- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 30 August 2016 16:13
- Hits: 1259
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
Sideway? คาดมีโอกาสปรับขึ้นตามทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ แต่คาดกรอบการขึ้นเป็นไปอย่างจำกัด โดยคาดตลาดยังคงมีความกังวล และให้น้ำหนักมากขึ้นต่อประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งอยู่ระหว่างรอตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ หากออกมาแข็งแกร่ง คาดเป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้เฟดอาจพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. (20 – 21/9/59) และยังแนะติดตามค่าเงินสหรัฐฯ ที่อาจแข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ?
ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ คาดประเด็นหลักๆ ยังอยู่ที่ Fund Flow แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีแรงซื้อ/ขายสุทธิ สลับกันไป และมูลค่าอาจมีความผันผวนบ้าง แต่ YTD ยอดซื้อสุทธิสะสม ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 112,000 ล้านบาท นอกจากนี้คาดอาจมีแรงเก็งกำไร หลังหลายๆ บริษัททยอยประกาศจ่ายปันผล ล่าสุด BBL : 2 บาท XD 6/9/59 KKP : 2 บาท XD 6/9/59
BCP : 0.80 บาท XD 6/9/59 และ CK : 0.25 บาท XD 8/9/59เป็นต้น
ขณะที่ในระยะกลาง – ยาว คาด Sentiment ยังเป็นบวกจากสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ คาดกระบวนการเลือกตั้ง จะเกิดขึ้นตาม Road Map เดิม ประมาณปลายปี’60 ซึ่งคาดช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุนให้ดีขึ้นตามลำดับ
โดยยังคงติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังมุมมองของ ธปท. เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อน 2 เรื่องหลัก (1) เริ่มมองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเริ่มมี Downside Risk จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น และ (2) เงินเฟ้ออาจจะกลับเข้าสู่เป้าหมายได้ช้ากว่าที่เคยประเมินไว้เล็กน้อยจากราคาพลังงานที่ต่ำกว่าคาด
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น SCC และ VNG
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK,UNIQ,PYLONและ SEAFCO
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ในขณะที่ BCP และ IRPC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี
SET SET50 SET100
1,544.15 -5.26 982.53 -4.76 2,206.32 -7.96
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA +107.59, NASDAQ +13.41, S&P +11.34,CAC -17.62 และ DAX -43.33 โดย FTSE – ปิดทำการ -หลังสหรัฐฯ เปิดเผยการใช้จ่ายของผู้บริโภค – ก.ค. เพิ่มขึ้น 0.3% โดยปรับขึ้นเป็นเดือนที่ 4 และสอดคล้องกับคาดการณ์ หลังได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการซื้อรถยนต์ และยังได้รับปัจจัยบวกจากหุ้นกลุ่มธนาคาร จากการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
โดยอยู่ระหว่างรอตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ซึ่งหากออกมาแข็งแกร่ง ก็จะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21/9/59 แต่ถ้าตัวเลขจ้างงานออกมาต่ำกว่าคาด ก็จะลดแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. จากเดิม 30% เป็น 40% และคาดการณ์เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ จากเดิม 75% เป็น 80%
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ต.ค. -US$0.66 อยู่ที่ US$46.98 ต่อบาร์เรล ภายใต้ปัจจัยลบ (1) การเพิ่มผลิตของกลุ่มประเทศโอเปก โดยเฉพาะอิรัก และซาอุดิอาระเบีย และ (2) เงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบ
อย่างไรก็ตามยังอยู่ระหว่างรอการประชุมของกลุ่มโอเปก ในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ ที่แอลจีเรีย ขณะที่การเจรจาหลายครั้งก่อนหน้านี้ของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันไม่ประสบความสำเร็จ
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
22.71 1.96 3.07
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 51,272.65
สถาบัน -2,679.88
บัญชีหลักทรัพย์ -114.39
ต่างประเทศ 1,797.67
ในประเทศ 996.6
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$1.2 อยู่ที่ US$ 1,327.1ต่อออนซ์ แม้ยังได้รับปัจจัยบวกจากถ้อยแถลงของประธานเฟด ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป แต่การปรับขึ้นเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากถูกกดดันจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +1,798 ล้านบาท สะสม YTD +112,865 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 30 ส.ค. – 2 ก.ย. 2559
30/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ราคาบ้านเดือนมิ.ย.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.
31/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนส.ค.
ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ค.
สต็อกน้ำมัน
1/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วย – 2Q/59
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้าย - ส.ค.
ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ค.
ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนส.ค.
2/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.
การค้าระหว่างประเทศเดือนก.ค.
ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์คเดือนส.ค.
ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนก.ค.
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
(7) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (CENTEL, MINT, ERW) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี’59 ที่คาด อยู่ที่ 33 ล้านคน เพิ่มจากประมาณการเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6%
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT
(9) กลุ่มหลักทรัพย์ จากมูลค่าการซื้อขายต่อวันที่สูงขึ้นในเดือน ก.ค. และ ส.ค. เช่น ASP, MBKET
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.07 อยู่ที่ 1.57% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.71 อยู่ที่ 12.94
หุ้นแนะนำ : CK
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788