WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KGI copyบล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน



ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
มีช่วงเด้ง แต่จะยังผันผวนสูง
  KGI คาด SET วันศุกร์มีช่วงรีบาวด์แต่ยังผันผวนสูง ก่อนหยุดเสาร์-อาทิตย์ (วานนี้ SET ถูกทิ้งช่วงท้ายตลาดเช่นเดิม แย่กว่าเราคาด) ทั้งนี้จากจุดสูงสุดที่ 1,558.32 เมื่อวันที่ 15 ส.ค. SET ปรับลงแล้ว 6.1% ซึ่งลงหนักกว่าที่เราประเมิน เนื่องจากความกังวลต่อปัจจัยภายใน เรามองว่าในช่วงสั้นดัชนีฯ อาจถูก de-rate (เล่น PE ที่ต่ำลง) มาสู่ 16 เท่าจากเดิมที่สามารถเทรด PE band 17-18 เท่ามาเกือบ 1 ปี โดยหากอิง EPS สิ้นไตรมาส 3/2559 ที่ 89.8 จุด จะคำนวณระดับ PE band 16 เท่า ได้เป็นดัชนีฯ ที่ 1,437 จุด ซึ่งเรามองว่าเป็นระดับที่น่าสนใจมากในการกลับเข้าสู่ตลาดหุ้น ด้านปัจจัยภายนอก ธ.กลางยุโรป (ECB) คงดอกเบี้ยหลักที่ -0.4% และ QE เดือนละ 8 หมื่นล้านยูโรถึง มี.ค. 2560 ซึ่งเป็นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์ KGI คาดแต่สร้างความผิดหวังเล็กน้อยต่อตลาดการเงิน ส่วนราคาน้ำมันขึ้นต่อ หลังสต็อกน้ำมันดิบ EIA ร่วงถึง 14.5 ล้านบาร์เรล คาดหุ้นพลังงานจะยังแข็งแกร่งกว่าดัชนีฯ เช่นเดียวกับเมื่อวานนี้

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
กลัวเสี่ยงเลี่ยงหุ้นหลักสะสมปันผล DIF, JASIF หรือ TMT
  หุ้นกองทุน Infrastructure fund ปันผลดี (DIF, JASIF) สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย ในช่วงภาวะตลาดฯผันผวน อาจพิจาณาเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงต่ำอย่างกองทุน Infrastructure fund ที่มีปันผลสูงรองรับ เช่น DIF (Consensus คาด Dividend yield 6.5%) และ JASIF (Consensus คาด Dividend yield 7.9%)
  TMT (เป้าพื้นฐาน 14.2 บาท) 1) จากประมาณการฯล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯคาดปันผลปีนี้ 1.6 บาท/หุ้น (คิดเป็น Dividend yield 13%) ... อย่างไรก็ดี คาดปันผลปีนี้มากเป็นพิเศษเพราะราคาเหล็กที่ฟื้นตัวแรงในไตรมาส 2/59 เป็นหลักดังนั้น ในปีหน้าคาดปันผลจะลดลงสู่ระดับปกติที่ ±6% 2) พิจารณาที่แนวรับ 12 บาท หากต่ำกว่าแนะนำ “รอซื้อที่แนวรับถัดไป” 11.5 บาท และ 11.0 บาท ตามลำดับ

หุ้นในกระแส
  “Wait & see” รอจังหวะเก็บหุ้นเข้า FTSE สัปดาห์หน้า (SCC*, KBANK*, BEM*) โดยกรณีที่ SET index ปรับตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1440 จุด และถัดไปที่ 1400 จุด นักลงทุนอาจพิจารณาเข้าสะสมหุ้นหลักดักเม็ดเงินลงทุนต่างชาติจากการปรับเพิ่มหุ้นเข้าคำนวณดัชนี FTSE ในสัปดาห์หน้า อาทิ SCC*, KBANK*, BEM*
  หุ้นฟาร์มหมู+ไก่ (CPF*, TFG) ราคาเนื้อหมู + ไก่ ยังยืนสูง ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับลง คาดเป็น Sentiment บวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H59 (โดยเฉพาะไตรมาส 3/59 เป็น High season) แนะนำ “เก็งกำไร” CPF* และ TFG

