- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 05 September 2016 17:14
- Hits: 1320
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ตัวเลขว่าจ้างงานไม่ได้ปิดโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.
คาดหุ้นไทบปรับตัวขึ้นวันนี้ตามหุ้นสหรัฐ และตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ที่ปิดบวก หลังจากตัวเลขการว่าจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ออกมาต่ำกว่าคาดทำให้นักลงทุนลดความน่าจะเป็นของการที่ Fed จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในเดือน ก.ย.ลง อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นของตลาดจะน่าถูกจำกัดโดยการที่เจ้าหน้าที่ Fed ยังคงคำพูดที่จะปรับดอกเบี้ยขึ้น และตลาดอัตราแลกเปลี่ยนก็ยังคงโอกาสของการขึ้นดอกเบี้ยอยู่ แม้ในเดือน ก.ย. ก็ตามโดยการที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเช้านี้และเมื่อวันศุกร์ นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนตั๋วเงินคลังสหรัฐระยะยาวก็ปรับสูงขึ้นในขณะที่ระยะสั้นคงที่ ปัจจัยภายในประเทศส่วนใหญ่เป็นลบไม่ว่าจะเป็นภาษีอสังหาริมทรัพย์จากการขายที่ดินใกล้โครงการโครงสร้างพื้นฐาน และกระทรวงพาณิชย์ปรับเป้าส่งออกลง ปัจจัยบวกมีแต่รัฐบาลย้ำสนับสนุนการทำเหมืองโปแตซในไทย
หุ้นเด่นวันนี้ : ANAN (Bt4.90; NR; 16TP IAA Bt5.40)
เลือก บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) สำหรับการลงทุนในวันนี้ จากการที่บริษัทสามารถรับรู้รายได้ต่อปีได้อย่างสม่ำเสมอและมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาทำได้มากกว่าประมาณการของตลาด คาดว่าจะมีการเติบโตของกำไรที่ดีมากในปี 2560 นอกจากนี้ยังมีภาพทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง การเติบโตของกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกไตรมาสและจะไปเน้นหนักในช่วงไตรมาส 4 ของปี ซึ่งปี 2559 นี้ก็เช่นกัน ANAN วางเป้าหมายการโอนไว้ที่ 1.56 หมื่นล้านบาท ในปี 2559 และคาดว่า 55% ของเงินจำนวนนี้จะเข้ามาในไตรมาส 4/59 จากคอนโดมีเนียมที่สร้างเสร็จถึง 5 โครงการ ซึ่งในงวดครึ่งแรกของปี 2559 ANAN รายงานกำไรสุทธิอยู่ที่ 358 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 146% YoY คิดเป็นเพียง 25% ของการคาดการณ์ของ IAA Consensus ซึ่งคาดค่าเฉลี่ยผลประกอบการทั้งปีที่ 1.4 พันล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายการโอนกรรมสิทธิ์จะสูงถึง 8.7 พันล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4/59 เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1/59 ถึงไตรมาส 3/59 ยอดโอนจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 พันล้านบาท IAA Consensus คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2559 เติบโต 17% และปี 2560 เติบโต 40% ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ PER ปี 2559 ที่ 11.6 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ PER เท่ากับ 16.97 เท่า และ PER ของตลาดฯ ที่ 22.65 เท่า Price Pattern ของ ANAN ยังอยู่มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ ANAN คาดว่ายังมีโอกาสที่จะได้เห็นการทำ New High ซึ่งจะเป็นการทำ New All Time High อีกต่างหาก โดยมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 5.90 บาท ทั้งนี้ ANAN มีจุด Stop Loss ระยะสั้นในรอบนี้อยู่ที่ 4.64 บาท (Resistance: 4.94, 4.98, 5.05; Support: 4.88, 4.84, 4.78)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
พาณิชย์หั่นเป้าส่งออก 59 ก.พาณิชย์ลดเป้าหมายการเติบโตของการส่งออกจาก 5% เหลือ -2% ถึง 2% หลังจากถกกับภาคเอกชน เป็นเพราเศรษฐกิจโลกยังไม่ดี ขณะที่เศรษฐกิจไทยอยู่ระหว่างเปลี่ยนโครงสร้างจากพึ่งพิงสินค้าเปลี่ยนเป็นบริการและการลงทุนออกนอกประเทศและเข้ามาในประเทศ (The Nation) ความเห็น: เป้าหมายใหม่สอดคล้องกับที่อุตสาหกรรมคาดการณ์ ได้แก่ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยคาดส่งออกหดตัว 2% สำหรับปี 59
ภาษีที่ดินฉบับใหม่กำลังเดินหน้า แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่าแผนภาษีพัฒนาที่ดินฉบับใหม่จะเป็นการเก็บภาษีครั้งเดียวจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาที่ดินในบริเวณใกล้เคียงการพัฒนาโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ อย่างไรก็ตามจะไม่มีการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังและจะเรียกเก็นเมื่อมีการขายออกหรือเปลี่ยนมือ ทั้งนี้ยังไม่มีการประกาศรายละเอียดอย่างเป็นทางการออกมา (The Nation)
