- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 12 September 2016 16:37
- Hits: 3255
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: ลุ้นการฟื้นตัวเหนือระดับ 1440 และ 1450
SET Index: 1428.11 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลุดระดับ 1450 จุดลงไป หลังจากพยายามฟื้นตัวในระยะสั้น แต่ยังคงมีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะ PTT พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาการปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 30 ลงไปของ RSI ซึ่งเป็นระดับขายมากเกินไป จึงทำให้การปรับตัวลดลงน่าจะอยู่ในกรอบที่จำกัด และมีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้น โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1485-1490 จุด
แนวต้าน : 1450 และ 1455
แนวรับ : 1442 และ 1440
PTT = 318 / 324, KBANK = 183 / 185, SCB = 145 / 148, CPALL = 57.00 / 58.00, KTB = 17.20 / 17.50
KCE Electronics (KCE TB; THB 91.75) – ซื้อ
แนวต้าน : 95.00 และ 96.00
แนวรับ : 91.50 และ 91.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวลดลงทดสอบระดับ 40
แนะนำซื้อ KCE โดยมีแนวรับที่ 91.50 และ 91.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 95.00 และ 96.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 89.50 ลงไป
Tipco Foods (TIPCO TB; THB 13.40) – ซื้อ
แนวต้าน : 14.20 และ 14.80
แนวรับ : 13.40 และ 13.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้น หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันลงไป แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ฟื้นตัวหลังจากทดสอบระดับ 30
แนะนำซื้อ TIPCO โดยมีแนวรับที่ 13.40 และ 13.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 14.20 และ 14.80 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 12.90 ลงไป
SET50 Index Futures
S50U16 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องค่อนข้างแรงในช่วงเปิดตลาดไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 900 ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาในระยะสั้น ในขณะที่โครงสร้างการเคลื่อนไหวในระยะสั้น น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 900-925 เพื่อสร้างฐานหลังจากปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 940 ลงไป
แนวต้าน : 910 และ 914
แนวรับ : 907 และ 905
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน S50U16 ที่แนวรับ 905 และ 902 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 925 และ 940
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50U16 ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 899 ลงไป
JASU16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างแรงเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคที่บริเวณแนวรับ 5.40 ไปทดสอบแนวต้านที่ 6.00 แต่เมื่อพิจารณาโครงสร้างในระยะยาวที่ปรับตัวลดลงหลุดแนวโน้มขาขึ้นลงไป ทำห้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับที่ 5.30-5.40 และมีแนวต้านสำคัญที่ 5.90
แนวต้าน : 5.80 และ 5.90
แนวรับ : 5.60 และ 5.50
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ขายสถานะ Long ใน JASU16 ที่แนวต้าน 5.80-5.90 เพื่อเปลี่ยนเป็นสถานะ Short โดยมีแนวรับที่ 5.40 เป็นจังหวะขายทำกำไร
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า JASU16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 6.16 ขึ้นไป
ITDU16
ปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 5.00 หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องค่อนข้างแรงหลุดแนวรับที่ 5.90 และ 5.60 ลงไป อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาการปรับตัวลดลงเข้าใกล้แนวรับที่ 5.00 ตามกรอบแนวโน้มขาลง เราคาดว่า น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้น โดยมีแนวต้านที่ 5.60
แนวต้าน : 5.20 และ 5.30
แนวรับ : 5.00 และ 4.96**
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน ITDU16 ที่แนวรับ 5.10 และ 5.00 เพื่อรอคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.30 และ 5.50
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า ITDU16 ปิดต่ำกว่าระดับ 4.96 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)
Technical highlights
SET Index : ถ้าปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1440 ลงไป แนวรับถัดไป 1410
ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1445.28 จุด ลดลง 10.10 จุด มูลค่าการซื้อขาย 64,449 ล้านบาท ตลาดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงต่อเนื่องค่อนข้างแรงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1490 จุดลงไป ทำให้โครงสร้างในระยะยาวยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง และมีแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 1440 จุด
Daily: ปรับตัวลดลงต่อเนื่องค่อนข้างแรง พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง หลังจากปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1490 จุดลงไปปิดต่ำกว่าเส้นแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวเป็นสัญญาณสิ้นสุดแนวโน้มขาขึ้น อย่างไรก็ดี การปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1450 จุดลงไป น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวในระยะสั้นหลังจากเข้าสู่ระดับขายมากเกินไป โดยมีแนวรับที่ 1440 และ 1410 จุด
กลยุทธ์ :SET Index ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1450 จุดลงไป แต่เราคาดว่า การปรับตัวลดลงต่อเนื่องในระยะสั้น น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากเข้าสู่ระดับขายมากเกินไป โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1440 และ 1410 จุด แต่มีแนวต้านสำคัญที่ 1480-1490 จุด
Asia Fund Flow : 9 กันยายน 2559
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ขายสุทธิ 99 ล้านเหรียญ (12 ก.ย.)
