- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 02 September 2016 23:25
- Hits: 839
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : EKH, HANA, KBANK, WORK
Our Portfolio Sep 2016 : ARROW, BCH, BJC, BLA, KTC
2016SET Target1650
คาด SET ยังมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อได้อีก ดังนั้นยังแนะทยอยซื้อลบ
ตลาดหุ้นวานนี้ : เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาเพิ่ม ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดยังมีอยู่ รวมทั้งการปรับตัวลงแรงพอควรของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก กดดันให้ SET แกว่งตัวด้านลบอีกครั้ง แม้ว่าบ่ายวันก่อนหน้าจะมีแรงซื้อหนุนกลับบ้างแต่ก็ยังไม่หนักแน่นนักคาดว่านักลงทุนบางส่วนยังรอติดตามดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนวันนี้(2 ก.ย.) อีกครั้ง
แนวโน้มตลาดวันนี้ : ถึงแม้ว่าเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐจะสามารถพลิกกลับมาปิดบวกได้เล็กน้อย หลังจากช่วงแรกดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงก่อนกว่า 100 จุดโดยได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่บรรยากาศการซื้อขายก็เป็นไปอย่างซบเซา โดยคาดว่านักลงทุนยังต้องการรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. ในช่วงค่ำวันนี้ก่อน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ยังปรับตัวลงต่ออีกกว่า 3% เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจกับผลการประชุมนอกรอบของกลุ่มโอเปกที่จะมีขึ้นในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังแกว่งตัวผันผวนและมีจังหวะปรับตัวลงให้เห็นอยู่ ซึ่ง FSS คาดว่า SET ก็น่าจะยังมีแรงขายกดดันเช่นกัน
กลยุทธ์ : เนื่องจาก SET ยังมีแนวโน้มแกว่งตัวลงต่อได้อีกตามคาด ดังนั้นเรายังแนะนำเลือกหุ้นค่อยๆ ทยอยซื้อสะสมเฉพาะช่วง SET ปรับตัวลงต่ำเช่นเดิม
แนวรับ 1535-1530 , 1525-1520 จุด
แนวต้าน 1542-1545 , 1548-1552 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : EKH, ARROW, ROBINS(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$436ล้าน นำโดยไต้หวัน US$277ล้าน และเกาหลีใต้ US$90ล้าน ขณะที่เงินทุนไหลเข้าไทยเพียงประเทศเดียว US$11ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางชะลอการไหลเข้าภูมิภาคเพื่อรอผลการประชุม Fed ในกลางเดือนนี้ก่อน
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (0) การจ้างงานสหรัฐศุกร์นี้ถูกจับตาเป็นพิเศษ เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการพิจารณาการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed (ตลาดคาด +1.85 แสนตำแหน่ง) ทำให้ราคาหุ้นทองคำ โภคภัณฑ์ ถูกกดดัน โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่มีความกังวลเรื่อง Supply ล้นตลาดประกอบกับนักลงทุนไม่ค่อยเชื่อมั่นกับการประชุม OPEC และ Non-OPEC 26-28 ก.ย.นี้
• (+) KBANK เราปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 2017 ที่ 232 บาท กำไรของ KBANK ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1H16 เราคาดกำไร 2H16 ดีกว่าครึ่งปีแรก 5% จากการตั้งสำรองลดลงเพราะสถานการณ์ NPL ดีขึ้นเรื่อยๆ เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 8.6% เป็น 3.86 หมื่นล้านบาท -2.2% Y-Y ต่ำกว่ากลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ที่ +1.6% Y-Y แต่กำไรปีหน้าโตแรงกว่ากลุ่มคาด +12.8% Y-Y (กลุ่มฯ +8.4% Y-Y) ประมาณการของเรามี upside ถ้าดอกเบี้ยเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้นและตั้งสำรองน้อยกว่าคาด ยังคงแนะนำซื้อ
