- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 07 September 2016 18:07
- Hits: 1109
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: ยืนเหนือ 1500 ได้ ลุ้นทดสอบ 1520-1525
SET Index: 1510.78 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1510 จุด หลังจากฟื้นตัวกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1500 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายยังไม่สูงมาก จึงทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะสั้นมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไร โดยมีแนวต้านที่ 1520-1525 จุด ถ้ายังไม่สามารถทะลุผ่านระดับ 1530 จุดขึ้นไปได้ แนวโน้มในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของแรงซื้อ ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1590 จุดตามรูปแบบสามเหลี่ยม
แนวต้าน : 1515 และ 1520
แนวรับ : 1508 และ 1505
BANPU = 16.20 / 16.50, SCB = 152 / 155, KBANK = 192 / 194, PTT = 335 / 338, KTB = 18.00 / 18.20
Raimon Land (RML TB; THB 1.41) - ซื้อ
แนวต้าน : 1.50 และ 1.55 / แนวต้านสำคัญ 1.60
แนวรับ : 1.41 และ 1.40
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เริ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน
MACD ปรับตัวลดลงทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 50
แนะนำซื้อ RML โดยมีแนวรับที่ 1.41 และ 1.40 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.50 และ 1.55 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.37 ลงไป
Eason Paint (EASON TB; THB 5.60) - ซื้อ
แนวต้าน : 6.00 และ 6.30
แนวรับ : 5.60 และ 5.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นฟื้นตัวทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 50
แนะนำซื้อ EASON โดยมีแนวรับที่ 5.60 และ 5.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 6.00 และ 6.30 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 5.35 ลงไป
SET50 Index Futures
S50U16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 950 หลังจากปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงไปทดสอบแนวรับสำคัญของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 945 ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านที่ 960 และ 980 เป็นแนวต้านสำคัญ เราจึงยังคงแนะนำให้เน้นการ Open Long ต่อเนื่อง
แนวต้าน : 958 และ 960
แนวรับ : 954 และ 952
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน S50U16 ที่แนวรับ 952 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 960 และ 980
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50U16 ปรับตัวลดลงมาปิดต่ำกว่า 948 ลงไป
THAIU16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 26.00 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 28.50 และ 30.00 โดยมีแนวรับสำคัญที่ 26.00 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขาย
แนวต้าน : 28.50 และ 29.00
แนวรับ : 27.15 และ 27.00
คำแนะนำ: เราแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ใน THAIU16 ที่แนวรับ 27.15 และ 27.00 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบ 28.50 และ 30.00
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า THAIDU16 ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 26.00 ลงไป
BLANDU16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1.74 หลังจากฟื้นตัวกลับขึ้นไปปิดยืนเหนือระดับ 1.70 แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับสำคัญน่าจะมีโอกาสฟื้นตัวในระยะสั้น โดยมีแนวต้านที่ 1.74-1.75 และมีแนวต้านสำคัญที่ 1.85
แนวต้าน : 1.74 และ 1.77
แนวรับ : 1.72 และ 1.70
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ขายทำกำไรสถานะ Long ใน BLANDU16 ที่แนวต้าน 1.74-1.75 และมีแนวรับที่ 1.70 เป็นจังหวะในการกลับเข้าไป Open Long
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า BLANDU16 หลุดระดับ 1.68 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...แรงกดค่อยๆคลายตัว
เดิมหลายฝ่ายมองดัชนีตลาดหุ้นไทย เริ่มแพงและขาดปัจจัยหนุน แต่หลังจากที่ดัชนีปรับตัวลงมาต่ำกว่า 1500 จุด คือลงไปต่ำสุดที่ 1477 จุดแล้วค่อยๆ เด้งขึ้นมา แรงกดดันกับตลาดหุ้นไทยก็เริ่มคลายตัวลง แม้ประเด็นที่ใช้เทรดหุ้นจะยังไม่มีอะไรใหม่ แต่ตอนนี้ระดับราคาดัชนีเริ่มน่าสนใจของนักลงทุนโดยเฉพาะ LTF และ RMF เราจึงมองว่าระดับดัชนีในระดับ 1490-1520 จุด น่าจะเริ่มมีแรงซื้อของกองทุนเหล่านี้เข้ามา
