- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 28 July 2014 15:50
- Hits: 2664
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Sideways
ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์แกว่งในกรอบแคบ ปิดที่ 1,543.85 จุด ลบเล็กน้อย 0.07 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 53,139 ล้านบาท
ด้านเงินทุนต่างชาติยังคงชะลอการลงทุนในไทย กลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 998 ล้านบาท แต่ Long สุทธิใน SET50 Index Futures 1,476 สัญญา พร้อมคงการซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 21 อีก 8,552 ล้านบาท อาจเป็นผลจากการลงทุนวันสุดท้ายของสัปดาห์ บวกกับขาดปัจจัยการลงทุนใหม่ในช่วงสั้นนี้
ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ MBKET คงกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,538 – 1,550 จุด เช่นเดียวกับช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ SET INDEX จะยังมี Downside risk ที่จำกัด จากการรอดูตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.ของไทยในปลายสัปดาห์นี้ รวมถึงผลการดำเนินงาน 2Q57 ของ SCC ในกลางสัปดาห์ MBKET เชื่อว่าปัจจัยทั้ง 2 จะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ย่อมทำให้ SET INDEX มีโอกาสดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,545-1,550 จุด และทะลุในที่สุด แม้ว่า DJIA คืนวันศุกร์จะปิดลบ 123.23 จุด แต่เป็นผลจากรายงานงบของบริษัทขนาดใหญ่ออกมาต่ำกว่าคาด มิใช่ด้านปัจจัยพื้นฐานของการลงทุน
ด้านปัจจัยต่างประเทศ นักลงทุนรอบโลก ต่างรอดูผลการประชุมเฟดระหว่างวันที่ 29-30 ก.ค.เช่นกัน ตลาดหุ้นทั่วโลก น่าจะแกว่งในกรอบแคบ รอดูผลดังกล่าวเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม MBKET ยังคงให้น้ำหนักกับ SET INDEX ขยับ Zigzag ขึ้นสู่กรอบด้านบน 1,580-1,600 จุดในรอบนี้ อาจเห็นในช่วงก่อนวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทยในเดือนส.ค.
กลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำให้นักลงทุน “ทยอยสะสมหุ้น หากราคาหุ้นเป้าหมายย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย” เพราะเชื่อว่า SET INDEX รอบนี้จะทะลุ 1,550 จุด ขึ้นสู่กรอบ 1,580-1,600 จุด
กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “ทยอยสะสม” SIM/ TRUEIF
Portfolio
Top Pick in 3Q14: AP/ IFEC / TRUE
HOLD: SCC/ SPALI/ TTA/ SAMART/ SPCG/ BLAND/ IFEC/ BTS/ SIM/ MACO
Accumulative Buy: SIM/ TRUEIF
Technical View
แนวรับ 1535 / 1530 จุด แนวต้าน 1550 จุด ในช่วงสั้น ยังน่าติดด่านปะทะ 1550
Action and Stock of the Day
SET INDEX ยังไม่ผ่าน 1,550 จุด
คงมุมมองเป็น “กลางถึงบวก” เป็นวันที่ 4 พร้อมเป้าหมายรอบนี้ 1,580-1,600 จุด
กลยุทธ์ ทยอยเข้าสะสมหุ้นหลักต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นเอเชียวันศุกร์ที่ผ่านมา ปิดลบเป็นส่วนใหญ่ จากแรงขายทำกำไรระยะสัปดาห์ ขณะที่ Nikkei ปิดบวกเด่นสุดในเอเชีย +1.13%
สำหรับตลาดหุ้นไทย SET INDEX ยังคงแกว่งในกรอบระหว่าง 1,540 – 1,550 จุด โดยหุ้นหลักกลุ่มธนาคาร / กลุ่ม ICT ยังคงเผชิญกับแรงขาย ขณะที่กลุ่ม PTT group ขยับได้ดี หลัง PTTEP รายงานงบออกมาดีกว่าคาด ช่วยจำกัด Downside risk ของ SET INDEX ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,543.85 จุด ลบเล็กน้อย 0.07 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นถึง 53,139 ล้านบาท
กลุ่มที่ปิดบวกเด่นสุดในรอบวันได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาล +3.25%, กลุ่ม IMM +1.32% และกลุ่มประกันภัย +1.05% ขณะที่กลุ่มหลัก กลุ่มธนาคาร -0.81%, กลุ่มพลังงาน +0.42% และ กลุ่ม ICT -0.99%
ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้
ตลาดหุ้นเอเชีย (7.40 น.) เช้านี้ Nikkei – Kospi เปิดบวก-ลบ สลับกันเล็กน้อย เพราะขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุนทั่วโลก
MBKET คงมุมมองการลงทุน “กลางถึงบวก” เป็นวันที่ 4 แม้ว่า SET INDEX แกว่งในกรอบแคบตลอด 2 วันทำการในช่วงท้ายสัปดาห์ก่อน ด่านสำคัญ 1,545-1,550 จุดยังไม่ผ่านก็ตาม แต่ MBKET เชื่อว่าในสัปดาห์นี้ มีปัจจัยภายในประเทศที่รอความชัดเจน และมีน้ำหนักต่อภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ในความเห็นของ MBKET ที่แนะนำให้นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในประเด็นดังต่อไปนี้
•ตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศวันที่ 31 ก.ค. โดยให้น้ำหนักกับตัวเลขการบริโภค / การลงทุน ภายในประเทศ ประจำเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นเดือนแรกที่ คสช. เร่งดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเงินจากจำนำข้าว ได้ไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแล้ว
•ผลการดำเนินงานของ SCC ใน 2Q57 ที่จะรายงานในวันที่ 30 ก.ค.นี้ โดย ตลาดคาดกำไรไว้ที่ 8.5-8.7 พันล้านบาท หาก SCC รายงานออกมาดีกว่าคาด พร้อมกับเงินปันผลระหว่างกาล ที่คาดไว้ราว 5.00 บาทจะเป็นอีกปัจจัยที่ผลักดัน SET INDEX
•กระแสเงินทุนต่างชาติอาจชะลอการลงทุนในช่วงสั้นนี้ เพื่อรอดูตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. หากส่งสัญญาณการฟื้นตัว เชื่อว่า แรงซื้อหุ้นหลักจากนักลงทุนต่างชาติจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
MBKET คงประเมินแนวรับสำคัญ 1,515-1,520 จุด จะทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง หลัง SET INDEX ปรับฐานลงในวันที่ 22 ก.ค.เพื่อเป็นการปิด Gap ที่เปิดไว้ก่อนหน้านั้นเท่านั้น
ทั้งนี้ ปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่รอความชัดเจนในช่วง 1-2 เดือนจากนี้ไป เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยจำกัด Downside ของ SET INDEX ซึ่งประเด็นด้านเศรษฐกิจ / การเมือง ที่รอความชัดเจนได้แก่
•การจัดตั้งสภาปฎิรูป และ การจัดตั้งรัฐบาล พร้อมนายกรัฐมนตรี ซึ่งน่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนในเดือนส.ค. หรือ ต้นเดือนก.ย. เพื่อเตรียมความพร้อมไปสู่การเข้าสู่ระยะที่ 2 ของการปฎิรูป และการบริหารประเทศในช่วงการเตรียมความพร้อม
•รายละเอียดของ Roadmap ในด้านต่างๆ ที่คณะทำงานได้รับนโยบายจากทาง คสช. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผนด้านเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะเห็นกรอบการทำงานในเดือนส.ค.
•ภาพรวมเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวเด่นใน 2H57 รวมถึงแรงเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงานใน 2Q57 ที่เริ่มทยอยประกาศอย่างต่อเนื่องในขณะนี้
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ MBKET คงคำแนะนำ “นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นหลัก / หุ้นเป้าหมายที่ราคาย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย” เพื่อรอผลตอบแทนในระลอกนี้ราว 30-40 จุด ทั้งนี้หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q57 เติบโต โดดเด่น yoy และ qoq ได้แก่ SAMART, SIM, SPCG, KCE, TUF, GFPT, PTTEP, HMPRO อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจระยะ 2-3 สัปดาห์จากนี้
ปัจจัยสำคัญวันนี้
1.ติดตามตัวเลขส่งออก – นำเข้าของไทยวันนี้: กระทรวงพาณิชย์จะรายงานตัวเลขเดือนมิ.ย.