หุ้นมีข่าว
  (+) CK* คาดหวังการรับงานเพิ่มเติมจากรัฐบาล (บางกอกโพสต์) ซึ่งถือว่าเป็นไปตามที่เราคาด โดยระยะเวลาในการประมูลงานจากภาครัฐบาลที่มีความชัดเจน อาทิ การยื่นประมูลรถไฟฟ้าสีส้ม สีชมพูและสีเหลือง จะช่วยหนุนผลการดำเนินงานบริษัทในอนาคต สำหรับแนวโน้มความสำเร็จในการประมูลงานที่คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20-25% และเมื่อรวมงานส่วนเพิ่มจากโครงการไซยะบุรี คาดจะทำให้บริษัทมีงานในมือสูงกว่า 1 แสนล้านบาท และหนุนให้กำไรปกติปี 2559 เพิ่มขึ้นเป็น 1.8 พันล้านบาท จากขาดทุนปกติ 16 ล้านบาท เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 39.50 บาท
  (+) กลุ่มค้าปลีก; ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) เดือนส.ค. 59 ปรับขึ้นเป็น 62.2 จุด (เนชั่น) ถือเป็นการปรับตัวขึ้น 2 เดือนติดต่อกันจากจุดต่ำสุดที่ 60.6 จุดในเดือน มิ.ย. 59 และ 61.4 ก.ค. 59 และเราประเมิน CCI ในช่วงที่เหลือของปีจะยืนได้ในระดับสูง จากความคาดหวังถึงรายได้ของประชาชนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะหนุนภาพรวมกลุ่มค้าปลีกให้เติบโตต่อเนื่อง เรายังคงน้ำหนัก “มากกว่าตลาด” ในกลุ่มค้าปลีก และเลือก GLOBAL* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม ราคาเป้าหมาย 17.00 บาท
  (+) ABC เผยจ่อร่วมทุนเอเชีย เทคฯตึกเก่าทำคอนโดฯหรู (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) ABC เผยเจรจาทุนเอเชีย 2-3 รายรุกธุรกิจอสังหาฯ เน้นคอนโดฯ ทั้งเทกโอเวอร์ตึกเก่ารีโนเวส-พัฒนาใหม่ ล่าสุดซื้อเซอรวิสอพาร์ตเมนท์เก่าใน ซ.สุขุมวิท 39 ผุดคอนโดฯหรู "ABOVE Sukhumvit 39" 41 ยูนิตมูลค่า 2,500 ล้านบาท มั่นใจรับรู้รายได้ปีนี้กว่า 2,000 ล้านบาท
  (+) PDI จ่อซื้อโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นเพิ่มคาดดิวดิลิเจนท์ได้ข้อสรุปใน 1 เดือน (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) ผาแดงฯจ่อซื้อโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นเพิ่มอีก 22 เมกะวัตต์ใช้เงินลงทุน 3.2 พันล้านบาท คาดได้ข้อสรุปการทำดิวดิลิเจนท์โครงการที่เรียวชิยา ขนาด 2.2 เมกะวัตต์ภายใน 1 เดือนนี้แย้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังใกล้เคียง 6 เดือนแรกปีนี้ที่มีกำไรสุทธิ 131 ล้านบาท
  (0) IFEC* ปรับพอร์ตการถือหุ้น ยันธุรกิจสดใสดีลใหญ่จ่อ (ทันหุ้น) IFEC แจงรายงานขายหุ้น แค่ ปรับพอร์ต หลังสะสมหุ้นมาตั้งแต่ปลายปีอย่างมาก ยืนยันไม่ทิ้งบริษัทไปไหน ชี้ธุรกิจอนาคตสดใส ทุกอย่างเป็นไปตามแผนเตรียมสรุปดีลโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ต่างประเทศเร็วๆ นี้
  (+) MATCH เฮลั่นไฟเขียว เพิ่มทุน250ล้านหุ้นฉลุย ขนเงินคืนหนี้-ขยายงาน (ทันหุ้น) MATCH เฮผู้ถือหุ้นไฟเขียวเพิ่มทุน 250 ล้านหุ้นฉลุย ขายผู้ถือหุ้นเดิม สัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 0.4702 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 2 บาท เตรียมนำเงินคืนหนี้ - ลดต้นทุนทางการเงิน บิ๊กบอส "ภูมิชาย วัชรพงศ์" เดินหน้าขยายการลงทุนสตูดิโอใหม่ "MMS Suwannabhumi" เต็มพิกัด

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
  IFEC* (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) ราคาหุ้นปรับลงแรง คาดเป็นผลจาก i) ภาวะตลาดฯ ii) ความกังวลเรื่องการปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในต่างประเทศ iii) ผลจาก Margin call ในเชิงพื้นฐานยังประเมิน Replacement cost (หรือ Liquidation value) ที่ 6.1 บาท ... เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับลงแรงหลุดแนวรับสำคัญลงมา นักลงทุนระยะสั้นอาจพิจารณาหาจังหวะปรับพอร์ตการลงทุนโดยขายตัดขาดทุนในจังหวะรีบาวด์จากภาวะ Oversold
  TPCH (เป้า Consensus 24.6 บาท) ในเชิงพื้นฐานยังคงประเมินแนวโน้มกำไรทำนิวไฮ 3-5 ไตรมาสติด + รอ Catalyst การได้ PPA 20MW (เปลี่ยจาก LOI) … เนื่องจากราคาปรับลงหลุดแนวรับสำคัญลงมา นักลงทุนระยะสั้นอาจพิจารณาหาจังหวะปรับพอร์ตการลงทุนโดยขายตัดขาดทุนในจังหวะรีบาวด์จากภาวะ Oversold
  RJH (เป้า Consensus 22 บาท) หากวันนี้ยืนได้เหนือกว่า 19 บาท แนะนำ “ถือ” แต่ถ้าปรับลงต่ำกว่า 19 บาท แนะนำ Stop loss
  CPF* (เป้าพื้นฐาน 42 บาท) ประเมินแนวรับ 31 บาท และ 30 บาท (กำหนด 30 บาท เป็นจุด Stop loss) แนวต้านแรก 32 บาท

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
  LPH แนะนำ “ซื้อ” (ปรับขึ้นจาก “ถือ”) เป้าพื้นฐาน 10.1 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรของ LPH จะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องใน 2H59 อยู่ที่ 89 ล้านบาท (+30% YoY) โดยปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนกำไรยังคงเป็นความสำเร็จของ ‘ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์’ ในปัจจุบัน รายได้จากศูนย์การแพทย์เฉพาะทางของ LPH คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของรายได้รวม โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า เราคิดว่าการเช่าที่ของโรงพยาบาลเดชาเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุด

Market strategy Thailand

  จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยสั้นที่ต้าน 1459 จุด
  วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือต้าน 1459 จุดได้นั้น อาจสะสมกำลังผลักขึ้นในกรอบ 1459-1478 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่าต้าน 1459 จุดนั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1459-1443 จุด
  แนวรับวันนี้: 1452/1442/1437 แนวต้านวันนี้: 1459/1477

หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ

อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected] 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!