- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 23 August 2016 17:25
- Hits: 1307
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ต่อ เทรดดิ้งหุ้นเล็ก
KGI คาด SET วันอังคารแกว่งแคบต่อ (เมื่อวานซึมทั้งวัน ตามคาด) ตลาดไม่มีปัจจัยเล่นในระยะสั้น และทุกสายตาจับจ้องไปที่ถ้อยแถลงของประธานเฟดในวันศุกร์นี้ ด้านตลาดน้ำมันปรับฐานค่อนข้างแรง ตามตัวเลขแท่นขุดเจาะรายสัปดาห์ที่ยังเพิ่มขึ้นอีก และรายงานเมื่อคืนที่ว่าอิรักจะเพิ่มปริมาณส่งออกน้ำมันอีกอย่างน้อย 5% เราจึงมองว่าหุ้นพลังงานจะชะลอในวันนี้ ด้านปัจจัยภายในยังคงมีผลไม่มาก หลังจากเสร็จการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการไตรมาสสองไปแล้ว กลยุทธ์ช่วงที่เหลือของสัปดาห์ เน้นหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีสตอรี่ฟื้นนตัวในครึ่งปีหลังเป็นหลัก
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร PLANB*, BA*
PLANB* (เป้า Consensus 6.9 บาท) 1) ประเมินไตรมาส 2/59 เป็นจุดต่ำสุดของปี โดยอัตรา Utilization rate ต่ำเพียง 59% (ต่ำสุดตั้งแต่ IPO) แต่สามารถรักษา Net profit margin ได้สูงถึง 19% … หาก Utilization rate ฟื้นตัว อัตรากำไรจะเร่งตัวขึ้นแรง ... คาดการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัว ส่งผลบวกต่อการการใช้งบโฆษณา 2) กระแสฟุตบอลไทยที่ดีต่อเนื่อง (ดูได้จากกระแสการจองตั๋วแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ที่ระบบการจองตั๋วของ FSMART ล่ม เพราะคนจองเยอะเกินไป) จะเป็นบวกต่อรายได้ของ PLANB* ในการเข้าตัวแทนบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยคาดไตรมาส 3/59 นี้จะเริ่มรับรู้กำไรบางส่วน คาดราว ±10 ล้านบาท ตามสัญญาตกค้างของตัวแทนเก่า และคาดปีหน้าจะมีกำไรเข้า PLANB ราว 100 – 150 ล้านบาท จากฐานกำไรธุรกิจปกติที่ราว 400-500 ล้านบาท/ปี (กำไรที่จะเข้างบ PLANB ขึ้นอยู่กับการหารายได้สปอนเซอร์และการขายลิขสิทธิ์ให้สมาคมฯ) 3) ประเมินแนวรับ 5.9 บาท แนวต้านแรก 6.15 บาท หากผ่านได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6.7 บาท
BA* (เป้า Consensus 30 บาท) 1) ราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัวหลังรายงานผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 2/59 ซึ่งเป็นผลจากรายการพิเศษทางภาษี (คาดเกิดขึ้นครั้งเดียว) คาดแกว่งตัว Sideway up ทดสอบแนวต้าน 25.5 บาท และถัดไปที่ 27.5 บาท แนวรับ 24.5 บาท 2) คาดผลการดำเนินงานจะกลับมาเป็นบวกเด่นในไตรมาส 3/59 หลังไม่มีรายการพิเศษทางภาษี และสมุย เข้าสู่ High season ช่วง ต.ค.-พ.ย. 3) ราคาหุ้น Laggard AAV* นักเก็งกำไรอาจพิจารณา Long BA* + Short AAV*
หุ้นในกระแส
หุ้นปันผลสูง + กำไรดี (TMT, ASK)
1) TMT (เป้าพื้นฐาน 13.2 บาท ... อยู่ระหว่างพิจารณาปรับขึ้น) คาดปันผล >1 บาท/หุ้น (Dividend yield >7.9%) โดยอยู่ระหว่างพิจารณาปรับขึ้น ขณะที่หากพิจารณากรอบ Dividend yield band ในอดีต กรอบต่ำสุดจะอยู่ที่ 4.8% หากคิดกลับโดยอิงเป้าปันผลแบบ Conservative ที่ 1 บาท/หุ้น จะได้ราคาเป้าหมาย > 20 บาท (แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 จะดีกว่าที่ Consensus คาดก่อนหน้า จากราคาเหล็กโลกที่เริ่มฟื้นตัวแล้ว)