•การส่งออก เดือนมิ.ย. Bloomberg consensus คาด +3.1% yoy จากเดือนก่อนหน้า -2.14% yoy
•การนำเข้า เดือนมิ.ย. Bloomberg consensus คาด -3.35% yoy จากเดือนก่อนหน้า -9.32% yoy
•และดุลการค้าเดือนมิ.ย. Bloomberg consensus คาดขาดดุล US$570 ล้าน จากเดือนก่อนหน้าขาดดุล US$809 ล้าน
2.คาดกลุ่ม ICT อาจเผชิญกับแรงขายอีกระลอก: ล่าสุดสหภาพแรงงาน TOT ยื่นหนังสือร้องเรียน ต่อ คสช. เกี่ยวกับการแก้ไขสัญญาอนุญาตให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กับ AIS ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของ ADVANC
MBKET คาดว่าประเด็นดังกล่าวจะสร้างแรงกดดันต่อราคาหุ้น ADVANC / INTUCH ต่อเนื่อง แม้ว่าการยื่นหนังสือดังกล่าวอาจต้องใช้เวลาในการพิจารณา แต่ด้วยภาวะการลงทุนในหุ้นทั้ง 2 ที่ขาดความน่าสนใจ บวกกับ ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่ชัดเจน ย่อมทำให้ราคาหุ้นของ ADVANC / INTUCH มีแนวโน้มปรับฐานลงต่อเนื่อง และยังไม่น่าสนใจที่จะเข้าทยอยสะสมเช่นกัน กดดันกลุ่ม ICT ขาดความโดดเด่น
วานนี้ วันก่อนหน้า
PER14 PER15 PER14 PER15
SET INDEX 15.23 13.29 15.23 13.29
PSE 19.39 16.80 19.39 16.80
JSE 16.43 13.98 16.48 14.03
KOSPI 10.41 9.06 10.34 9.00
TAIEX 15.45 14.13 15.56 14.28
Straits Time 14.78 13.53 14.78 13.53
SHCOMP 8.46 7.49 8.38 7.42
ที่มา: Bloomberg
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.SIM : ราคาปิด 3.36 บาท ราคาเหมาะสม 4.60 บาท
a)MBKET คาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q57 ที่ 290 – 300 ล้านบาท เติบโตทั้ง yoy และ qoq พร้อมทำระดับสูงสุดใหม่ของบริษัท จากแรงหนุนของยอดขายโทรศัพท์ Digital TV และ Smartphone ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่เทคโนโลยี 3G
b)หากกำไร 2Q57 ออกมาใกล้กับที่คาด จะส่งผลให้กำไร 1H57 คิดเป็น 45.8% ของประมาณการทั้งปี ดังนั้น เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2557 ที่ 1,046 ล้านบาท +24.8% yoy และคาดว่ากำไร 2H57 จะดีขึ้นกว่า 1H57 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
c)ราคาหุ้นมี Valuation ที่ยังไม่แพง โดยซื้อขายระดับ PER 2557 เพียง 13.6 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มสื่อสารที่ราว 15-16 เท่า
d) และคาดว่า Consensus จะตอบรับเชิงบวก จากการเข้าร่วมประชุม Analyst Meeting ในวันนี้ (28 ก.ค.) และเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น เนื่องจากผลประกอบการ 2Q57 จะขยายตัวโดดเด่น
2.TRUEIF : ราคาปิด 10.30 บาท ราคาเหมาะสม 13.70 บาท
a)MBKET ประเมินว่าการประมูล 4G ที่เลื่อนออกไป 1 ปี จะเป็น Overhang ต่อหุ้นสื่อสารขนาดใหญ่ ได้แก่ ADVANC, INTUCH, DTAC และส่งผลให้ราคาหุ้น Underperform ตลาดไปอีกระยะ
b)และหากพิจารณาการลงทุนเพื่อคาดหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลแล้ว TRUEIF มีความโดดเด่นกว่า เนื่องจากให้ Dividend Yield สูงถึง 8.5% เทียบกับ ADVANC ที่ 6.4%, INTUCH ที่ 8.2% และ DTAC ที่ 5.6% และการลงทุนใน TRUEIF จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินปันผล เนื่องจากได้รับประโยชน์ทางภาษีเพราะเป็นกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน
c)ดังนั้น เราคงมุมมองเชิงบวก และให้ TRUEIF เป็น Top pick ของหุ้นกลุ่มเงินปันผล เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากฐานะการเงินที่แกร่งขึ้นของ TRUE ซึ่งเป็นผู้เช่าหลัก โดยคาดว่าหลังเสร็จสิ้นการเพิ่มทุนจะส่งผลให้ Net DE ของ TRUE ลดลงจาก 10.0 เท่า ใน 1Q57 เหลือเพียง 0.46 เท่า
d)ส่งผลให้ความเสี่ยงของ TRUEIF ที่พึ่งพิงรายได้ค่าเช่าจาก TRUE จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และเชื่อว่าภายหลัง TRUE เสร็จสิ้นการเพิ่มทุน จะส่งผลให้บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือปรับเพิ่ม Rating ขึ้นสู่ระดับ Investment Grade และเปิดทางให้นักลงทุนต่างชาติพิจารณาเข้าลงทุนใน TRUEIF ได้เพิ่มขึ้น
What will DJIA move tonight? คืนนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ ได้แก่ ยอดขายบ้านรอปิดการขาย และดัชนี PMI Composite
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิ US$21 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$246 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX -61.7 53.1 11,067.0 9,188.0
KOSPI n.a 173.0 5,457.3 4,875.1
JSE 16.8 32.0 4,955.4 -1,806.4
PSE -7.5 -1.4 1,011.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 1.6 5.6 297.9 263.2
SET INDEX -31.4 36.6 -682.7 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
เงินทุนต่างชาติชะลอการลงทุนในไทย
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -998 +1,163
SET50 Index Futures (สัญญา) +1,476 -3,404
SSF (สัญญา) +132 -745
Metal Futures (สัญญา) -850 -97
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +8,552 +12,506
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิอีกครั้ง 998 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ ขายสุทธิขยับขึ้นเป็น 22,865 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธอีกครั้ง 1,476 สัญญา คาดว่าเป็นการทยอยเปิดสถานะ Long สุทธิ เมื่อ S50U14 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นอีกเล็กน้อย เป็น 7.82 จุด จากวันก่อนหน้า Discount 7.48 จุด
Metal Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short เป็นวันที่ 5 อีก 850 สัญญา รวม 5 วันทำการ Short สุทธิ 2,338 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 1,356 สัญญา น่าจะเป็นการปิดสถานะ Long ที่เปิดไว้ก่อนหน้าทั้งจำนวน และกลับมามีสถานะ Short สุทธิเล็กน้อย เมื่อราคาทองคำในตลาดโลกหลุดแนว US$1,300 ส่งสัญญาณอ่อนตัวลงของราคาทองคำ
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติยังคงเลือกเข้าเก็งกำไรค่าเงินบาท ผ่านตลาดตราสารหนี้ ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 21 อีก 8,552 ล้านบาท รวม 21 วันทำการซื้อสุทธิ 178,652 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยลดลงเป็นวันที่ 3 ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 อีก 1.04bps ปิดที่ 3.647%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 เท่ากับ 685 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 547 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
ADVANC 186.65 9.26% 204.17
ITD 70.60 14.14% 5.47
PTTEP 50.93 4.39% 169.75
SCB 39.79 7.31% 182.10
KKP 32.96 22.13% 41.69
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 24 พร้อมชะลอตัวมากขึ้น
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 24 เพียง 416 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,156 ล้านบาท รวม 24 วันทำการ ซื้อสุทธิ 38,930 ล้านบาท ถือเป็นการซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน สรุปได้ดังต่อไปนี้
1.กลุ่มพลังงานซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 150 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 371 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้างซื้อสุทธิ 148 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 135 ล้านบาท กลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 79 ล้านบาท
2.กลุ่ม ICT ถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 81 ล้านบาท ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้าขายสุทธิ 83 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
SCC 150.42 30.60 KBANK -230.30 38.78
TMB 140.26 15.69 THCOM -106.19 13.06
ADVANC 81.14 4.46 DTAC -67.33 20.88
PTTEP 65.36 7.28 INTUCH -60.49 7.07
SAMART 47.80 3.19 MINT -58.28 8.63
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong