- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 07 September 2016 17:59
- Hits: 1286
บล.เคจีไอ :บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ขึ้นต่อ ค่าเงินกลับมาแข็ง หนุนจิตวิทยาตลาด
KGI คาด SET วันพุธขึ้นต่อ ทดสอบระดับจิตวิทยา 1,500 อีกครั้ง (วานนี้ตลาดยืนได้ ตามคาด) เรามองว่าสกุลเงินเอเชียและเงินบาทที่แข็งค่าตั้งแต่เมื่อคืนต่อเนื่องเช้านี้ จะหนุนจิตวิทยาได้ ทั้งนี้ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ และดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลง หลังตัวเลข ISM ภาคบริการ ส.ค. (ภาคส่วนนี้คิดเป็น 80% ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ) ชะลอสู่ 51.4 ซึ่งต่ำกว่าคาดมากและเป็นระดับต่ำสุดรอบกว่า 6 ปี ส่งผลให้ CME Fed fund futures ให้โอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยใน ก.ย. เหลือ 18% จาก 21% ในวันก่อนหน้า ข่าวนี้น่าจะทำให้ฟันด์โฟลว์ไม่ไหลออกจากตลาดการเงินไทยแม้วานนี้จะขายสุทธิเล็กน้อยใน SET ก็ตาม ภาพรวมฝ่ายวิจัยยังมอง risk-reward ของหุ้นไทยขณะนี้น่าสนใจ แนะเก็งกำไรต่อ ส่วนการประชุม ธ.กลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ KGI และ consensus คาด ECB คงนโยบายการเงินไว้ที่ระดับเดิม
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร RJH / ซื้อ TPCH
- RJH (เป้า Consensus 22 บาท) 1) รูปแบบราคาหลัง IPO (วันที่ 1 ก.ย.) เริ่มยกจุดต่ำขึ้นต่อเนื่อง และเริ่มสร้างรูปแบบ Sideway up ในระดับรายชั่วโมง ประเมินกรอบแนวรับ 19.5 แนวต้าน 20.7 บาท (โดยมีแนวต้านแรกที่รอสัญญาณการ Breakout ที่ 19.9 บาท) 2) เป็นโรงพยาบาลใหญ่สุดใน จ.อยุธยา มีส่วนแบ่งตลาดฯลูกค้าประกันสังคม 1 ใน 3 ของจังหวัด และคาดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจใน 2H59 - ปี 2560 จะทำให้ดีมานด์ในพื้นที่เพิ่มขึ้น
- TPCH (เป้า Consensus 24.6 บาท) 1) ราคาหุ้นเริ่มสร้างฐานในรายชั่วโมง หลังปรับลงแรงตามภาวะตลาดฯก่อนหน้า และราคาปัจจุบันถือว่าได้เปรียบนักลงทุนสถาบันที่ได้บิ๊กล๊อตไปก่อนหน้าที่ 18.5 บาท แนะนำ "สะสม" แนวรับ 17.8 บาท และ 17.6 บาท 2) Earnings momentum เป็นบวก (ทำนิวไฮ) ไปอีก 3-5 ไตรมาสติด 3) Catalyst 2 เรื่องที่มีนัยสำคัญกว่าการประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ คือ i) การเปลี่ยนสัญญา LOI ในมือที่ จ.ปัตตานี เป็น PPA 20MW ในเดือน ก.ย.นี้ และ ii) การประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวลทั่วประเทศ 400MW ภายในปลายปีนี้
หุ้นในกระแส
- หุ้นฟาร์มหมู+ไก่ (CPF*, TFG) ราคาเนื้อหมู + ไก่ ยังยืนสูง ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับลง คาดเป็น Sentiment บวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H59 (โดยเฉพาะไตรมาส 3/59 เป็น High season) แนะนำ "เก็งกำไร" i) CPF* แนวรับ 31 บาท แนวต้านแรก 31.5 บาท ผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 32.5 บาท และ 33.5 บาท ii) TFG แนวรับ 4.90 บาท แนวต้าน 5.40 บาท
- กลุ่มพลังงานทดแทน (โรงไฟฟ้าชีวมวล TPCH, PSTC / โรงไฟฟ้าขยะ BWG, GENCO / โซลาร์ส่วนราชการ) ภายหลังการประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ 36MW (VSPP) เป็นการปลดล๊อกการประมูล FiT พลังงานทดแทนไทย โดยคาด กกพ จะเริ่มต้นการประมูลล๊อตใหญ่ทั่วประเทศ โดยคาดจะออกร่างรับซื้อไฟฟ้าฯ ภายใน ก.ย.นี้ โดย 1) "ประมูล FiT" โรงไฟฟ้าชีวมวล 400MW (TPCH, PSTC) … คาดการแข่งขันด้านราคาไม่รุนแรงเช่นในภาคใต้ 2) "ยื่นขอ" โรงไฟฟ้าขยะ อุตสาหกรรมฯ 50MW (BWG, GENCO) และขยะชุมชน 130MW (TPCH) 3) "จับสลาก" โซลาร์ส่วนราชการ 519MW (SUPER, GUNKUL*, IFEC*) และคาดจะเริ่มต้นการเปิดประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานลมในปี 2560 (IFEC*, GUNKUL*)
หุ้นมีข่าว
