- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 31 August 2016 17:24
- Hits: 972
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
Sideway? คาดการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ โดยให้น้ำหนักไปที่ประเด็นต่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นการพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งคาดตลาดส่วนใหญ่อยู่ระหว่างรอตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ หากออกมาแข็งแกร่ง คาดเป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้เฟดอาจพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. (20 – 21/9/59) และยังแนะติดตามค่าเงินสหรัฐฯ ที่อาจแข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ?แต่คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออกจากเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง
ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ คาดประเด็นหลักๆ ยังอยู่ที่ Fund Flow แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีแรงซื้อ/ขายสุทธิ สลับกันไป และมูลค่าอาจมีความผันผวนบ้าง แต่ YTD ยอดซื้อสุทธิสะสมเพิ่มต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ในระดับสูงกว่า 113,000 ล้านบาท นอกจากนี้คาดอาจมีแรงเก็งกำไร หลังหลายๆ บริษัททยอยประกาศจ่ายปันผล ซึ่งทยอยขึ้น XD ในสัปดาห์หน้า เช่น BBL : 2 บาท XD 6/9/59 KKP : 2 บาท XD 6/9/59 BCP : 0.80 บาท XD 6/9/59 และ CK : 0.25 บาท XD 8/9/59 เป็นต้น
ขณะที่ในระยะกลาง – ยาว คาด Sentiment ยังเป็นบวกจากสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ คาดกระบวนการเลือกตั้ง จะเกิดขึ้นตาม Road Map เดิม ประมาณปลายปี’60 ซึ่งคาดช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุนให้ดีขึ้นตามลำดับ
โดยยังคงติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังมุมมองของ ธปท. เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อน 2 เรื่องหลัก (1) เริ่มมองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเริ่มมี Downside Risk จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น และ (2) เงินเฟ้ออาจจะกลับเข้าสู่เป้าหมายได้ช้ากว่าที่เคยประเมินไว้เล็กน้อยจากราคาพลังงานที่ต่ำกว่าคาด
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น SCC และ VNG
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK,UNIQ,PYLONและ SEAFCO
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ในขณะที่ BCP และ IRPC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี
SET SET50 SET100
1,546.13 +1.98 983.07 +0.54 2,209.24 +2.92
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-/+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA -48.69, NASDAQ -9.34, S&P -4.26, FTSE -17.26, CAC +33.24 และ DAX +113.20
ภายใต้ปัจจัยลบ (1) ราคาหุ้นแอปเปิลที่ลดลง หลังคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) มีคำสั่งให้แอปเปิลจ่ายเงิน 1.3 หมื่นล้านยูโร (1.45 หมื่นล้านดอลลาร์) เป็นค่าภาษีย้อนหลัง บวกดอกเบี้ย ให้แก่รัฐบาลไอร์แลนด์ หลังพบว่าบริษัทได้รับประโยชน์ด้านภาษีจากรัฐบาลไอร์แลนด์ที่ผิดกฎระเบียบของสหภาพยุโรป (EU) เป็นเวลาถึง 11 ปี และ (2) ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐฯ- มิ.ย. เพิ่มขึ้น 5.1%yoy ชะลอตัวลงจากที่ปรับขึ้น 5.2% เมื่อพ.ค. และต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 5.2% ส่วนทางด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภค – ส.ค. อยู่ที่ 101.1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี และสูงกว่าที่คาดไว้ที่ 97.0
อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างรอตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ซึ่งหากออกมาแข็งแกร่ง ก็จะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21/9/59 แต่ถ้าตัวเลขจ้างงานออกมาต่ำกว่าคาด ก็จะลดแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. จากเดิม 30% เป็น 40% และคาดการณ์เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ จากเดิม 75% เป็น 80%
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยบวกเข้ามาบ้างจากหุ้นกลุ่มส่งออก หลังเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสหรัฐฯ
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
22.74 1.97 3.07
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 45,631.76
สถาบัน -270.17
บัญชีหลักทรัพย์ -57.97
ต่างประเทศ 739.63
ในประเทศ -411.48
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ต.ค. -US$0.36 อยู่ที่ US$46.35ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งยังได้รับปัจจัยกดดันจากเงินสหรัฐฯ ที่
แข็งค่า ซึ่งส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบมีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น แต่การปรับลดลงเป็นไปอย่างจำกัด หลังผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซของสหรัฐในอ่าวเม็กซิโกได้ระงับการผลิตน้ำมัน 168,334 บาร์เรล/วัน และก๊าซ 190 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน หลังพายุโซนร้อนเข้า
อย่างไรก็ตามยังอยู่ระหว่างรอการประชุมของกลุ่มโอเปก ในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ ที่แอลจีเรีย ขณะที่การเจรจาหลายครั้งก่อนหน้านี้ของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันไม่ประสบความสำเร็จ
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$10.6 อยู่ที่ US$ 1,316.5ต่อออนซ์ โดยยังถูกกดดันจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +740 ล้านบาท สะสม YTD +113,605 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
(-) สนง.เศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) - ก.ค. ลดลง 5.1%yoy เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 1.37% เมื่อมิ.ย. และเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน รวมถึงสวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%
ประเด็นที่ต้องติดตาม 31 ส.ค. – 2 ก.ย. 2559
31/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนส.ค.
ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ค.
สต็อกน้ำมัน
1/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วย – 2Q/59
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้าย - ส.ค.
ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ค.
ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนส.ค.
2/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.
การค้าระหว่างประเทศเดือนก.ค.
ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์คเดือนส.ค.
ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนก.ค.
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
(7) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (CENTEL, MINT, ERW) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี’59 ที่คาด อยู่ที่ 33 ล้านคน เพิ่มจากประมาณการเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6%
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT
(9) กลุ่มหลักทรัพย์ จากมูลค่าการซื้อขายต่อวันที่สูงขึ้นในเดือน ก.ค. และ ส.ค. เช่น ASP, MBKET
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัว อยู่ที่ 1.57% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.18 อยู่ที่ 13.12
หุ้นแนะนำ : PTTGC
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788