- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 08 September 2016 16:35
- Hits: 1272
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET จะปรับลงอีก แต่ก็มีสิทธิลุ้นแกว่งทรงตัวได้ เพื่อรอรอบบวก!!
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนให้เห็น แม้ว่าจะเริ่มทรงตัวได้บ้างหลังจากดัชนีปรับตัวลงรุนแรงในช่วง 2-3 วันก่อนหน้า โดยตลาดขยับบวกขึ้นเกือบ 15 จุดได้ในช่วงครึ่งวันแรก ก่อนจะมีแรงขายกดดันในภาคบ่ายทำให้ดัชนีย้อนลงมาปิดเป็นลบเกือบ 10 จุดแทน และปิดสิ้นวันที่ระดับต่ำสุดด้วย เนื่องจากยังไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนเพิ่ม
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET ยังมีโอกาสถูกแรงขายกดดันต่อเนื่อง หลังเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวอยู่แต่ในแดนลบ เนื่องจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ หรือ Beige Book ครั้งล่าสุดระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวเล็กน้อยในเดือน ก.ค. และ ส.ค. ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเปิดเป็นลบด้วย อย่างไรก็ตามกรอบลบในตลาดหุ้นเอเชียไม่ได้รุนแรง เพราะสุดท้ายแล้วเมื่อคืนนี้ดัชนีดาวโจนส์ยังขยับกลับขึ้นมาเป็นลบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปิดบวกอีกเกือบ 1.5% จากแรงซื้อเก็งกำไรก่อนที่ EIA จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกฯ ของสหรัฐในค่ำวันนี้ ทำให้ FSS คาดว่าแม้ SET จะยังลบได้อีก แต่ก็มีสิทธิอยู่ในลักษณะแกว่งทรงตัว เพื่อรอลุ้นบวกจริงจังในช่วงถัดไปตามคาดเดิม
กลยุทธ์ : เรายังแนะนำซื้อสะสม แล้วเน้นถือเพื่อรอลุ้น SET ขยับขึ้นหาเป้าหมาย 1650 จุดตามคาดต่อไป
แนวรับ 1486-1483 , 1480-1477 จุด
แนวต้าน 1492-1497 , 1500-1505 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TRUE, BEC , ANAN(short)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$186 ส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$208ล้าน เกาหลีใต้ US$54ล้าน และไทย US$12ล้าน ขณะที่ไหลออกฟิลิปปินส์ US$58ล้าน และอินโดนีเซีย US$18ล้าน แนวโน้มเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าแต่อาจชะลอลง สภาพคล่องยังได้รับแรงหนุนจากภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำและนโยบายทางการเงินจากธนาคารต่างๆ ที่ต้องการเพิ่มสภาพคล่อง วันนี้ติดตามการประชุม ECB ซึ่งตลาดคาดว่าจะมีมาตรการต่ออายุ QE
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) กระแส Fed ขึ้นดอกเบี้ยยังอยู่ แม้ว่าในรายงาน Fed Beige Book จะชี้ว่าค่าจ้างแรงงานจะทรงๆ และเศรษฐกิจเดือน ก.ค.-ส.ค. ขยายตัวเพียงเล็กน้อย ซึ่งทำให้การคาดการณ์ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยเดือนนี้ยังอยู่ที่ 22% และการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. ยังอยู่ที่ 51.5% เหมือนเดิม แต่ตลาดแรงงานเข้าขั้นใกล้ Full employment แล้ว ถ้าค่าจ้างแรงงานเพิ่มกว่านี้ อาจผลักดันเงินเฟ้อจนทำให้ Fed ต้องพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยอย่างจริงจัง Flow จะยังคงพักรอความชัดเจนของการประชุม Fed ปลายเดือน แม้ตลาดจะหวังข่าวดีจาก ECB (ขยายอายุ QE) และ BOJ (ดอกเบี้ยติดลบมากขึ้น) แต่น้ำหนักของ Fed มีมากกว่า จึงกดดันหุ้น big cap. ในกลุ่มพลังงาน แบงก์ ไอซีที โดยที่พื้นฐานของหุ้นเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยน
(+) GPSC เราปรับคำแนะนำเป็นซื้อ จากขาย หลังราคาหุ้นปรับลงจน upside เปิดกว้างและเราปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปีหน้าที่ 38 บาท GPSC นอกจากจะมีผลประกอบการมั่นคงแล้ว ยังโตชัดเจนจากกำลังผลิตไฟฟ้าที่ทยอยเพิ่มตามโรงไฟฟ้าที่ก่อสร้างเสร็จ เราคาดกำไรในช่วง 7 ปีข้างหน้าโตเฉลี่ย 15-16% และมี upside หากเพิ่มกำลังผลิต การลงทุนในโครงการ 24m ซึ่งเป็นธุรกิจแบตเตอรี่ที่ใช้ในโรงไฟฟ้าจะยิ่งทำให้การเติบโตในอนาคตน่าสนใจ ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาและเซ็น MOU กับลูกค้าจำนวนหนึ่ง
(+) KSL กำลังจะผ่านกำไรที่แย่ที่สุดในปีนี้ใน 3Q16-4Q16 ก่อนจะสดใสในปี 2017 เราคาดกำไร 3Q16 (พ.ค.-ก.ค.) -20% Q-Q, -37% Y-Y ธุรกิจชะลอลงทั้ง 3 ประเภท โดยธุรกิจน้ำตาลแย่ลง ราคาขายถูกล็อคไว้ตั้งแต่ปีก่อนในราคาที่ต่ำ ธุรกิจไฟฟ้าและเอธานอลก็แผ่วลง เราปรับกำไรสุทธิปีนี้ลง 30% เป็นทรงตัวจากปีก่อน แต่คาดปี 2017 โตสูง 42% เพราะราคาน้ำตาลสูงขึ้นจากภาวะขาดดุลน้ำตาล เราปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปีหน้าที่ 4.60 บาท แนะทยอยซื้อลงทุน เรามอง KSL เป็น Top Pick ของกลุ่มน้ำตาล
(+) PT เตรียมให้บริการระบบความปลอดภัยข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อรองรับบริการ Prompt Pay ปัจจุบันกลุ่มการเงินทำรายได้ให้ต่อเนื่อง 30% ของรายได้รวม เป็นงานที่มีมาร์จิ้นสูง แต่ถึงแม้ไม่มีปัจจัยหนุนดังกล่าว กำไรสุทธิปีนี้ก็สดใสอยู่แล้ว +117% Y-Y ในงวด 1H16 คิดเป็น 51% ของกำไรทั้งปีที่เราคาดโต 20% จึงมีโอกาสที่กำไรจะดีกว่าคาดเพราะกำไร 2H มักดีกว่า 1H ปัจจุบันมี PE เพียง 8 เท่า ต่ำสุดในกลุ่ม SI ที่มี PE เฉลี่ย 15 เท่า เราแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐานปีหน้า 16 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
8 ก.ย. - ญี่ปุ่น: 2Q16 GDP
- ยูโรโซน:ECB ประชุม
- สหรัฐ: Fed Beige Book
9 ก.ย. - จีน:อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BoK)ประชุม
10 ก.ย. - จีน:ยอดสินเชื่อ (ส.ค.)
13 ก.ย. - จีน:Industrial Production และยอดค้าปลีก (ส.ค.)
14 ก.ย. - ไทย: กนง.ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
15 ก.ย. - อังกฤษ:BOEประชุม
- ยูโรโซน:อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ส.ค.)
14-16 ก.ย. - ฟิลิปปินส์:ตลาดหุ้นปิดทำการเนื่องในวัน Harvest Moon Day
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดทรงตัวหลัง Beige Book ครั้งล่าสุดระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯฯขยายตัวเล็กน้อยในเดือน ก.ค. และ ส.ค. ซึ่งยังค่อนข้างคลุมเครือสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยของ FED
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกแม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจเยอรมนีจะออกมาอ่อนแอ อย่างไรก็ตามตลาดจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐฯ
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดค่อนมาในแดนลบตอบรับข้อมูลจาก Beige Book ซึ่งยังคลุมเครือว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้หรือไม่
(+) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัว ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.55-34.65 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 0.67 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 45.50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานจาก API ว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวลดลงอย่างน่าประหลาดใจและมากที่สุดในรอบกว่า 30 ปี
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 4.80 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,349.2 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงขายทำกำไรหลังจากพุ่งขึ้นแรงในวันก่อนหน้า จากตัวเลขเศรษฐกิจที่อนแอและทำให้คลายความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในการประชุมเดือนนี้
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch