WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLS copyบล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

มองข้ามเฟดคืนนี้ (เล่นหุ้นกลาง-เล็กรอไปก่อน)

      วันนี้ คาดดัชนีฯ พักฐานในตลาดกระทิงต่อ แนวรับ 1,540/1,539 แนวต้าน 1,555 จุด คืนนี้สุนทรพจน์ประธานเฟดคาดไม่มีผลต่อดัชนีฯ และคงคาดว่าตัวเลข Core PCE สหรัฐฯ ที่ชะลอลงในกลางสัปดาห์หน้า จะเป็นจุดเปลี่ยนทำให้ตลาดกลับมุมมอง เฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีนี้ ดังนั้นการอ่อนตัวลงของดัชนีฯวันนี้ไปถึงต้นสัปดาห์หน้า คาดกระแสการเก็งกำไรหุ้นกลาง-เล็กยังคงมาแรง ส่วนหุ้นใหญ่พักฐานในตลาดกระทิงเพื่อรอแรลรี่
สัปดาห์นี้ ดัชนีพักฐาน (ตามคาด) ตลาดรอดูดุลการค้า (ส่งออก)ไทย และ สุนทรพจน์ประธานเฟด แนวโน้มดัชนีฯมองว่าตราบใดที่เลี้ยงตัว ปิดเหนือ 1,528 จุด ได้ จะยังมีโอกาสทดสอบ 1,575 จุด อยู่ โดยในสัปดาห์หน้า คาดยังพักฐานต่อในกรอบเดิม 1528-1575 จุด
        แนวโน้มรายเดือน ปลาย สค.-กย. คาดแรงซื้อต่างชาติ จะเริ่มชะลอลงตั้งแต่กลางเดือน สค.เป็นต้นไป จากการรอดูท่าที FED ทั้ง FOMC Minutes และงาน Economic symposium ที่ Jackson Hole 25-27 สค.นี้ รวมถึง BOJ ชะลอเพิ่ม QE เพื่อรอประเมินผล QE ที่ออกไปก่อนหน้านี้ บวกกับ Sell on fact หลังงบออก และขึ้น XD รับปันผล คาดว่าจะมีผลทำให้ดัชนีพักตัว 3-5% คาดแนวรับ 1,510 จุด แนวต้าน 1,575 จุด กลยุทธ์แนะนำ อ่อนตัวซื้อ สะสมหุ้นที่ กำไรผ่านจุดต่ำสุดใน 2Q16 และ กำไรจะเร่งตัวขึ้นใน 2H16
       หุ้นแนะนำวันนี้ GUNKUL แนวรับ 5.35 ต้าน 6 บ. เมื่อวานแจ้งตลาดลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่นเพิ่มสร้างผลตอบแทนระยะยาว (เรายังคงคาดกำไรครึ่งปีหลังของ GUNKUL จะดีกว่าครึ่งแรกมาก หนุนราคาหุ้น Bottom out) / Anchor theme: กลุ่ม High season ท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน การท่าฯ ขยับบวกทุกตัว แนะเล่นรอบ MINT THAI


รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) กลุ่มพลังงานทดแทน สืบเนื่องจากความสำเร็จของ กกพ. จากการออกสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ตลอดปีนี้ และล่าสุด “ชีวมวลภาคใต้ 36MW” เรามองว่าตลาดจะกลับมาให้ความสำคัญกับการออก PPA ของโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนมากขึ้น และคลายความกังวลด้านโครงการที่จะมีความล่าช้าหรือผิดแผน ซึ่งระยะเวลาการออก PPA มากกว่า 1,000MW ต่อจากนี้ เรามีการพูดคุยกับ กกพ. และยังคงเป็นไปตามที่เราเคยชี้แจงไว้ก่อนหน้า คือ 1) โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 50MW (ประกาศ 28 ต.ค. นี้ คาด BWG ได้) และต่อด้วย 2) โรงไฟฟ้าขยะชุมชน 100MW (ประกาศ 17 พ.ย. นี้ คาด TPCH และ SUPER คว้างาน) สำหรับ 3) ชีวมวลทั่วประเทศ 500MW (ช่วง 4Q16 TPCH เด่นสุด) และ 4) โซล่าร์สหกรณ์-ราชการ คาดจะตามมา (ในช่วง 4Q16-1Q17 คาด IFEC SUPER TSE EPCO ได้) ซึ่งผู้มีความพร้อมที่จะได้ PPA ในรอบนี้