ตลาดหุ้นไต้หวัน ขายสุทธิ 238 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ขายสุทธิ 69 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ขายสุทธิ 22 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นไทย ซื้อสุทธิ 12 ล้านเหรียญ
Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
PTT สัญญาณขายหลังหลุดแนวรับที่ 330 ลงไป แนวโน้มลงทดสอบ 320 และ 310 320 / 318 326 / 328
CPALL สัญญาณขายต่อเนื่อง แนวโน้มลงทดสอบ 54.50-55.00 แนวต้าน 59.00-59.50 56.00 / 55.00 58.00 / 59.00
IVL แนวโน้มลงทดสอบ 26.50-27.00 เป็นจังหวซื้อเก็งกำไร แนวต้าน 30.00 27.00 / 26.50 29.00 / 29.50
THAI สัญญาณขายหลังหลุด 26.00 แนวโน้มลงทดสอบ 22.00 และ 20.00 23.00 / 22.00 24.50 / 25.00
SCC สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 500 แนวต้าน 520 510 / 508 520 / 524
AOT สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 390 และ 384 แนวต้าน 400 392 / 390 398 / 400
KBANK แนวโน้มลงทดสอบ 184 และ 180 แนวต้าน 192 และ 194 185 / 184 188 / 190
KTB ซื้อที่แนวรับ 17.40 แนวต้าน 18.00 17.40 / 17.20 17.80 / 18.00
BANPU แนวโน้มลงทดสอบ 14.00 และ 13.60 แนวต้าน 15.00 14.40 / 14.00 14.60 / 15.00
BEM ซื้อที่แนวรับ 6.90-7.00 แนวต้าน 7.30 และ 7.50 แนวรับสำคัญ 6.75 6.90 / 6.80 7.30 / 7.50
Bangkok Bank (BBL TB; THB 164.50) - ซื้อ
แนวต้าน : 167 และ 170
แนวรับ : 164 และ 163
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก ในขณะที่ราคาหุ้นยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวลดลงทดสอบระดับ 40
แนะนำซื้อ BBL โดยมีแนวรับที่ 164 และ 163 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 167 และ 170 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 162 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 156
Carabao Group (CBG TB; THB 60.00) - ซื้อ
แนวต้าน : 63.00 และ 65.00
แนวรับ : 59.50 และ 58.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น ทาให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึนต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลบปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวลดลงเข้าใกล้ระดับ 40 แนะนำซื้อ CBG โดยมีแนวรับที่ 59.50 และ 58.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 63.00 และ 65.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 58.00 ลงไป
Trading Pick Follow up: แนวรับ แนวต้าน
EPG สัญญาณขาย แนวต้าน 14.00 และ 14.40 แนวโน้มลงทดสอบ 13.00 13.40 / 13.00 13.80 / 14.00
MEGA สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 18.00 และ 17.50 แนวต้าน 19.50 18.50 / 18.00 19.00 / 40.00
BEM ซื้อที่แนวรับ 6.90-7.00 แนวต้าน 7.30 และ 7.50 แนวรับสำคัญ 6.75 6.90 / 6.80 7.30 / 7.50
WHA แนวรับสำคัญ 3.14 ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 3.02 แนวต้าน 3.40 3.14** / 3.02 3.30 / 3.40
TOP สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 68.00 และ 69.00 แนวรับสำคัญ 64.00 65.50 / 65.00 67.00 / 68.00
LOXLEY ซื้อที่แนวรับ 2.84 แนวโน้มขึ้นทดสอบ 3.00 และ 3.08 แนวรับสำคัญ 2.74 2.84 / 2.80 2.96 / 3.00
TPCH สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 16.80 และ 17.60 แนวรับสำคัญ 15.80 16.50 / 16.20 16.80 / 17.20
QH สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 2.44 และ 2.56 แนวรับสำคัญ 2.28 2.36 / 2.34 2.44 / 2.56
