- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 30 August 2016 16:37
- Hits: 2484
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'SET ไม่หลุด 1540 ยังเลือกซื้อ/ถือได้'
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index เมื่อวานนี้อ่อนตัวลง (-5.26 จุดปิดที่ 1544.15) เพราะความไม่แน่นอนเกี่ยวกับระยะเวลาในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โดยโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 20-21 ก.ย.นี้มีมากขึ้น แม้ว่า Probability จะยังไม่สูงมาก แต่ก็เพิ่มจากก่อนประชุมเฟดประจำปีเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วราว 10% รวมทั้งต้องติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือนส.ค.ที่จะออกมาวันที่ 2 ก.ย.นี้ด้วย นักลงทุนจึงลดพอร์ตลงก่อน โดยนักลงทุนสถาบันในประเทศนำขายสุทธิ 2.7 พันล้านบาท พอร์ตบล.ขายสุทธิเล็กน้อย ด้านต่างชาติและรายย่อยซื้อสุทธิ 1.8 และ 1.0 พันล้านบาท ตามลำดับ
รอดู...ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.59 กันต่อ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ยืนที่ 95.5 โดยประมาณ US Bond Yield ลดลงและนักลงทุน Switch จากการถือตราสารหนี้ระยะยาวเข้าระยะสั้นต่ำกว่า 1 ปีมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงเรื่อง Mark to market loss ถ้าดอกเบี้ยปรับขึ้น สำหรับตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้แกว่งในกรอบแคบ แต่ Sentiment ดีขึ้นจากเมื่อวานหลังดัชนี DJIA เมื่อคืนนี้พุ่งขึ้นแรง สำหรับในประเทศ เศรษฐกิจโดยรวมอยู่ในภาวะฟื้นตัวอย่างช้าๆ การลงทุนภาครัฐมีความคืบหน้าแต่ก็ไม่เร็ว การลงทุนภาคเอกชนค่อนข้างซบเซา การบริโภคภาคครัวเรือนกระเตื้องขึ้น ภาคท่องเที่ยวยังไปได้ดี ส่วนส่งออกคาดว่าจะชะลอตัวต่อ อย่างไรก็ดี ยังสามารถใช้กลยุทธ์เลือกลงทุนเป็นรายบริษัทได้ แต่ก็ไม่ควรหวัง Gap กำไรมากในยามที่ตลาดและราคาหุ้นขึ้นมาอยู่ในโซนสูง รวมทั้งถ้ามีหุ้นอยู่ก็ควรพิจารณาแบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาหุ้นปรับขึ้นสูงกว่าเป้าหมายที่ประเมินอย่าง Aggressive ไปแล้ว สำหรับหุ้นเชิงกลยุทธ์แนะนำวันนี้เป็น AP
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นลบเล็กๆ ควรระวังการแกว่ง/อ่อน การซื้อใหม่จึงเน้นตามด้วยค่าบวก ค่าลบดูไม่ดีและควร Stop loss ถ้าต่ำกว่า 1540 จุด แนวต้านระยะสั้นอยุ่ที่ 1550-1560, 1570 จุด ส่วนแนวรับกรณี SET หลุด 1540 จุดคือ 1520, 1500 จุด
สำหรับการ SCAN หุ้นที่สัญญาณเทคนิคดี มีโอกาสทำ New high ที่เข้ามาใหม่คือ PACE, PTG, WORK, BH ส่วนที่ยังอยู่ใน List เป็น KAMART, S, VGI, XO, KKP, WICE หุ้นที่หลุด List -ไม่มี- หุ้นที่หาจังหวะขายทำกำไร คือ CKP
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค & Retail research team - [email protected]
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ : การใช้จ่ายผู้บริโภคก.ค.เพิ่มต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ในเดือนก.ค. โดยปรับตัวขึ้น 0.3% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้แรงหนุนจากความต้องการซื้อรถยนต์ สำหรับ 1Q59 การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ +1.5% และ +4.4% ใน 2Q59 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี
สหรัฐ : ดัชนีราคา PCE พื้นฐานขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน โดยไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 0.1%MoM ในเดือนก.ค.59 (+1.6%YoY) หลังขยับขึ้น 0.1%MoM (+1.6%YoY) เช่นกันในเดือนมิ.ย.59 ซึ่งดัชนีราคา PCE เป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ
สหรัฐ : จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ในวันศุกร์นี้
