Tweet

0

Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Friday, 02 September 2016 23:45

Hits: 3859

บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

SET Index: ปิด Gap ที่ 1520 แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1575-1580
      SET Index: 1523.31 ปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้านที่ 1550 จุด และปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1540 จุดลงไป แต่เราคาดว่า การปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1520 จุด น่าจะเป็นการปรับตัวลดลงมาปิด Gap ช่องว่างที่เปิดไว้ และยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับไปทดสอบแนวต้านที่ 1575-1580 จุดตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น
     แนวต้าน : 1530 และ 1540
     แนวรับ : 1522 และ 1520

PTT = 334 / 337, KBANK = 194 / 197, KTB = 18.20 / 18.50, SCC = 540 / 548, CPN = 58.00 / 58.50

CK Power (CKP TB; THB 3.20) – ซื้อ
     แนวต้าน : 3.30 และ 3.40 / เป้าหมาย 3.80
     แนวรับ : 3.20 และ 3.18
     ราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น
??MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
    แนะนำซื้อ CKP โดยมีแนวรับที่ 3.20 และ 3.18 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.30 และ 3.40 เป็นจุดขายทำกำไร
    STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.10 ลงไป

WHA Corporation (WHA TB; THB 3.46) – ซื้อ
??แนวต้าน : 3.60 และ 3.70
??แนวรับ : 3.44 และ 3.40
??ราคาหุ้นปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงหลังจากฟื้นตัวกลับขึ้นไปในระยะสั้น ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
??MACD ปรับตัวลดลงทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวลดลงทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 60
??แนะนำซื้อ WHA โดยมีแนวรับที่ 3.44 และ 3.40 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.60 และ 3.70 เป็นจุดขายทำกำไร
??STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.30 ลงไป

SET50 Index Futures
??S50U16 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเข้าใกล้แนวรับที่ 960 หลุดแนวรับที่ 965 ซึ่งเป็นแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงในระยะสั้นลงไป ซึ่งเราได้แนะนำให้กลับเข้าไป Open Long เพื่อคาดหวังการฟื้นตัว ในขณะที่แนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นอยู่ที่ 950 จึงทำให้การปรับตัวลดลงหลุดระดับ 960 อาจมีความเสี่ยงอีกไม่มาก
??แนวต้าน : 967 และ 972
??แนวรับ : 962 และ 960
??คำแนะนำ: เราแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ใน S50U16 ที่แนวรับ 963-965 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 972 และ 975
??STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50U16 ปรับตัวลดลงมาปิดต่ำกว่า 960 ลงไป

BLANDU16
ปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 1.88 ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวลดลงในระยะสั้น น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวที่บริเวณแนวรับสำคัญ 1.72 กลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.80 และ 1.90 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น แต่ถ้าปรับตัวลดลงหลุด 1.70 ลงไป จะเป็นสัญญาณขาย
แนวต้าน : 1.80 และ 1.84
แนวรับ : 1.75 และ 1.72
คำแนะนำ: เราแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ใน BLANDU16 ที่แนวรับ 1.74-1.75 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบ 1.80 และ 1.84
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า BLANDU16 หลุดระดับ 1.72 ลงไป