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ค่อยๆประคับประคองตัว
ดัชนี SET เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กลับลงไม่ลึกอย่างที่ตลาดคาดเอาไว้ คือลงไปที่ 1435 จุดแล้วเด้งมาปิดที่ 1445 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่คึกคัก อย่างไรก็ตามในวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ กลับปิดไม่สวย คือลงไปลึกถึงเกือบ 400 จุด จากความกังวลเรื่องทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐ หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขา บอสตัน ได้ออกมาย้ำว่า หากดอกเบี้ยสหรัฐยังทรงตัวในระดับที่ต่ำไปนานๆ จะเกิดผลด้านลบกับเศรษฐกิจสหรัฐ โดยการปรับตัวลงในระดับเกือบ 400 จุด แทบจะไม่ได้เห็นมานานแล้ว แม้จะเกิดความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยในสหรัฐ แต่โอกาสการปรับขึ้นในเดือนนี้ ถือว่ายังมีเปอเซ็นต์ไม่สูงมาก คือ อยู่ที่ประมาณ 24-30% จากการคาดการณ์ของ Fed fund future
เมื่อดัชนีตลาดหุ้นในต่างประเทศ เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับทิศทางการปรับตัวขึ้นของดอกเบี้ยในสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยภายในยังกดดันตลาด ส่งผลให้ในสัปดาห์นี้ ตลาดจะเกิดแรงกดดัน 2 ด้านไปพร้อมๆกัน แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยมีจุดดีที่เกิดการปรับตัวลงไปก่อนหน้านี้แล้วพอสมควร และแรงกดจากปัจจัยภายในค่อยๆคลายตัว ส่งผลให้วันนี้แม้ตลาดหุ้นในต่างประเทศจะปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นในสหรัฐ แต่ตลาดหุ้นไทย น่าจะลงได้น้อยกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ
ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศในสัปดาห์นี้ คาดจะเห็นการแกว่งตัวในกรอบที่กว้างและแรงขึ้น โดยมีปัจจัยที่ต้องจับตา คือ การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ อย่าง ยอดค้าปลีก อัตราเงินเฟ้อ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค หากออกมาดีหรือมากกว่าคาด ตลาดจะกลับมาผันผวนทันทีและเริ่มตีความ ว่า FED อาจขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ หากไปเปรียบเทียบอารมณ์ของตลาดกับช่วงที่ประธาน FED (Ben Bernanke) ออกมาบอกถึงทิศทางดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้น ในวันที่ 23 พ.ค. 2013 หลังจากนั้น 1 เดือนดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ (MSCI EM) ลงไปประมาณ 15% (ดูรูปด้านขวา) ส่วนครั้งนี้จะตอบสนองอย่างไร ยังต้องติดตามตัวเลขเศรฐกิจของสหรัฐที่จะประกาศในอาทิตย์นี้
หากมามองแนวโน้มดัชนี SET หลังจากนี้ โดยทำเส้น Trend line แล้วหาค่า +/-1SD และ +/-2SD เพื่อดูว่าในอดีดดัชนี SET ขึ้นลงอย่างไรในภาวะต่างๆ โดยใช้ฐานข้อมูลตั้งแต่สหรัฐใช้นโยบาย QE ในปี 2008 เราพบว่าลักษณะการเคลื่อนไหวของดัชนี SET ในครั้งนี้น่าจะคล้ายๆกับปี 2009-2010 คือ หลังดัชนี SET ลงมาเล่นที่ค่า -2SD แล้วค่อยๆไต่ขึ้นไปเล่นที่ -0.5 SD แต่สุดท้ายก็ลงมาที่เส้น -1SD ป้จจุบันพบว่าหลังดัชนี SET ลงมาแตะที่ -2SD แล้วค่อยๆดีดขึ้นไปเล่นที่ -0.5 SD แต่สุดท้ายก็ลงมาเล่นที่ค่า-1 SD ซึ่งเทียบเท่าดัชนีประมาณกรอบ 1430-1450 จุด แต่อย่างไรก็ตาม หากเกิดแรงกระแทกดัชนีแรงๆขึ้นมาอีก โดยเฉพาะปัจจัยภายในหรืออื่นๆ ดัชนี SET มีสิทธิลงไปเล่นที่ค่า -2SD ซึ่งจะเทียบดัชนีประมาณ 1300+/- จุด ดูรูปด้านซ้าย
