัน เผย FED กำลังเผชิญความเสี่ยงหากยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินนานเกินไป รวมทั้งประธาน FED สาขา ดัลลัส มองว่ามีปัจจัยที่สนับสนุนให้ Fed ต้องขึ้นดอกเบี้ย
(-) ความกังวลเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed กดดันดัชนี DJIA เมื่อวันศุกร์ให้ลดลงแรงถึง 394 จุด หรือลดลง 2% จากวันก่อนหน้า
(-) ความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในเดือน ก.ย. เพิ่มจาก 18% เป็น 24%
(-) ตลาดหุ้นผิดหวังผลการประชุม ECB เมื่อวันพฤ.ที่ผ่านมา ไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ออกมาเพิ่มเติม
(-) ราคานำมันดิบวานนี้ลดลงกว่า 4% จากวันก่อนหน้า หลังรายงานตัวเลขจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันเพิ่มขึ้น และค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตามยังต้องจับตาการประชุม OPEC ในวันที่ 26-28 ก.ย.
(+) ตลอดสัปดาห์นักลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิอยู่ที่ 3.2 พันลบ.
(+) ดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ยังเดินหน้าทำ New High ในรอบปี ล่าสุดอยู่ที่ 804 จุด (+12%WoW) หลังมีรายงานบริษัทเรือขนาดใหญ่ในต่างประเทศ (ฮันจิน) ประสบปัญหาล้มละลาย
(+/-) กระทรวง ICT เตรียมหารือเพื่อหาทางออกเรื่องสัมปทานดาวเทียมไทยคมในวันที่ 12 ก.ย. นี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
ราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
การระบาดของโรคไข้ซิก้าในประเทศไทย
การรายงาน Zew Economic Sentiment index เยอรมัน วันอังคาร
ตัวเลขเศรษฐกิจไทย การประชุม กนง. วันพุธ
ตัวเลขเศรษฐกิจ สหรัฐ ยอดค้าปลีก วันพฤหัส เงินเฟ้อ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค มิชิแกนวัน ศุกร์
ความคิดเห็น
คาดการปรับลดลงของดัชนี จากแรงกดดันจากหุ้นกลุ่ม Big cap โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งได้โมเมนตัมลบจากราคาน้ำมันดิบที่ย่อตัวจากสัปดาห์ก่อน ประกอบกับความผิดหวังของนักลงทุนต่างชาติ ต่อผลการประชุม ECB และ ประเด็นสุขภาพของนาง ฮิลลารี่ คลินตัน ตัวเก็ง ประธานาธิบดีสหรัฐ จะเป็นปัจจัยลบกดดันตลาดทุน
กลยุทธ์การลงทุน (5-9 กันยายน 59)
จากที่เราคาดว่าตลาดมีแนวโน้มปรับฐาน แนะนำให้เก็งกำไรสั้นหุ้นกลุ่มที่มีปัจจัยเฉพาะเด่น เช่น กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาเนื้อไก่ ที่อยู่ในระดับสูงในช่วง 3Q59 และปรับลดน้ำหนักกลุ่มท่องเที่ยวจากประเด็นความกังวลที่มากขึ้นในการระบาดของไข้หวัดซิก้าในประเทศไทย สำหรับกลุ่มที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มที่นำตลาดลงต่อคือกลุ่มพลังงาน แนะนำทยอยสะสมกลุ่มโรงกลั่นเมื่ออ่อนตัวในช่วงปลายสัปดาห์ โดยมองการปรับตัวลงของราคาน้ำมันจะเป็นปัจจัยลบระยะสั้นต่อโรงกลั่น
วิเคราะห์ SET ประจำสัปดาห์ 12 -16 ก.ย. 59
เก็งกำไรตามตลาด
SET Closed 1,445.28 จุด
High: 1,527.22 จุด
Low: 1,435.67 จุด
Resistant: 1,450, 1,462
Support: 1,435, 1,426
SET ยังคงทิ้งตัวลงต่อเนื่อง หลังจากการตัดลงของ MACD ตั้งแต่สัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม การลงอย่างรุนแรงทำให้ MACD ไหลลงต่ำกว่า 0 อีกครั้งหนึ่ง และจะบังคับให้กราฟแท่งเทียนยังมีโอกาสปรับตัวลดลงโดยมีแนวทดสอบ 1,410 จุด แม้กราฟ DAY จะเข้าสู่ Oversold ใน RSI แต่กราฟรายสัปดาห์ ยังมี gap ในการลงเนื่องจากปัจจุบันยังไม่เข้าเขต Oversold แต่อย่างใด ดังนั้น SET อาจะมีการเด้งตัวจากกราฟรายวัน แต่แรงกดดันยังค่อนข้างมาก และน่าจะอ่อนตัวลงได้อีก สรุปว่าจะเด้งตัวเล็กน้อยก่อนที่จะลงต่อไป
กลยุทธ์
1 หากมีการดีดตัว ให้เน้นการลดปริมาณหุ้นมากกว่าเข้าไล่ซื้อ
2. แนว Rebound ที่แข็งแรงประจำสัปดาห์อยู่ที่ 1,410 จุด ให้ตั้งรับที่ดังกล่าวในปริมาณมาก แต่หากหลุด ให้ขายทิ้ง
CPF ราคาปิด 31.25 บาท
คาด 3Q59 ผลประกอบการยังขยายตัวต่อเนื่องทั้งเป็นช่วง High Season และราคาเนื้อไก่ทะลุ 40 บาท/กก.
ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงปลายสัปดาห์ก่อน
ธุรกิจต่างประเทศเริ่มดูดี หลังมีการปรับโครงสร้างใหม่ รวมถึงราคาเนื้อสัตว์ที่ฟื้นตัว
ประเมินกำไรสุทธิปี 59 โต 33% มาอยู่ที่ 14,724 ล้านบาท
หุ้นแนะนำ
CPF
แนวต้าน 33.00 บาท
แนวต้าน 30.50 บาท
กราฟ CPF ปรับตัวลงเข้าสู่แนว minor down trend ของแนวขาขึ้นใหญ่ แต่สามารถรักษาระดับการลงไม่หลุด 30 บาทได้ และสร้างรูปแบบสามเหลี่ยมเชิงบวก โดย Stoch ส่อแววดีดตัวเป็น rebound signal จึงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ แนะนำซื้อ
ทีมวิเคราะห์
---------------------------------------