(+) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้ กทม. ดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทองช่วงสถานีกรุงธนบุรี-สำนักงานเขตคลองสาน-ประชาธิปก ระยะทาง 2.7 กม. มูลค่าโครงการ 3.8 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2018 (เดอะ เนชั่น) เราเห็นว่า โครงการดังกล่าวจะเป็นบวกเล็กน้อยต่อ BTS* เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีทองมีส่วนเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน (สถานีกรุงธนบุรี) และยังมีจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ส่วนขยาย (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนเพิ่มผู้โดยสารให้กับ BTS รวมทั้งอาจมีรายได้ส่วนเพิ่มจากการบริหารโครงการ หาก บ.กรุงเทพธนาคม (วิสาหกิจของ กทม. ที่ดูแลโครงการขนส่งมวลชน) อนุมัติให้ BTS บริหารโครงการในอนาคต เรายังคงแนะนำซื้อ BTS โดยให้ราคาเหมาะสมที่10.60 บาท
(0) กลุ่มหาญฯเข้าแบล็กดอร์ FIRE ถือหุ้นใหญ่ 40% (ข่าวหุ้น) "กลุ่มหาญ เอ็นจิเนียริ่งฯ" ส่งบริษัทย่อยในกลุ่ม 2 แห่ง เข้าแบล็กดอร์ฯ "FIRE" โดยไม่ใช้เงินสด แต่นำสินทรัพย์แลกหุ้นเพิ่มทุน 234.50 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.62 บาท เข้าถือหุ้นใหญ่ 40.12% เล็งเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบริษัท หาญ เอ็นจิเนียริ่ง โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ HARN
(+) 'SIAM' งบครึ่งปีหลังสุดหรู ดีลห้องน้ำสำเร็จรูปพารวย (ทันหุ้น) SIAM ลั่นผลงานครึ่งปีหลังสดใส บิ๊ก "สุรพล คุณานันทกุล" เตรียมส่งมอบห้องน้ำสำเร็จรูปให้โครงการคอนโด 3 โครงการ รวมกว่า 3 พันยูนิต โกยรายได้เข้ากระเป๋าแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย พร้อมเดินหน้าเจาะกลุ่มลูกค้าคอนโดเพิ่ม ชูจุดเด่นช่วยร่นระยะเวลาก่อสร้าง-ส่งมอบงานได้เร็วขึ้น
(+) SAT รับยอดขายปีนี้วูบ 5% (กรุงเทพธุรกิจ) "สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์" รับยอดขายปีนี้ ลด 5-6% จากปีก่อนที่ทำได้ 8.6 พันล้านตามอุตสาหกรรมที่ยังชะลอตัว กดดันอัตรากำไรสุทธิลดลงจาก 7.23% เมื่อปีก่อนเหตุต้นทุนคงที่กดดัน
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
- IFEC* (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) ราคาหุ้นปรับลงแรง คาดเป็นผลจาก i) ภาวะตลาดฯ ii) ความกังวลเรื่องการปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในต่างประเทศ iii) ผลจาก Margin call ในเชิงพื้นฐานยังประเมิน Replacement cost (หรือ Liquidation value) ไม่รวมโครงการที่อยู่ระหว่างสร้างที่มี PPA แล้ว และโครงการที่กำลังจะซื้อเข้ามา ได้ที่ 6.1 บาท/หุ้น ดังนั้นแนะนำ "ซื้อสะสม" ... คาดปิดดีลโครงการพลังงานทดแทนในต่างประเทศ >100MW ในเดือน ก.ย.นี้ และประกาศพันธมิตรทางธุรกิจ รร ดาราเทวี เข้าร่วมลงทุน ในเดือน ก.ย.นี้
- TWZ (เป้าพื้นฐาน 0.49 บาท) ประเมินแนวรับ 0.35 บาท แนวต้านแรก 0.39 บาท และถัดไปที่ 0.42 บาท ... Valuation ไม่แพง ด้วย PBV 0.97 เท่า คาด 2H59 เริ่มรับรู้รายได้จากการเป็นพันธมิตร ADVANC* + รับรู้รายได้โครงการอสังหาฯ
- TACC (เป้า Consensus 10.7 บาท) แนะนำ "สะสม" แนวรับ 9.25 บาท … Catalyst ต่างๆเริ่มเกิดขึ้นในเดือน ก.ย. อาทิ ขายสินค้า Hello Kitty ในร้าน 7-Eleven / ขายโดนัทในร้าน 7-Eleven / ขายน้ำทุเรียน +มะม่วงไปจีน (เป็น Upside)
- SCC* (เป้าพื้นฐาน 635 บาท) ประเมินแนวรับ 530 บาท (Stop loss 522 บาท) และแนวต้าน 555 บาท ... ดัชนี FTSE Asia Pacific Ex Japan เพิ่ม SCC* เข้าคำนวณดัชนี (มีผล 16 ก.ย.นี้)
- CK* (เป้าพื้นฐาน 39.5 บาท) พิจารณาที่แนวต้าน 31 บาท หากผ่านได้ แนะนำ "Let profit run" แต่ถ้าไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าวอาจพิจารณาขายล๊อกกำไรสำหรับนักลงทุนที่เข้าเก็งกำไรวานนี้
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
- DELTA* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 68 บาท จากการเยี่ยมชมโรงงานของ DELTA ซึ่งประกอบด้วย i) โรงงานผลิตสินค้ากลุ่มยานยนต์ ii) power supply สำหรับโรงงาน data center และ iii) พัดลม, ขดลวด solenoid และ EMI พร้อมทั้งได้พูดคุยกับผู้บริหารถึงแนวโมธุรกิจของบริษัท เรายังคงมองว่ากลุ่มยานยนต์ และธุรกิจการค้าในอินเดียจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตระยะยาวของบริษัทในอีก 3-5 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตามการดำเนินการในเรื่องนี้เพียงแต่ช่วยลดแรงกดดันต่อผลกำไรก่อนที่ตัวขับเคลื่อนการเติบโตตัวใหม่จะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญเท่านั้น เรายังคงแนะนำให้ถือ
นักวิเคราะห์: อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]