ทิศทางดัชนี SET วันนี้ แม้จะมีแรงกดจากดัชนีตลาดหุ้นในต่างประเทศ แต่ด้วยดัชนี SET ลงมาลึกก่อนหน้านี้แล้ว จึงน่าจะทำให้อัตราการลงคงมีไม่มาก รวมทั้งแรงกดดันจากปัจจัยภายในค่อยๆคลายตัวลง เราจึงมองว่าดัชนีจะแกว่งทั้งแดนบวกและลบในช่วงเปิดตลาด แล้วค่อยๆรีบาวน์ขึ้นได้ในช่วงท้ายๆ โดยมองแนวต้านที่ 1455-1460 จุด ส่วนแนวรับที่ 1435-1430 จุด กลยุทธ์การลงทุน หากสามารถปิดไม่หลุด 1440-/+ ดัชนีจะรีบาวน์กลับ แต่หากหลุดให้ ทยอยขายหุ้นออกไปบ้าง
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์: ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศในสัปดาห์นี้ คาดจะเห็นการแกว่งตัวในกรอบที่กว้างและแรงขึ้น โดยมีปัจจัยที่ต้องจับตา คือ การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ อย่าง ยอดค้าปลีก อัตราเงินเฟ้อ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค หากออกมาดีหรือมากกว่าคาด ตลาดจะกลับมาผันผวนทันทีและเริ่มตีความ ว่า FED อาจขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ ทิศทางดัชนี SET วันนี้ แม้จะมีแรงกดจากดัชนีตลาดหุ้นในต่างประเทศ แต่ด้วยดัชนี SET ลงมาลึกก่อนหน้านี้แล้ว จึงน่าจะทำให้อัตราการลงคงมีไม่มาก รวมทั้งแรงกดดันจากปัจจัยภายในค่อยๆคลายตัวลง เราจึงมองว่าดัชนีจะแกว่งทั้งแดนบวกและลบในช่วงเปิดตลาด แล้วค่อยๆรีบาวน์ขึ้นได้ในช่วงท้ายๆ โดยมองแนวต้านที่ 1555-1560 จุด ส่วนแนวรับที่ 1435-1430 จุด กลยุทธ์การลงทุน หากสามารถปิดไม่หลุด 1440-/+ ดัชนีจะรีบาวน์กลับ แต่หากหลุดให้ ทยอยขายหุ้นออกไปบ้าง
Themes play :
Defensive Play : เรายังคงแนะนำ ซื้อ หุ้นกลุ่ม Defensive play ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง โดยแนะนำซื้อหุ้นที่มีความปลอดภัยของรายได้, ผลกำไรและกระแสเงินสดสูง (Defensive play) จากโมเดลธุรกิจ (Business model) ที่มีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจภายในชะลอตัวต่ำ นอกจากนั้นยังสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในระดับสูง 5-7% ซึ่งจะช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลงได้เป็นอย่างดี อย่าง ADVANC INTUCH JAS และ JASIF โดยเราคาดว่าหุ้นเก็งกำไร (high beta) และหุ้นพื้นฐานดีที่มีราคาเกินราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์มีโอกาสจะถูกขายทำกำไรออกมามากหลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาแรงก่อนหน้านี้ ในขณะที่คาดว่านักลงทุนและกองทุนจะเลือกพักเงินในหุ้น defensive play เพื่อรอให้ระดับราคาหุ้นพื้นฐานดีกลับมาอยู่ในระดับน่าสนใจเข้าลงทุนอีกครั้งก่อนที่จะกลับเข้ามาซื้อลงทุนใหม่ โดยเราให้ราคาที่เหมาะสมของ ADVANC ไว้ที่ 205 บาท, JAS 6.65 บาท, INTUCH 64 บาทและ JASIF ที่ 13.50 บาท
ประเด็นในสัปดาห์
13 ก.ย. : จีนประกาศตัวเลข Industrial Production YoY เดือนส.ค.
14 ก.ย. : การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50%
15 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Retail Sale in Advance MoM เดือนส.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 0.0%
15 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Industrial Production เดือนส.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 0.7%
Opportunity Day
12 ก.ย. : SITHAI NWR MBKET TKS
13 ก.ย. : DIMET UREKA TPCH TACC PPP DRT SR
14 ก.ย. : BRR UAC CBG K UPOIC LST
Fundamental Stock :
ICHI : Company Note (คำแนะนำ : ขาย ราคาเป้าหมาย 9.40 บาท)
Technical Pick:
SET Index มีแนวรับ 1440-1430 จุด แนวต้าน 1460 จุด
Bangkok Bank (BBL TB; THB 164.50) - ซื้อ
Carabao Group (CBG TB; THB 60.00) - ซื้อ
SET Index : ผันผวน
Retail Research Team