- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 05 September 2016 17:24
- Hits: 1581
บล.ไอร่า : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ตามตลาดต่างประเทศ? คาดมีโอกาสปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด และคาดเฟดอาจจะยังไม่พิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ ซึ่งช่วยลดความกังวลจากก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามคาดประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงมีความไม่แน่นอน จากความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดที่แตกต่างกันไปทั้งขึ้น/ไม่ขึ้น? โดยเฟดจะมีการประชุมในวันที่ 20 – 21/9/59 ขณะเดียวกันแนะติดตามค่าเงินสหรัฐฯ ที่คาดมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ภายใต้ประเด็นข้างต้น ซึ่งส่งผลดีต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นในวันนี้ คาดเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน
นอกจากนี้แนะติดตามการประชุม ECB ในวันที่ 8/9/59 ว่าจะมีมาตราการใดๆออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ คาดประเด็นหลักๆ ยังอยู่ที่ Fund Flow แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีแรงซื้อ/ขายสุทธิ สลับกันไป และมูลค่าอาจมีความผันผวนบ้าง แต่ดีกว่าภูมิภาค และ YTD ยอดซื้อสุทธิสะสมเพิ่มต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ในระดับสูงกว่า 115,000 ล้านบาท นอกจากนี้คาดอาจมีแรงเก็งกำไร หลังหลายๆ บริษัททยอยประกาศจ่ายปันผล ซึ่งทยอยขึ้น XD เช่น BBL : 2 บาท XD 6/9/59 KKP : 2 บาท XD 6/9/59 BCP : 0.80 บาท XD 6/9/59 และ CK : 0.25 บาท XD 8/9/59 เป็นต้น
ขณะที่ในระยะกลาง – ยาว คาด Sentiment ยังเป็นบวกจากสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ คาดกระบวนการเลือกตั้ง จะเกิดขึ้นตาม Road Map เดิม ประมาณปลายปี’60 ซึ่งคาดช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุนให้ดีขึ้นตามลำดับ
โดยยังคงติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังมุมมองของ ธปท. เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อน 2 เรื่องหลัก (1) เริ่มมองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเริ่มมี Downside Risk จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น และ (2) เงินเฟ้ออาจจะกลับเข้าสู่เป้าหมายได้ช้ากว่าที่เคยประเมินไว้เล็กน้อยจากราคาพลังงานที่ต่ำกว่าคาด
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น SCC และ VNG
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
SET SET50 SET100
1,521.48 -18.23 964.44 -13.73 2,168.33 -31.20
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA +72.66, NASDAQ +22.69, S&P +9.12 FTSE +148.63, CAC +102.50 และ DAX +149.51
ภายใต้มุมมองที่เป็นบวกว่าเฟดอาจยังไม่พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร – ส.ค. เพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.9% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ 180,000 ตำแหน่ง และ 4.8% ตามลำดับ อย่างไรก็ตามตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องและเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนจาก ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ – ก.ค. ลดลง 11.6% มากกว่าคาด อยู่ที่ 3.95 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังการส่งออกเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 10 เดือน
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ต.ค. +US$1.28 อยู่ที่ US$44.44 ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง ซึ่งส่งผลดีต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์
อย่างไรก็ตามยังอยู่ระหว่างรอการประชุมของกลุ่มโอเปก ในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ ที่แอลจีเรีย ขณะที่การเจรจาหลายครั้งก่อนหน้านี้ของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันไม่ประสบความสำเร็จ
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
22.36 1.94 3.11
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย
หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย
71,753.96
สถาบัน
-4,863.51
บัญชีหลักทรัพย์
-23.89
ต่างประเทศ
+96.81
ในประเทศ
+4,790.59
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$9.6 อยู่ที่ US$ 1,326.7ต่อออนซ์ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรต่ำกว่าคาด ซึ่งช่วยลดโอกาสที่เฟดจะพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +97 ล้านบาท สะสม YTD +115,729 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 5 - 9 ก.ย. 2559
5/9/59 : ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เนื่องในวันแรงงาน
6/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้าย - ส.ค.
ดัชนีแนวโน้มการจ้างงาน (ETI) เดือนส.ค.
ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค.
7/9/59 : ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ
8/9/59 : ประชุม ECB
สหรัฐฯ เปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
สต็อกน้ำมัน
9/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
สต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนก.ค.
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK,UNIQ,PYLONและ SEAFCO
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ในขณะที่ BCP และ IRPC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
(7) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (CENTEL, MINT, ERW) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี’59 ที่คาด อยู่ที่ 33 ล้านคน เพิ่มจากประมาณการเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6%
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT
(9) กลุ่มหลักทรัพย์ จากมูลค่าการซื้อขายต่อวันที่สูงขึ้นในเดือน ก.ค. และ ส.ค. เช่น ASP, MBKET
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.03 อยู่ที่ 1.60% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.50 อยู่ที่ 11.98
หุ้นแนะนำ : PTTGC
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788