ทิศทางดัชนี SET ในเดือน ก.ย. แม้จะมีความเสี่ยงกับการปรับตัวลงของดัชนีในต่างประเทศ อย่างในสหรัฐ แต่การที่ดัชนี SET ปรับตัวลงแรงก่อน น่าจะรับข่าวความผันผวนที่จะเกิดขึ้นไประดับหนึ่งแล้ว ส่วนปัจจัยหนุนใหม่ๆ ที่กำลังส่งสัญญาณในเชิงบวกกับตลาดน้ำมัน คือ การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน หลังทางรัสเซียและซาอุดิอาระเบีย ลงนามเซ็นสัญญาในการรักษาเสถียรภาพน้ำมันในการประชุม G-20 ที่ประเทศจีน ซึ่งตลาดกำลังแปลความว่าทั้ง 2 น่าจะร่วมมือกันลดกำลังการผลิตน้ำมันลง
ในส่วนของอัตราการทำกำไร (EPS growth) ของตลาดหุ้นไทย ถือว่าเริ่มค่อยขยับดีขึ้น โดยตอนนี้อัตราการทำกำไร 12 เดือนล่วงหน้าอยู่ที่ประมาณ 12% ใกล้เคียงอินโดนีเชียและดีกว่าฟิลิปปินส์ ส่วนค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าถือว่ายังทรงตัวในระดับสูงสุดในรอบ 16 ปีคืออยู่ที่ 14.9 เท่า เทียบค่าเฉลี่ย 20 ปีที่ 13.4 เท่า (ดูรูปด้านซ้าย) แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า หลังมีเม็ดเงินไหลเข้ามายังอาเซียน ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าของตลาดหุ้น TIPs ทั้ง 3 ประเทศ กลับขึ้นมาเล่นที่จุดสูงสุดกันหมด (ดูรูปด้านขวา) ตรงนี้กำลังสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศต่อตลาดหุ้นทั้ง 3 ประเทศ ซึ่งดูได้จากเม็ดเงินที่ไหลเข้า โดยในปีนี้เม็ดเงินไหลเข้าทั้ง 3 ตลาดนี้มีมูลค่า 7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับที่ไหลออกในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาที่ 11 พันล้านดอลลาร์
แม้เราจะมองว่ากรอบการขึ้นของดัชนีในรอบนี้จะมีจำกัด (ในช่วงสั้น) แต่หากสถานการณ์ภายนอกคลายตัวหรือมีปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามา ดัชนี SET น่าจะยังขับเคลื่อนไปได้ โดยจะขึ้นอยู่กับ กำไรใน Q3/16 ราคาน้ำมันจะสามารถขึ้นไปยืนเหนือ 50 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ได้หรือไม่ หรือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หากกำไร Q3/16 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ออกมาดีขึ้นหรือกระเตื้องขึ้น ก็น่าจะเป็นปัจจัยบวกกับดัชนี SET ในต้น ต.ค. สำหรับอัตราการทำกำไรปีนี้ของธนาคารใหญ่และกลาง 5 ธนาคาร ตอนนี้ติดลบที่ -0.92% เทียบเดือนที่ผ่านมาติดลบ -1.62%
กรอบการขึ้นของดัชนี SET จะยังเป็นไปอย่างระมัดระวังและกล้าๆ กลัวๆ ส่วนภาพที่ดีขึ้นในตลาดหุ้นไทยหลังขึ้นมาติดต่อกันและไม่เคยปรับฐานแรงๆ เลยตั้งแต่ต้นปี คือ ดัชนีลงมาในระดับที่ช่วยลดแรงกดดันกับตลาด ช่วงที่เหลือของสัปดาห์ เรามองว่าดัชนี SETจะยังแกว่งตัว แต่จะเป็นลักษณะค่อยๆ ดีดตัวขึ้น โดยวันนี้มองดัชนี SET จะมีการรีบาวน์ต่อไปยืนเหนือ 1500 จุด หลังจากที่เมื่อวานนี้มีแรงซื้อกลับพยายามดันดัชนีให้ยืนเหนือ 1500 จุด ตลอดทั้งวันแต่สุดท้ายกลับไม่สามารถปิดเหนือระดับดังกล่าวได้ เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศเริ่มขายสุทธิออกมา 821 ล้านบาท เป็นวันแรกในรอบ 7 วัน และพอร์ทโบรกเกอร์ก็ขายหนัก 1,559 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจากการที่ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าหลังตลาดปรับลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนก.ย. ลงจาก 35% เหลือ 25% หลังตัวเลขการจ้างงานและตัวเลข ISM ภาคการบริการของสหรัฐออกมาขยายตัวต่ำสุดในรอบ 6 ปี ทำให้ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศมีโอกาสกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยหนุนดัชนีรีบาวน์ต่อในวันนี้ วันนี้เราให้แนวรับที่ 1488-1491 และแนวต้านที่ 1502-1510 จุด โดยหุ้นที่แนะนำ ซื้อเก็งกำไร คือ BANPU, IVL
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,510.78 จุด เพิ่มขึ้น 13.88 จุด (+0.93%) มูลค่าการซื้อขาย 24,308.28 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้น ตามการฟื้นตัวของตลาดต่างประเทศ หลังดัชนีภาคบริการของสหรัฐในเดือนส.ค.ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 6 ปี ทำให้มีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ติดตามการประชุม ECB ( พรุ่งนี้)
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย คาดว่าจะลดช่วงบวกลง เรามองการรีบาวน์ในช่วงนี้ยังไม่แข็งแรง โดยเฉพาะถ้ารีบาวน์ไม่ผ่าน 1515 จุด จะมองว่าเป็นแค่เทคนิเคลรีบาวน์ มีโอกาสจะถูกขายทำกำไรได้อีกรอบ โดยกลยุทธ์ช่วงนี้ สำหรับหุ้นใหญ่ ยังเน้นเก็งกำไรรอบสั้น อาศัยจังหวะดีดตัวแรงแล้วขายทำกำไรและรอซื้อกลับในจังหวะปรับตัวลงแรง มองแนวต้านขายที่ 1515 จุด และรับกลับที่ 1470 -1485 จุด ส่วนหุ้นขนาดกลางที่น่าสนใจเราแนะนำ EPG TWPC และ BA
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Raimon Land (RML TB; THB 1.41) - ซื้อ
Eason Paint (EASON TB; THB 5.60) - ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : COM7, DAII, RJH, KOOL*, NEWS*, TGPRO* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]