AAVU16
??ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเข้าใกล้แนวรับที่ 7.10 หลังจากเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคในระยะสั้นหลังจากพยายามสร้างฐานที่บริเวณ 7.50 จึงทำให้แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 7.10 และมีแนวต้านที่ 7.40-7.50 แต่ความเสี่ยงในระยะยาวเพิ่มสูงขึ้น โดยมีแนวรับถัดไปที่ 6.50 เป็นความเสี่ยง
??แนวต้าน : 7.40 และ 7.50
??แนวรับ : 7.20 และ 7.10
??คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน AAVU16 แนวต้าน 7.40 เพื่อคาดหวังการปรับลดลงไปทดสอบ 7.10
??STOP LOSS สถานะ Short ถ้า AAVU16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 7.50 ขึ้นไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET...รอตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ
       คืนวันนี้ทางสหรัฐจะประกาศตัวเลขภาคการจ้างงาน โดยตลาดให้ความสำคัญกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างานและอัตราค่าจ้าง ตัวเลขการสำรวจจาก Thomson Reuters คาดว่าตัวเลขการจ้างานนอกภาคเกษตรจะออกมาอยู่ที่ 180,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงจาก 4.9 เหลือ 4.8% แม้จะยังไม่มีใครรู้ว่า ตัวเลขการจ้างงานต้องออกมาเท่าไร ที่จะส่งผลให้ทาง FED จึงขึ้นดอกเบี้ย แต่นักเศรษฐศาสตร์ หลายๆสำนักออกมาให้ความเห็นว่า หากออกมาเกิน 200,000 ตำแหน่ง ทาง FED จะขยับดอกเบี้ยขึ้น แต่ก็มีอีกหลายส่วนบอกว่าเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวในระดับปัจจุบัน ทาง FED ยังไม่น่าขึ้นดอกเบี้ยแต่จะไปขึ้นในเดือน ธ.ค.
        แม้ในโพสต์สำรวจจะยังขัดแย้งกัน แต่เกือบ 80% บอกว่าในปีนี้ทาง FED ขึ้นดอกเบี้ยแน่ๆ เพียงแต่จะ 1 หรือ 2 ครั้ง สำหรับสัญญาณระยะสั้นที่กำลังบ่งบอกว่า ทาง FED อาจขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ คือ อัตราผลตอบแทนตั๋วเงินคงคลัง 2 ปีของสหรัฐ (2 year Treasury yield) ประจำเดือน ส.ค. ปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2015 โดยอัตราผลตอบแทน Treasury yield จะอ่อนไหวกับการขึ้นดอกเบี้ยดีกว่า Long date maturity อย่างไรก็ตามอัตราผลตอบแทนดังกล่าวอาจขึ้นมาในช่วงสั้น จนกว่าจะเห็นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อีกทีหนึ่ง
      กลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์หน้า หากดัชนี SET ได้รับผลเชิงบวกจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ แล้วส่งผลให้ตลาดตีความว่า FED ขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ เรามองยังคงเป็นหุ้นในกลุ่มที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง อย่าง สื่อสารใหญ่(INTUCH/ADVANC) อสังหาริมทรัพย์สร้างบ้านบางตัว (LH/PS/AP) พลังงานเล็ก(SPRC/IRPC) หุ้นโรงพยาบาล(BDMS) หุ้น Laggard (TOP) และหุ้น Turnaround (BANPU/IVL) อย่างไรก็ตามหากผลออกมาในทางตรงข้าม ก็ให้ซื้อหุ้น พลังงานใหญ่ ธนาคารพาณิชย์ โยงท่องเที่ยวและค้าปลีก
??เรามองว่าในสัปดาห์หน้า ทิศทางดัชนี SET จะแกว่งในกรอบที่กว้างขึ้น คือ 1520-1570 จุด ส่วนประเด็นใหญ่อีกประเด็นที่ตลาดจับตามองมากๆ คือ การประชุม ECB ในวันที่ 8 ก.ย.ซึ่งตอนนี้บางส่วนคาดว่าทาง ECB อาจจะประกาศขยายเวลาการทำ QE ออกมาไปอีก 6 เดือนพร้อมๆกับอาจจะประกาศรายละเอียดของการทำ QE หากผลการประชุมออกมาในเชิงที่ตลาดตอบสนองในเชิงบวก ตลาดหุ้นทั่วโลกจะบวกรับข่าว แต่หากไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้น คงไม่ส่งผลด้านลบอะไรมากมายกับตลาด
??ทิศทางการทำกำไรของตลาดที่ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆในปีนี้ (จากการปรับเพิ่มและลดค่า EPS ของนักวิเคราะห์เทียบสัปดาห์ต่อสัปดาห์) ส่วนใหญ่ไม่กระจุกอยู่ในหุ้นใหญ่ในกลุ่มหลักแต่จะกระจัดกระจายอยู่ในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กที่กระจุกในกลุ่มการบิน เกษตร อาหาร พลังงานเล็กและหุ้นสาธารณูปโภค ส่วนหุ้นพลังงานใหญ่ ธนาคารเล็กและอสังหาริมทรัพย์สร้างบ้านบางตัว เริ่มทรงๆตัวและไม่ถูกปรับลดกำไร และในช่วงหลังๆ มีนักวิเคราะห์ได้เข้ามาปรับเพิ่มกำไรและราคาเป้าหมายของหุ้นพลังงานเล็กที่อิงกับปิโตรเคมีมากขึ้น
      วันนี้คาดดัชนี SET เปิดขึ้นมาไม่ว่าจะบวกหรือลบแต่จะมีแรงเก็งกำไรมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงท้ายๆตลาด โดยดัชนีจะแกว่งแบบไร้ทิศทางทั้งแดนบวกและลบสลับกันไปตามดัชนีภูมิภาคหรือดาวโจนส์ล่วงหน้า วันนี้มองแนวต้านที่ 1444-1448 และแนวรับที่ 1433-1428 จุด หุ้นเก็งกำไรคือ AAV และ BA