• (+) EKH เราปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 2017 ที่ 7 บาท (DCF) และปรับกำไรปี 2016-17ขึ้น 9% เป็น +45% Y-Y ปีนี้และ +20% Y-Y ปีหน้า (กำไรปีหน้าโตสูงสุดในลุ่ม) เพราะกำไร 1H16 ดีกว่าคาด โตถึง 95% Y-Y ส่วน 2H จะดีกว่า 1H16 ตามธรรมชาติของธุรกิจเราคาดกำไร 3Q16 จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะ Utilization rate ของเตียงผู้ป่วยในช่วง ก.ค.-ส.ค. แตะ 75-80% เทียบกับ 1H16 ที่ 50-60% และการระบาดของไวรัสRSV ในเด็กขณะนี้เป็นโอกาสของ EKH ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านศูนย์แม่และเด็ก แนะนำซื้อ
• (+) WORK เราปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 2017 ที่ 49 บาท (DCF) และปรับกำไรปกติปี2016-17 ขึ้น 14-15% เป็น +80% Y-Y ในปีนี้ (สูงสุดในกลุ่ม) และ +27% Y-Y ปีหน้าจุดแข็งของ WORK คือความสามารถในการขึ้นค่าโฆษณาได้ต่อเนื่องตาม Rating ที่รักษาอันดับ 3 ไว้ได้ดีจากความแข็งแรงของ Content ประเภทวาไรตี้ของบริษัท ระยะสั้นยังมีข่าวดีที่กำไร 3Q16 เราคาดโตถึง 121.8% Y-Y และ 8.6% Y-Y ยังคงแนะนำซื้อ
• (+) ARROW เป็น 1 ใน 5 หุ้น MOMENTUM เดือน ก.ย. ที่เราแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐานปีหน้า 22.30 บาท กำไรปี 2016-17 เติบโตดี +14% Y-Y ปีนี้และ +12% Y-Y ปีหน้า จากEconomy of scales ที่ใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 75-80% และรายได้จากงานรับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้าของบ.ลูก (ARROW ถือ 65%) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากรถไฟฟ้าสีต่างๆสุวรรณภูมิเฟส 2 และงานของกลุ่มสื่อสาร หุ้นมี PE เพียง 13 เท่าในปีหน้า ต่ำสุดในกลุ่ม
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
31 ส.ค. - 2 ก.ย. - ไทย: Thailand Focus 2016 - A New Growth Strategy
2 ก.ย. - เกาหลีใต้: 2Q16 GDP
- สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ส.ค.)
5 ก.ย. - ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องในวัน Labor Day
- จีน: Caixin China PMI Composite (ส.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ส.ค.)
6 ก.ย. - ยูโรโซน: 2Q16 GDP
7 ก.ย. - ออสเตรเลีย: 2Q16 GDP
8 ก.ย. - ญี่ปุ่น: 2Q16 GDP
- ยูโรโซน: ECB ประชุม
- สหรัฐ: Fed Beige Book
9 ก.ย. - จีน: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BoK) ประชุม
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดทรงตัวท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เบาบางเนื่องจากนักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. และอัตราว่างงานในคืนวันนี้
(0) ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดค่อนมาในแดนลบหลังตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐฯอ่อนแอ อย่างไรก็ตามตลาดจับตาและให้น้ำหนักกับตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานของสหรัฐฯคืนนี้มากกว่า
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมในกรอบแคบหลังไร้ปัจจัยบวกใหม่และจับตารอดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญภาคแรงงานของสหรัฐฯคืนนี้
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกข้าง ล่าสุดยังเคลื่อนไหวแถว 34.50-34.65 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ร่วงแรง 1.54 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 43.16 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ถุ่งขึ้นมากกว่าคาด ขณะที่นักลงทุนยังไม่มั่นใจเรื่องการประชุมของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในเดือนหน้า ว่าจะมีสามารถบรรลุข้อตกลงได้หรือไม่
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.70 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,317.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจภาคการผลิตออกมาอ่อนแอ อย่างไรก็ตามตลาดยังขับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรคืนวันนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อความเป็นไปได้ต่อการขึ้นดอกเบี้ยของ FED
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research