    เรามองว่าจะเป็นกลุ่มที่เคยมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แล้วเท่านั้น จากออกกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดในการออก PPA ซึงจะเป็นการลดปัญหาความล่าช้าของโครงการ อย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
(+) BLA ประเด็นจากการโรดโชว์ เรามีมมุมองเชิงบวกจากการที่บริษัทเน้นไปในส่วนของการขยายผลิตภัณฑ์ที่ทำกำไรได้สูง อย่าง กรมธรรม์ระยะกลางและกรมธรรม์ระยะกลางถึงยาว (ประกันชีวิตตลอดชีพ,เครดิตไลฟ์, บำนาญ, และประกันสุขภาพ) ในปี 2559 และ 2560 ซึ่งส่งผลให้ BLA มีโอกาสที่จะลดสำรองประกันชีวิตลงเหลือ 65% ของเบี้ยประกันทั้งหมด อีกทั้งเราคาดศักยภาพดีขึ้นจากที่เราได้ประเมิน ROI ปี 2559 ที่ 4.75% (รวมรายได้จากการลงทุน) หลังจากที่บริษัทมี ROI ที่ดีในไตรมาส 1/59 และ 2/59 ซึ่งอยู่ที่ 5.4% และ 6.3% ตามลำดับ ความเป็นไปได้ของผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นในช่วงหลังของปีนี้ เนื่องจากเทรนด์ของการปรับตัวขึ้นของดอกเบี้ย จะทำให้ BLA มีโอกาสมากขึ้นในการเพิ่มการลงทุนในพันธบัตรระยะยาว เรามีการ roll over ราคาเป้าหมายไปเป็น YE17 ที่ราคาเป้าหมายใหม่ 58 บาท และยังคงคำแนะนำ ซื้อ
(0) MONO เรามองว่าที่ราคาหุ้นมีการย่อตัวลงมากว่า 20% หลังจากที่ขึ้นไปเกือบที่จะถึงราคาเป้าหมายของเรา มาจาก 2 สาเหตุ ประการแรกคือนักลงทุนได้มีการทะยอยทำกำไรหลังจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาเยอะก่อนหน้านี้จากแรงเก็งกำไรบนผลประกอบการที่คาดว่ากลับมาเทิร์นอราวด์ใน 2Q16 อีกประการหนึ่งคือผู้บริหารมีการปรับประมาณการรายได้ของทีวีดิจิตอลลง จากสภาวะการฟื้นตัวของการบริโภคที่ช้ากว่าคาด แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมไปว่า แม้จะมีการปรับลดประมานการลง แต่ภาพรวมทั้งรายได้และกำไรยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง ที่จะเติบโตได้ดีกว่าในครึ่งปีแรกแน่นอน เรามีการปรับประมานการกำไรหลักปีนี้ลง เหลือ 63 ล้านบาท แต่ยังเชื่อว่ากำไรในปี 2017 จะยังสามารถเติบโตได้กว่า 354% อีกทั้งยังมีโอกาสปรับประมาณการกำไรในปีนี้ขึ้นอีกกว่า 2 เท่าตัว หากมีการบันทึกการกลับรายการที่จ่ายเข้ากองทุน USO ซึ่งจะบันทึกเป็นกำไรพิเศษราว 80-100 ล้านบาท เรายังคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ที่ราคาเป้าหมาย 4.10 บาท