กระทรวงอุตสาหกรรมสนับสนุนการทำเหมืองแร่โปแตชมากขึ้น: รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม นางอรรชกา สีบุญเรือง กล่าวว่ากระทรวงจะยังคงส่งเสริมการทำเหมืองแร่โปแตชในประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจาก อุตสาหกรรมปุ๋ยและลดการนำเข้า โดยประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตแร่โปแตชถึง 2 ล้านตันต่อปี (มูลค่าราว 16,000 ล้านบาท) ซึ่งจะช่วยลดการนำเข้าอย่างน้อย 9,000 ล้านบาทต่อปีและสามารถสร้างรายได้จากการส่งออกไปต่างประเทศด้วย ความเห็น: ITD และ TRC เป็นผู้ได้รับสัมปทานในการผลิตแร่โปแตชในประเทศ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการทำ Financial Close อย่างไรก็ตามราคาโปแตชในปัจจุบันลดลงมาอยู่ที่ 228 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน เมื่อเทียบกับราคาต้นปีที่ 300 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน สาเหตุจากการทุ่มตลาดจากผู้เล่นรายใหญ่คือประเทศเบลารุส ซึ่งเทียบกับจุดคุ้มทุนของการผลิตแร่โปแตชจะอยู่ที่ 250 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน เราคาดว่าผู้ประกอบการทั้งสองรายกำลังเจรจาต่อรองทางการเงิน และอาจจะมีผลให้โครงการล่าช้าออกไปราว 6 เดือนนับจากนี้
ต่างประเทศ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐระยะยาวปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นทรงตัว หลังจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในเดือนนี้ ราคาพันธบัตรอายุ 2 ปี ล่าสุดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 0.797% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีลดลง 10/32 และอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 1.604% (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนมองว่า Fed น่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนต่อ ๆ ไป แม้ว่าการเติบโตของการจ้างงานในเดือนส.ค. จะน่าผิดหวังก็ตาม ดัชนีค่าเงินดดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.21% อยู่ที่ระดับ 95.667 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ร่วงลงอยู่ที่ระดับ 95.189 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่วันศุกร์ที่แล้ว (Reuters)
ญี่ปุ่นได้เตือนอังกฤษว่าการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) อาจส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินของญี่ปุ่น บริษัทยาที่ได้ทำการลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนาที่จะต้องย้ายออกจากอังกฤษ มีรายงานฉบับหนึ่งจากเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นระบุถึงความกังวลหลายประเด็นซึ่งสถาบันการเงินของญี่ปุ่นอาจต้องดำเนินธุรกิจในอียูแทนหากการออกจากกลุ่มของอังกฤษจะทำให้สูญเสียสิทธิพิเศษ ญี่ปุ่นมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการผ่อนคลายการเข้ามาของแรงงานไร้ฝีมือ การป้องกันทางภาษี และสถานภาพของอังกฤษที่จะเป็นศูนย์เคลียร์ริ่งสำหรับการซื้อขายเงินยูโร (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ จากรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐที่ต่ำกว่าคาดได้ลดความคาดหวังว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. แม้ว่ามีความเห็นที่แข็งกร้าวจากประธานสาขาเฟดอีกหนึ่งท่านที่ยังคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยหนึ่งครั้งในปีนี้ (Reuters)
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 275,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งมีการจ้างงานลดลงในภาคการผลิตและก่อสร้าง นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ส่วนอัตราการว่างงานยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ค. อยู่ที่ระดับ 4.9% ขณะเดียวกัน ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ ได้เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% เทรดเดอร์มองว่าโอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ลดลงอยู่ที่ 21% จาก 24% เมื่อวันพฤหัส จากข้อมูลของ CME Group’s FedWatch อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 54.2% จาก 53.6% เมื่อวันก่อนหน้า (Reuters)
