- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 September 2016 16:43
- Hits: 1580
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
มีโอกาสฟื้นตัว? หลังดัชนีปรับลงค่อนข้างแรงวานนี้ ส่วนหนึ่งจากแรงขายสุทธิของสถาบันในประเทศ โดยที่ปัจจัยทางด้านพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง และคาดยังได้รับปัจจัยบวกจาก Fund Flow ที่ยังมีแรงซื้อสุทธิต่อเนื่อง แม้มูลค่าอาจมีความผันผวนบ้าง แต่ดีกว่าภูมิภาค และ YTD ยอดซื้อสุทธิสะสมเพิ่มต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ในระดับสูงเกือบ 120,000 ล้านบาท
ส่วนทางด้านประเด็นต่างประเทศ แนะติดตาม (+) การประชุม ECB ในวันที่ 8/9/59 ว่าจะมีมาตราการใดๆออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และ (+/-) การประชุมเฟดในวันที่ 20 – 21/9/59 ภายใต้ประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่คาดยังคงมีความไม่แน่นอน จากความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดที่แตกต่างกันไปทั้งขึ้น/ไม่ขึ้น? ขณะเดียวกันแนะติดตามค่าเงินสหรัฐฯ ที่คาดมีแนวโน้มแข็งค่า หาก
เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลลบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ทางตรงข้าม ค่าเงินสหรัฐฯ อ่อนค่าลงส่งผลดีต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์
นอกจากนี้ยังแนะติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังมุมมองของ ธปท. เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อน 2 เรื่องหลัก (1) เริ่มมองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเริ่มมี Downside Risk จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น และ (2) เงินเฟ้ออาจจะกลับเข้าสู่เป้าหมายได้ช้ากว่าที่เคยประเมินไว้เล็กน้อยจากราคาพลังงานที่ต่ำกว่าคาด
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น SCC และ VNG
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK,UNIQ,PYLONและ SEAFCO
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ในขณะที่ BCP และ IRPC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
SET SET50 SET100
1,492.52 -28.96 949.11 -15.33 2,128.01 -40.32
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ FTSE -15.18, CAC -1.09 และ DAX -11.60 โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ เนื่องในวันแรงงานของสหรัฐฯ หลังจีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ – ส.ค. อยู่ที่ 52.1 เพิ่มขึ้น 51.7 เมื่อเดือนก.ค. รวมถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ฟื้นตัวขึ้น ภายใต้ประเด็นที่ ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันในการประชุมสุดยอด G20 ที่นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยระบุถึงความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศในการรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน ท่ามกลางภาวะตลาดที่มีความผันผวน ซึ่งส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และพลังงาน
ตลาดน้ำมันปิดทำการ เนื่องในวันแรงงานของสหรัฐฯ ขณะที่ล่าสุด (2/9/59) ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ต.ค. +US$1.28 อยู่ที่ US$44.44 ต่อบาร์เรล
ตลาดทองคำปิดทำการ เนื่องในวันแรงงานของสหรัฐฯ ขณะที่ล่าสุด (2/9/59) ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$9.6 อยู่ที่ US$ 1,326.7ต่อออนซ์ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรต่ำกว่าคาด ซึ่งช่วยลดโอกาสที่เฟดจะพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +2,495 ล้านบาท สะสม YTD +118,224 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
21.92 1.9 3.17
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 83,879.90
สถาบัน -2,372.78
บัญชีหลักทรัพย์ -768.16
ต่างประเทศ 2,495.05
ในประเทศ 645.9
ประเด็นที่ต้องติดตาม 6 - 9 ก.ย. 2559
6/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้าย - ส.ค.
ดัชนีแนวโน้มการจ้างงาน (ETI) เดือนส.ค.
ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค.
7/9/59 : ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ
8/9/59 : ประชุม ECB
สหรัฐฯ เปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
สต็อกน้ำมัน
9/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
สต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนก.ค.
(7) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (CENTEL, MINT, ERW) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี’59 ที่คาด อยู่ที่ 33 ล้านคน เพิ่มจากประมาณการเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6%
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT
(9) กลุ่มหลักทรัพย์ จากมูลค่าการซื้อขายต่อวันที่สูงขึ้นในเดือน ก.ค. และ ส.ค. เช่น ASP, MBKET
ล่าสุด (2/9/59) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.03 อยู่ที่ 1.60% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ล่าสุด (2/9/59) ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.50 อยู่ที่ 11.98
หุ้นแนะนำ : UNIQ
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788