หุ้นมีประเด็น
(+) BANPU ประกาศปันผล 0.25 บ. และ สิทธิ์ได้จองซื้อหุ้น IPO บ้านปูพาวเวอร์ (สัดส่วนอยู่ระหว่าง 18-25:1) XD XB 8 กย. (ที่มา SET)
(*) BTS คำสั่งพักราชการผู้ว่าฯ กทม. จะไม่มีผลกระทบต่อการเซ็นสัญญาว่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (สายสีเขียวเหนือ และ สายสีเขียวใต้) กับ BTS เนื่องจากในปัจจุบัน กทม. ได้มอบหมายให้ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว (ที่มา บจ. / BLS Research)
• ผู้ที่จะเป็นคู่สัญญากับ BTS คือ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เหมือนสัญญาว่าจ้างเดินรถไฟฟ้าฉบับปัจจุบัน
• จะเซ็นสัญญาว่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (สายสีเขียวเหนือ และ สายสีเขียวใต้) ภายในปลายปี 2559 (ตามแผนเดิม)
• เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ (ราคาเป้าหมาย 11.40 บาท)
(+) TFG ราคาลูกเจี๊ยบ ทะยานขึ้น 44% ภายใน 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็น 16-19.5 บาทต่อตัว มองราคาเนื้อไก่คอรปใหม่จะทำนิวไฮท์ในรอบ 2 ปี (ที่มา BLS research)
(+) กลุ่มโรงไฟฟ้า Renewable: กฟผ.เผยแผนยุทธศาสตร์ของ กฟผ. ปี 2560-2569 จะเสนอกระทรวงพลังงานขอเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอีก 1,500-2,000 เมกะวัตต์ (MW) ทั้งชีวมวล ขยะ พลังงานลม และแสงอาทิตย์ จากปัจจุบันที่มีอยู่ในระบบของกฟผ.แล้ว ราว 3,000 เมกะวัตต์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำ "กฟผ. มีความเชื่อมั่นว่า พลังงานหมุนเวียนจะเป็นพลังงานที่เติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต" (ที่มา ASPEN, กฟผ.)
(+) GUNKUL อนุมัติการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เคนโตส (Kentos) เมืองอุทสึโนะมิยะ จังหวัดโทชิงิ ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตของโครงการตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 66.78 เมกะวัตต์ และตามการติดตั้ง 72.80 เมกะวัตต์ มูลค่ารวมโครงการประมาณ 24,017 ล้านเยน หรือคิดเป็นประมาณ 8,391 ล้านบาท (ที่มา อินโฟเควส)
(+) IFEC จัดแถลงแผนดำเนินธุรกิจเมื่อวานนี้ โดยมีดีล M&A ในแผนงานเพื่อขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า ในเร็วๆนี้ / เราคาดว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าที่ผลิตไฟแล้ว เพื่อเร่งให้เกิดการรับรู้กำไรทันทีในปีนี้ โดยสัดส่วนที่เข้าลงทุนจะมากกว่า 40% เรายังอยู่ระหว่างติดตามความคืบหน้า (ที่มา บจ. / BLS research)
(+) Opportunity day จันทร์หน้า EPG SAPPE NDR LALIN SYNEX XO (ที่มา SET)
(+) ไฮไลท์หุ้นขึ้น XD: 26 สค. [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] (ที่มา SET)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-/+) สุนทรพจน์ประธานเฟด 26 สค. จะกล่าวในหัวข้อเรื่อง “The Federal Reserve’s Monetary Policy Toolkit” โดยในเนื้อหาจะเป็นการระบุถึงประสิทธิภาพของมาตรการต่างๆที่ได้นำออกมาใช้พยุงเศรษฐกิจตั้งแต่เกิด GFC (Global Financial Crisis) โดยมองว่า มาตรการต่างๆที่นำออกมาใช้กันทั่วโลก ได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ขึ้นมา (New Normal) ในการสร้างเสถียรภาพให้แก่เศรษฐกิจ / เราเห็นว่าเนื้อหาในรายงาน เป็นการส่งสัญญาณเชิงสัญลักษณ์ที่สำคัญ ต่อการไม่ขึ้นดอกเบี้ยในปลายปีนี้
(+) 22-28 สค.นี้ ตลาดหุ้นจีนจะปลดล็อกหุ้นที่ติด Silent ในสัปดาห์นี้ สามารถนำออกมาซื้อขายได้ มูลค่าราว 8.7 พันล้านดอลล์ฯ จาก 33 บริษัทฯ (ที่มา อินโฟเควส)
(-) ศุกร์ ตัวเลขส่งออกไทย เดือน กค. คาด -4% จาก -0.1% y-y, และ Custom trade balance (Jul) คาด 1.0 จาก 2.0 (US$bn), สิงคโปร์ Industrial production (Jul) คาด +0.9% จาก -0.3% y-y, UK GDP 2Q16 2nd คาด +0.6% q-q, US GDP 2Q16 2nd คาด +1.2% q-q ar. (ทีมา Bloomberg)

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!