- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 25 August 2016 17:23
- Hits: 2531
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ผันผวน? โดยคาดการเคลื่อนไหวยังแกว่งตัวในกรอบจำกัด (Sideway) ภายใต้ที่ยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ โดยคาดตลาดฯ อยู่ระหว่างถ้อยแถลงของประธานเฟดในการประชุมประจำปี ที่จะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ (26/8/59) ว่าจะมีการส่งสัญญาณใดๆ เกี่ยวกับระยะเวลาในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายๆ ราย ออกมาสนับสนุนให้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดแรงงานอยู่ในความคาดหมาย ขณะที่แนะติดตามค่าเงินสหรัฐฯ ที่อาจแข็งค่าขึ้น หากเฟดมีการส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์
ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ แค่คาดยังได้รับปัจจัยบวกจากประเด็น Fund Flow โดยต่างชาติยังซื้อสุทธิต่อเนื่อง แม้มูลค่าจะมีความผันผวน แต่ YTD ยอดซื้อสุทธิสะสม เพิ่มขึ้นสูงกว่า 110,000 ล้านบาท
ขณะที่ในระยะกลาง – ยาว คาด Sentiment ยังเป็นบวกจากสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ คาดกระบวนการเลือกตั้ง จะเกิดขึ้นตาม Road Map เดิม ประมาณปลายปี’60 ซึ่งคาดช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุนให้ดีขึ้นตามลำดับ
โดยยังคงติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังมุมมองของ ธปท. เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อน 2 เรื่องหลัก (1) เริ่มมองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเริ่มมี Downside Risk จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น และ (2) เงินเฟ้ออาจจะกลับเข้าสู่เป้าหมายได้ช้ากว่าที่เคยประเมินไว้เล็กน้อยจากราคาพลังงานที่ต่ำกว่าคาด
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น SCC และ VNG
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK,UNIQ,PYLONและ SEAFCO
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ในขณะที่ BCP และ IRPC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี
SET SET50 SET100
1,547.55 +7.49 986.20 +5.03 2,209.76 +11.10
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-/+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA -65.82, NASDAQ -42.38, S&P -11.46, FTSE -32.73, CAC +14.02 และ DAX +30.09
ภายใต้ปัจจัยลบ (1) การขายหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ หลังบริษัทมายแลน อิงค์ ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ถูกโจมตีอย่างหนัก จากการปรับขึ้นราคายาที่ใช้รักษาอาการแพ้ยา (2) ราคาน้ำมันที่ลดลง กระทบหุ้นในกลุ่มพลังงาน และ (3) ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ - ก.ค. ลดลง 3.2%MoM อยู่ที่ 5.39 ล้านยูนิต ต่ำกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 5.51 ล้านยูนิต
ขณะที่อยู่ระหว่างรอการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 26/8/59 โดยเฉพาะถ้อยแถลงของประธานเฟด ที่คาดอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป (+)มุมมองที่เป็นบวกว่า แนวโน้มของภาคธนาคารในยุโรปจะยังคงแข็งแกร่งในระยะยาว ส่งผลดีต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน แต่ (-) GDP – 2Q/59 ของเยอรมัน ขยายตัว 0.4% ชะลอตัวลงจาก 0.7% เมื่อ 1Q/59
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ต.ค. -US$1.33 อยู่ที่ US$46.77 ต่อบาร์เรล หลัง EIA เปิดเผย สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ล่าสุด เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 523.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 0.45ล้านบาร์เรล
โดยอยู่ระหว่างรอการประชุมของกลุ่มโอเปก ในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ ที่แอลจีเรีย ขณะที่การเจรจาหลายครั้งก่อนหน้านี้ของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันไม่ประสบความสำเร็จ
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
22.7 1.97 3.06
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 60,222.05
สถาบัน 1,583.33
บัญชีหลักทรัพย์ 75.2
ต่างประเทศ 1,491.18
ในประเทศ -3,149.71
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$16.4 อยู่ที่ US$ 1,329.7ต่อออนซ์ ภายใต้การซื้อขายที่ซบเซา โดยอยู่ระหว่างรอถ้อยแถลงของประธานเฟด ซึ่งอาจส่งสัญญาณในการประชุมประจำปีของเฟด ที่เมืองแจ็คสันโฮล ในวันศุกร์นี้ว่า เฟดอาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ ?
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +1,491 ล้านบาท สะสม YTD +110,802 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
(-) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม - ก.ค. อยู่ที่ 84.7 ลดลงจาก 85.3 เมื่อ
มิ.ย. เนื่องจากภาคธุรกิจกังวลกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ปัญหาขาดสภาพคล่อง ของผู้ประกอบการ SME และผู้บริโภคยังระมัดระวังใช้จ่าย รวมถึงภาคธุรกิจมีความกังวลเพิ่มขึ้น ในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
ประเด็นที่ต้องติดตาม 25 - 26 ส.ค. 2559
25/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.
26/8/59 : ก.พาณิชย์ เปิดเผยยอดส่งออก – ก.ค. (คาดลดลง 2.0%yoy โดยลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน)
สหรัฐฯ เปิดเผย
ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP – 2Q/59
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนส.ค.
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
(7) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (CENTEL, MINT, ERW) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี’59 ที่คาด อยู่ที่ 33 ล้านคน เพิ่มจากประมาณการเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6%
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT
(9) กลุ่มหลักทรัพย์ จากมูลค่าการซื้อขายต่อวันที่สูงขึ้นในเดือน ก.ค. และ ส.ค. เช่น ASP, MBKET
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.01 อยู่ที่ 1.56% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +1.07 อยู่ที่ 13.45
หุ้นแนะนำ : CK
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788