2) ASK (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) คาดปันผล 1.53 บาท/หุ้น (Dividend yield 6.7%) (แนวโน้มกำไรทำนิวไฮต่อเนื่องอีก 2 – 3 ไตรมาสติดๆเป็นอย่างต่ำ)
กลุ่มพลังงานทดแทนรู้ผลการประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้วันที่ 25 ส.ค.นี้ ปลดล๊อกการประมูลที่ใหญ่กว่า
1) TPCH (เป้า Consensus 22.8 บาท) แนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินเป็น 2 สถานการณ์คือ i) ชนะการประมูล แนะนำ “เก็งกำไรตาม” แนวรับ 18.5 บาท แนวต้าน 19.8, 20.0 บาท และ ii) หากแพ้การประมูลฯ แนะนำ “ซื้อแนวรับ” 17.9, 17.6 บาท คาดมีการประกาศงานเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากการประมูล >10MW ขณะที่ Consensus ไม่ได้รวมการประมูลไว้ในประมาณการฯ
2) ECF (ยังไม่มีเป้า Consensus) หุ้น Dark Horse บ.ร่วมทุนระหว่าง ECF+FPI และโรงไม้ท้องถิ่น ผ่านคุณสมบัติการประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวล 2 แห่ง รวม 20MW สำหรับนักลงทุนที่เข้าเก็งกำไรสั้น ตามที่เราแนะนำวันศุกร์ วันนี้กำหนดจุด Stop loss ทันทีถ้าหลุดแนวรับ 3.62 บาท แต่ถ้าผลการเปิดซองชนะการประมูล แนะนำ “เก็งกำไรตาม” แนวต้าน 3.9 บาท และ 4.0 บาท
3) IFEC* (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) ประเมินไตรมาส 3/59 บันทึกกำไรพิเศษอีกราว ±500 ล้านบาท หลังนำ รร ดาราเทวี ออกจากแผนฟื้นฟูฯในปลายเดือน ส.ค.นี้ (PE จะลดลงเป็น ±15 เท่า จากตอนนี้ 19 เท่า) และคาดปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในต่างประเทศที่ COD แล้ว ภายในไตรมาส 3/59 ... Downside จำกัด ประเมิน Replacement cost เฉพาะที่ COD แล้ว ไม่ต่ำกว่า 6.1 บาท
หุ้นมีข่าว
(+) BTS* นอนมาคว้างานรถไฟฟ้า ซดรายได้สื่อโฆษณาพุ่ง50% (ทันหุ้น) BTS เปิดฉากลุยประมูลงานภาครัฐ จับมือ STEC ซื้อซองโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู-สีเหลือง มูลค่ากว่าแสนล้านบาท ปลายปีนี้ ขณะที่ตั้งเป้าโกยรายได้ธุรกิจสื่อโฆษณาไม่ต่ำกว่า 50% ส่วนธุรกิจอสังหาไปได้สวยลุยเปิดโครงการใหม่ 6 โครงการ 2.3 หมื่นล้านบาท โบรกเคาะราคาใหม่ 11 บาท
(+) BEM* เปิดทางด่วนศรีรัชฯ คาดผู้ใช้9.7หมื่นคัน/วัน (ข่าวหุ้น) BEM ตัดริบบิ้นต่อเนื่อง วานนี้ เปิดใช้ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ อย่างเป็นทางการแล้ว คาดมีผู้ใช้บริการปีแรก 9.7 หมื่นคันต่อวัน ก.ย.-ธ.ค. 59 ทำรายได้เฉลี่ย 145 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนทั้งปี 60 อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท
(+) อสังหาฯคึกรับด่วนศรีรัช (โพสต์ทูเดย์) ทางด่วนศรีรัชปลุก อสังหาฯ ฝั่งธนฯ คึก ย่านจรัญฯ บางแค ราชพฤกษ์ ตลิ่งชัน ความต้องการเพิ่มนายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า ทางด่วนพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก จะเป็นทางด่วนที่ข้ามไปยังพื้นที่ฝั่งธนบุรี ปลายทางลงถนนกาญจนาภิเษก ถือว่าส่งผลดีมากสำหรับที่อยู่อาศัยย่านฝั่งธนบุรี จากเดิมที่ต้องวิ่งเข้าเมืองถึงปิ่นเกล้า พระราม 8 ต่อไปยังทางด่วนยมราช หรือทางด่วนฝั่งถนนพระราม 2 เพื่อเข้าเมือง
(+) 'บีเจซี' รุกเพิ่ม 500 ร้านค้าปลีกตลาดเวียดนาม (กรุงเทพธุรกิจ) "บีเจซี" ลุยลงทุนค้าปลีกเวียดนามต่อเนื่อง หลังซื้อกิจการ "เมโทร เวียดนาม" เล็งเปลี่ยน แบรนด์เป็น "เอ็มเอ็ม เมก้า มาร์เก็ต" เพิ่มสาขาร้านสะดวกซื้อบีสมาร์ท ไม่ต่ำกว่า 500 สาขาในระยะ3-5ปีจากนี้ เตรียมนำโมเดล "สตรีทฟู้ด"ในไทยบุกตลาด นำร่องธุรกิจอาหารแช่แข็ง ขนมหวาน เผย 7 ปีลงทุนเวียดนามแล้ว 3 หมื่นล้าน
(+) 'เฟรเซอร์ส' ไล่เก็บแผ่นดินทอง (กรุงเทพธุรกิจ) "แผ่นดินทอง" เชื่ออสังหาฯแนวราบ โตต่อ หลังเส้นทางรถไฟฟ้าขยายตัว ลุยเปิดโครงการ 20,000 ล้านต่อปี ตั้งงบซื้อที่ดิน 4,000-5,000 ล้านต่อปี ขณะที่ 'เฟรเซอร์ส' ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ไล่เก็บหุ้นเพิ่มกว่า 6.1% หลังซื้อก่อนหน้า 29.5%
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
SCB* (เป้าพื้นฐาน 190 บาท) ประเมินแนวรับ 155 บาท หากต่ำกว่าแนะนำ “Short against” ลงไปรอรับที่บริเวณ ±150 บาท ... คาดเป็นหุ้นแบงก์ที่ฟื้นตัวเร็วๆในสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว
TWZ (เป้าพื้นฐาน 0.49 บาท) สร้างฐานบริเวณ 0.34 – 0.35 บาทได้ คาดจะกลับไปสู่กรอบราคา 0.36 – 0.40 บาทได้ ... โดยประเมิน Valuation ไม่แพงด้วย PBV 0.95 เท่า และ PE ปีนี้ที่ 17 เท่า (บนประมาณการกำไรปัจจุบัน ที่มีโอกาสปรับขึ้นอีก หลังกำไร 1H59 คิดเป็น 80% ของประมาณการฯทั้งปี)
CPF* (เป้าพื้นฐาน 33 บาท) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุด Trailing stop หากต่ำกว่า 31.75 บาท
สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
BIGC แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 260 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้อยู่ในเชิงบวกเล็กน้อย โดยผู้บริหารประเมินการแข่งขันในตลาด Hypermarket จะยังคงเข้มข้น แต่อัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นและประโยชน์ที่เกิดจากแรงผนึกทางธุรกิจ กับ BJC* น่าจะช่วยหนุนกำไรในปี 2559 เติบโตต่อเนื่อง
PTTGC* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 71 บาท รายงานเหตุการณ์ไฟไหม้ที่โรงบำบัดน้ำของ PTT Phenol วันที่ 22 ส.ค. อย่างไรก็ดีสถานการณ์ล่าสุด กลับมาดำเนินการผลิตตามปกติแล้ว
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมันปรับขึ้น +11% WoW เป็นผลจากความคาดหวังการประชุมผู้ผลิต-ส่งออกน้ำมัน ในวันที่ 26 – 28 ก.ย. อย่างไรก็ดีเราประเมินว่า ผลการประชุมฯอาจไม่ได้ส่งผลต่อราคาน้ำมันมากนัก สำหรับค่าการกลั่นตอนนี้อยู่ในระดับที่ต่ำเพียง 3.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล (แม้จะรีบาวด์ขึ้นมา WoW ก็ตาม) ทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานหุ้นกลุ่มโรงกลั่นจะยังอ่อนแอในไตรมาสนี้ แนะนำหลีกเลี่ยง TOP* และ SPRC
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ค่าเฉลี่ยสี่สัปดาห์ที่รับ 1536 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1536 จุดนั้น อาจสะสมแรงผลักขึ้นในกรอบ 1536-1555 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1536 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1536-1510 จุด
แนวรับวันนี้: 1536/1518 แนวต้านวันนี้: 1544/1553
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]