- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 September 2016 16:21
- Hits: 741
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้เปิดปรับฐานลงอย่างรวดเร็วหลุดแนวรับ 1,500-1,505 จุด ลงไปทดสอบแนว 1,475-1,480 จุด กดดันด้วยหุ้นหลักอย่าง SCC/ PTT/ KBANK / AOT / THAI แม้ว่าจะฟื้นตัวขึ้นแต่ก็เป็นไปอย่างจำกัด ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 28.96 จุด มาอยู่ที่ 1,492.52 จุด มูลค่าการซื้อขายมากถึง 83,880 ล้านบาท
เมื่อ SET INDEX ปรับฐาน ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยมากถึง 2,495 ล้านบาท แม้คงการ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 4 เพียง 1,516 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 อีก 3,358 ล้านบาทก็ตาม
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ตลาดหุ้น – ตลาดตราสารหนี้ – ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์สหรัฐฯ ปิดคืนวานนี้ เนื่องด้วยวันแรงงาน
รัสเซียและซาอุดิอาระเบีย บรรลุข้อตกลงในการร่วมมือกันดูแลราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
ราคาน้ำมันดิบ Brent คืนวานนี้ดีดตัวขึ้น 1.71% dod ปิดที่ US$47.63/barrel
สถาบันภายในประเทศขายสุทธิมาตลอด 6 วันทำการ 10,875 ล้านบาท
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 16)
แม้ว่า SET INDEX จะปรับฐานลงแรงและหลุดแนว 1,500 จุดวานนี้ ทำให้สัญญาณทางเทคนิคกลับมาอ่อนแอในระยะสั้นอีกครั้งก็ตาม แต่เรายังเชื่อมั่นต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย และปัจจัยพื้นฐานการลงทุน ณ บริเวณ 1,500 จุด คิดเป็น PER60 เท่ากับ 14.01x บน EPS Growth ที่ 12.7% yoy การตึงตัวของ Valuation ตลาดหุ้นไทยคลายตัวลงในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เราประเมิน SET INDEX ช่วง 1-2 วันนี้จะเริ่มทรงตัวมากขึ้น เพื่อประเมินสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศ โดยปัจจัยต่างประเทศเรายังคงให้น้ำหนักกับการประชุม ECB วันที่ 8 ก.ย. ซึ่งมีโอกาสที่ ECB จะขยายอายุโครงการ QE ออกไปอีก 6 เดือนเป็นสิ้นสุดเดือนก.ย. 2560 รวมถึงรายงาน Beige Book ในคืนวันที่ 7 ก.ย. หากภาพรวมเศรษฐกิจ และการจ้างงานของ 12 เขตเศรษฐกิจ ทรงตัว ก็อาจทำให้โอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ลดลงได้อีก จากปัจจุบัน 32%
ปัจจัยต่างประเทศ กอปรกับปัจจัยพื้นฐานการลงทุนที่แข็งแกร่งของตลาดหุ้นไทย ทำให้เงินทุนต่างชาติต่างทยอยเข้าสะสมหุ้นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นที่เกี่ยวข้องกับดัชนี FTSE รอบนี้อย่าง SCC/ PTT แข็งแกร่งกว่าภาพรวม ขณะที่ KBANK เผชิญกับแรงขายจากสถาบันภายในประเทศในมุมมองของเรา มิใช่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานแต่อย่างใด
กลยุทธ์การลงทุน เรายังคงยืนยัน “สะสมที่เกี่ยวข้องกับ FTSE AP ex Japan หรือ FTSE Thailand” พร้อมประเมินกรอบแกว่งระหว่าง 1,485-1,505 จุดในวันนี้
Strategy of the Day
1. เก็งกำไร PTT : ราคาปิด 333.00 บาท ราคาเหมาะสม 358.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะตอบรับเชิงบวก จากราคาน้ำมันดิบ NYMEX และ BRENT ที่ไต่ระดับขึ้น หลังซาอุดิอาระเบียและรัสเซียตกลงร่วมกันว่าจะสร้างเสถียรภาพให้กับราคาน้ำมันในตลาดโลก นอกจากนั้น หุ้นกลุ่ม Global Play ยังได้รับผลกระทบที่จำกัดกว่าหุ้น Domestic Play จากความผันผวนของตลาดหุ้นในระยะสั้น
b) มีปัจจัยบวกรออยู่ในระยะสั้น คือการปรับเพิ่มน้ำหนักดัชนี FTSE ในวันที่ 16 ก.ย. โดยคาดว่า PTT จะได้อานิสงค์จากการปรับเพิ่มน้ำหนักในรอบนี้ราว US$100 ล้าน
c) ราคาหุ้นปรับตัวลง 5% ใน 3 วันทำการที่ผ่านมา จึงเชื่อว่ามีโอกาสดีดกลับได้ และ Valuation ไม่แพงซื้อขายระดับ PER2560 เพียง 10.4 เท่า และให้ Dividend Yield ราว 3.5% ต่อปี
2. เก็งกำไร TPOLY : ราคาปิด 3.46 บาท ราคาเหมาะสม 4.90 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นขนาดกลาง – เล็ก จะฟื้นตัวได้ดี เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จำกัดจากแรงขายของกองทุนในประเทศในระยะสั้น
a) TPOLY ถือหุ้น TPCH สัดส่วน 41.2% จำนวน 165.5 ล้านหุ้น อิงราคาปิด TPCH วานนี้ที่ 18.10 บาท คิดเป็น Market NAV ต่อหุ้น TPOLY หุ้นละ 5.25 บาท
b) ราคาหุ้นมี Discount จาก Market NAV สูงถึง 34.5% หากอิงเป้าหมาย TPCH ของเราที่ 21.10 บาท และให้ส่วนลด 20% จะเทียบเท่าราคาเป้าหมาย TPOLY ที่ 4.90 บาท มี Upside สูงถึง 41% สะท้อนให้เห็นว่าราคาหุ้น TPOLY ยัง Undervalue มาก
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul
Assistant Analyst
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong