WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

May copyบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

ตลาดหุ้นไทยวานนี้
  SET INDEX วันศุกร์ที่ผ่านมา ยังคงซึมตัวลงต่อเนื่อง ทดสอบแนวรับจิตวิทยา 1,520 จุด กลุ่มหลักอย่างพลังงาน /ธนาคาร/ SCC ปรับตัวลงหมด มีเพียงกลุ่มขนส่งที่เป็น Defensive สวนทางกับภาพรวม ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 18.23 จุด มาอยู่ที่ 1,521.48 จุด มูลค่าการซื้อขายมากถึง 71,754 ล้านบาท
  เงินทุนต่างชาติยังคงชะลอตัว แม้ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 เหลือเพียง 97 ล้านบาท แต่คง Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 2,871 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 เพียง 371 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้
  ตัวเลขการจ้างงานเดือนส.ค.ของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด ทั้งการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และการจ้างงานภาคเอกชน
  ราคาน้ำมันดิบ NYMEX คืนวันศุกร์ปิดบวก 2.97% เท่ากับ US$44.44/barrel
  โอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.ลดลงเหลือ 32% จากวันก่อนหน้า 34%

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 15)
  เมื่อ SET INDEX ปรับฐานลงไปปิด Gap ที่บริเวณ 1,520-1,530 จุด บวกกับตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาดทั้งการจ้างงานนอกการเกษตร และภาคเอกชน ทำให้โอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ลดลงเหลือ 32% เราเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะสนับสนุนให้ SET INDEX มีโอกาสฟื้นตัว แต่ก็ยังเป็นไปอย่างจำกัด เพราะต้องการรอดูทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติ หลังจากที่ชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
  เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,520-1,535 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นต่อเนื่อง โดยจับตาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ FTSE ทั้ง AP ex Japan และ Thailand น่าจะมีความโดดเด่นอีกครั้ง
  นอกจากนี้ปัจจัยเด่นในสัปดาห์นี้อยู่ที่การประชุม ECB วันที่ 8 ก.ย. ตลาดคาดว่า ECB จะขยายโครงการ QE ที่จะสิ้นสุดเดือนมี.ค. 2560 เป็นเดือนก.ย. 2560 แต่เราก็ยังไม่ตัดโอกาสที่ ECB จะลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ ณ ปัจจุบัน -0.4% เพราะภาพรวมเศรษฐกิจในอียูยังไม่ฟื้นตัว ความเสี่ยงภาวะเงินฝืดยังคงอยู่ในระดับสูง รวมถึงความอ่อนแอในระบบสถาบันการเงินยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตาม หากเป็นไปตามที่เราคาด ตลาดหุ้นทั่วโลกมีโอกาสดีดตัวกลับขึ้นเด่นได้ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ รวมถึง SET INDEX อาจทำระดับปิดสูงสุดใหม่ของปี
กลยุทธ์ในภาพรวม เราแนะนำให้นักลงทุน “เก็งกำไรหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ FTSE AP ex Japan หรือ FTSE Thailand”

Strategy of the Day
1. เก็งกำไร SCC : ราคาปิด 538.00 บาท ราคาเหมาะสม 600.00 บาท
  a) ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่ หลัง FTSE เพิ่ม SCC เข้าสู่การคำนวณดัชนี FTSE Asia Pacific Ex Japan ซึ่งจะมีการปรับน้ำหนักในวันที่ 16 ก.ย. ทำให้กองทุนต่างชาติที่ลงทุนโดยใช้ดัชนี FTSE เป็น Benchmark ต้องเพิ่มหุ้น SCC เข้าสู่พอร์ตลงทุน
  b) คงมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้างใน 2H59 เนื่องจากเชื่อว่าจะได้อานิสงค์โดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และแผนลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐฯจะทำให้ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์กลับมาขยายตัวในปี 2560
  c) คาดกำไรสุทธิปี 2559 เติบโต +8.7% yoy เป็น 49,338 ล้านบาท ทำระดับสูงสุดใหม่ของบริษัท และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 3.3% ต่อปี

2. เก็งกำไร KBANK : ราคาปิด 193.00 บาท ราคาเหมาะสม 206.00 บาท
  a) ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่ หลัง FTSE เพิ่ม KBANK เข้าสู่การคำนวณดัชนี FTSE Asia Pacific Ex Japan ซึ่งจะมีการปรับน้ำหนักในวันที่ 16 ก.ย. ทำให้กองทุนต่างชาติที่ลงทุนโดยใช้ดัชนี FTSE เป็น Benchmark ต้องเพิ่มหุ้น KBANK เข้าสู่พอร์ตลงทุน
  b) จะขึ้น XD ในวันที่ 6 ก.ย. หุ้นละ 0.50 บาท เป็น Momentum บวก เนื่องจากจะไม่ถูก SBL ในระยะสั้น
  c) คาดผลประกอบการ 2H59 จะเติบโตจาก 1H59 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้การตั้งสำรองเริ่มลดลง และ Valuation ไม่แพง ซื้อขายที่ PER2560 ที่ 9.1 เท่า และ PBV2560 ที่ 1.3 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี

Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul
Assistant Analyst
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!