เจ้าหน้าที่ Fed ยังออกมาให้ความเห็นเชิงขึ้นดอกเบี้ยอีกราย Jeffrey Lacker ประธาน Fed สาขา Richmond กล่าวในวันศุกร์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังดูแข็งแรงพอที่จะรอบรับการขึ้นดอกเบี้ยแม้ว่าจะมีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาอ่อนแอก็ตาม ทำให้นักลงทุนไม่สามารถกะเกณฑ์โอกาสที่ธนาคารกลางจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ได้ (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันศุกร์ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด ส่งผลให้การที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ได้นั้นมีความเป็นไปได้ลดลง (Reuters)
ติดตามข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญหลายๆ ตัวของยูโรโซนในสัปดาห์นี้ เริ่มจากในวันจันทร์ ได้แก่ ตัวเลขยอดค้าปลีก ดัชนี PMI ภาคการบริการ และดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ในส่วนของวันอังคาร ได้แก่ คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนี ตามด้วยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรนีในวันพุธ ขณะที่ข้อมูลสำคัญๆ ในสหราชอาณาจักร ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการบริการในวันจันทร์ และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในวันพุธ (Reuters)
Angela Merkel นายกฯ เยอรมนีแพ้การเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อวันอาทิตย์ โดยพรรค Christian Democrats Union ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับที่สาม ซึ่งพ่ายแพ้ให้กับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลอย่าง Social Democrats และพรรคการเมืองขวาจัดที่ชูนโยบายต่อต้านผู้อพยพอย่าง AfD (Alternative for Germany) ทั้งนี้การพ่ายแพ้ดังกล่าวส่งผลให้โอกาสที่ Angela Merkel จะได้นั่งเก้าอี้ผู้นำรัฐบาลเป็นสมัยที่ 4 ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2017 เริ่มมีน้อยลง (Reuters)
เอเชีย :
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Shinzo Abe จะจัดการเจรจากับประธานาธิบดีจีน Xi Jinping (สี จิ้นผิง) ในวันนี้ เป็นการประชุมครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งปีที่สองประเทศที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ขัดกันในเรื่องดินแดนพิพาทในทะเลจีนใต้ การประชุมจะเป็นไปตามข้อสรุปของสองวันของการประชุมสุดยอด G20 ที่เริ่มต้นในวันอาทิตย์เมืองหางโจว ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของจีน (Reuters)
ญี่ปุ่นปรับ GDP ไตรมาส 2/59 และตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ก.ค. และมีกำหนดจะประกาศออกมาในวันพฤหัส (Reuters)
จีนและสหรัฐอเมริกาให้คำมั่นต่อกันในแถลงการณ์ร่วมในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ Barack Obama และประธานาธิบดีจีน Xi Jinping ว่าจะละเว้นจากแข่งกันลดค่าเงินของสกุลเงินตัวเอง ประเทศจีนกล่าวว่าจะดำเนินการต่อ การเปลี่ยนแปลงระเบียบเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับเงินหยวน ซึ่งทั้งสองผู้นำพบกันในหางโจว ในภาคตะวันออกของ ประเทศจีน ในการประชุมผู้นำจาก 20 ประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก มารวมกันในการประชุมสุดยอด G20 ในวันอาทิตย์ และวันจันทร์ (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันปิดบวก 3% วันศุกร์ หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐออกมาอ่อนแอกระทบค่าเงินดอลลาร์และดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์แต่ราคาน้ำมันดิบสหรัฐรายสัปดาห์ยังปิดลงแรงอยู่เพราะความกังวลต่ออุปทานล้นเกิน Brent บวก 1.38 ดอลลาร์ (+3%) ปิดที่ 46.83 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าบวก 1.28 ดอลลาร์สหรัฐหรือ 3% ปิดที่ 44.44 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ทองคำบวกกว่า 1% ในวันศุกร์ หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐออกมาอ่อนแอกว่าคาดลดโอกาสที่สหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ แต่ทองก็ย่อลงมาเล็กน้อยหลังดอลลาร์แข็งค่า ราคาทองคำตลาดจรขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 1,328.73 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์หลังจากประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร และปิดบวก 0.7% ปิดที่ 1,322.36 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำตลาดล่วงหน้าบวก 0.7% ที่ 1,326.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun, CFA, FRM (No.49234) Tel: 02 680 5094