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.59 ของสหรัฐที่จะรายงานในวันศุกร์ที่ 2 ก.ย.นี้ ซึ่งหากออกมาแข็งแกร่ง ก็จะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. แต่ถ้าตัวเลขจ้างงานออกมาต่ำกว่าคาด ก็จะลดแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ : พุ่งขึ้นแรงรับการใช้จ่ายผู้บริโภคที่สดใส
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,502.99 จุด พุ่งขึ้น 107.59 จุด หรือ +0.58% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,232.33 จุด เพิ่มขึ้น 13.41 จุด หรือ +0.26% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,180.38 จุด เพิ่มขึ้น 11.34 จุด หรือ +0.52% ตอบรับการบริโภคที่แข็งแกร่ง ซึ่งหลักๆ มาจากยอดซื้อรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น หุ้นกลุ่มธนาคารปรับขึ้นเพราะกระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นจะทำให้ความสามารถในการทำกำไรของธนาคารดีขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบ : ปิดลดลง..มีรายงานอิรัก & ซาอุฯผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 66 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 46.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 66 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 49.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นผลจากการที่อิรักส่งออกน้ำมันได้มากขึ้นและจะเดินหน้าผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย รวมทั้งซาอุฯผลิตน้ำมันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนส.ค.59 ด้วย
ราคาทองคำ : ขยับขึ้นเล็กน้อย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ระดับ 1,327.1 ดอลลาร์/ออนซ์ ทั้งนี้สัญญาทองคำยังขาด Catalyst ที่มีนัยสำคัญในช่วงนี้ และนักลงทุนกำลังดูทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
ไทย : ขยายระยะเวลาใช้ VAT 7% ออกไปอีก 1 ปี
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอที่ประชุมครม.ขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากเพดาน 10% เหลืออัตรา 7% ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย. 59 ออกไปอีก 1 ปี เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยการขยายเวลาจะพิจารณาเป็นปีต่อปี ให้มีความเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจช่วงขณะนั้น
+ AP (ราคาปิด 7.70 บาท, ราคาพื้นฐาน 9.00 บาท) - กำไรจะพุ่งขึ้นสูงมากใน 4Q59
แม้ว่ากำไรสุทธิ 2Q59 จะต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้เล็กน้อย แต่ก็เป็นไปตามที่ DBSV คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทมีกำไรสุทธิไตรมาสนี้ 526 ล้านบาท -18% y-o-y, +16% q-o-q และหากไม่นับกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุน 77 ล้านบาท กำไรหลัก (Core profit) จะอยู่ที่ 464 ล้านบาท -26% y-o-y, +2% q-o-q
แนวโน้มยังไปได้ดี โดยเฉพาะใน 4Q59 ที่จะมีกำไรสุทธิสูงสุดในปีนี้ เพราะเริ่มบันทึกกำไรจากโครงการร่วมทุนกับกลุ่มมิตซูบิชิ เอสเตท ฝ่ายวิจัยฯ DBSV คาดว่ายอดขาย (Presales) จะกระเตื้องขึ้นใน 2H59 เมื่อเริ่มมีการขายโครงการคอนโดของบริษัทร่วมทุน 3 โครงการ มูลค่ารวม 15.1 พันล้านบาท ซึ่งส่วนนี้จะช่วยหนุนการเติบโตในระยะ 2 ปีข้างหน้าต่อไป เราประมาณการว่า AP จะมีกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่ง Outperform กลุ่มอุตสาหกรรมที่พักอาศัยในปี 60 (โดยคาดว่าจะ +27% ในปี 60 จาก +6% ในปี 59)
ในเชิงกลยุทธ์ เราให้ AP เป็นหนึ่งในหุ้น Top Pick กลุ่มที่พักอาศัย ราคาพื้นฐาน 9.00 บาท อิงกับ P/E ปี 60 ที่ 8 เท่า (ณ ราคาปัจจุบัน 7.55 บาท ซื้อขายที่ P/E ปี 59-60 ต่ำเพียง 8.6 และ 6.7 เท่า คาดการณ์ Dividend Yield ไว้ที่ 4.1% และ 5.2% ตามลำดับ)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]