- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 22 August 2016 17:08
- Hits: 2389
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
จุดสนใจอยู่ที่การประชุมที่ Jackson Hole
คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นภูมิภาคที่เปิดร่วงเช้านี้ โดยเรื่องการขึ้นหรือไม่ขึ้นดอกเบี้ยของ Fed จะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดจุดสนใจสัปดาห์นี้จะเป็นถ้อยแถลงของเจเน็ท เยลเล็น ประธาน Fed ที่การประชุมธนาคารกลางของโลกประจำปีที่ Jackson Hole สหรัฐ ซึ่งทุกคนหวังจะได้ยินถ้อยคำที่อาจจะเป็นคำตอบเรื่องดอกเบี้ย ปัจจัยภายในประเทศวันนี้เป็นกลาง รัฐบาลยังคงดำเนินความพยายามสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ล่าสุดจะจัดสรรงบประมาณเน้นไปที่การส่งเสริมการส่งออกไปยังประเทศ ASEAN โดยเฉพาะ CLMV จะมีมาตรการภาษีและประกันการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว
หุ้นเด่นวันนี้ : EPG (ราคาปิด 12.50 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS 16.00 บาท)
เราเลือกบมจ. อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป เป็นหุ้นเด่นในวันนี้เนื่องจากเราเห็นว่าราคาหุ้นปัจจุบันยัง Laggard อยู่มากเมื่อเทียบกับศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจของบริษัทฯ ล่าสุดจากการประชุมนักวิเคราะห์ เราพบว่า EPG ยังคงเดินหน้าตามแผนและกลยุทธ์ทางธุรกิจผ่านการขยายตลาดในเชิงรุกทั้งในและต่างประเทศ ผสานกับแรงหนุนหลักจากนวัตกรรมและการวิจัยพัฒนาที่โดดเด่นเป็นของตัวเอง ความคืบหน้าในเชิงบวกในการขยายกำลังการผลิตของบริษัทฯ รวมถึงการยอมรับของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นในผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ๆ ล้วนเป็นสัญญาณในเชิงบวกที่ช่วยเน้นย้ำถึงมุมมองการเติบโตข้างต้น EPG ล่าสุดประกาศผลการดำเนินงานงวด 1Q59/60 (เม.ย. 59-มิ.ย. 59) พบว่ากำไรปกติทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสที่ 394 ลบ. (+11% QoQ, +63% YoY) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากหน่วยธุรกิจทั้งหมด รายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและความสามารถในการทำกำไรอันแข็งแกร่งจากต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำลงภายใต้ภาวะราคาน้ำมันดิบที่ลดลง
แนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจของ EPG คาดว่าจะยังคงดำเนินต่อไปเนื่องจากสิทธิบัตรที่มีอยู่ในมือบวกกับนวัตกรรมที่เพิ่มเติมจากการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา และการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเจรจาควบรวมกิจการที่มีความเป็นไปได้ในอนาคต เราประมาณการการเติบโตของกำไรปกติในปีนี้ที่ 21% YoY และในปีหน้าที่ 20% YoY เราเชื่อว่าราคาหุ้นในปัจจุบันยังคงต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานเนื่องจากซื้อขายที่ PER ของปีนี้และปีหน้าที่ประมาณ 20 เท่า ซึ่งสูงกว่า PER ของกลุ่มวัสดุก่อสร้างเพียงเล็กน้อยที่ 17 เท่า แต่บริษัทสามารถสร้าง ROE ที่เหนือกว่าและมีการเติบโตของกำไรสุทธิที่โดดเด่นกว่าภายใต้ความเสี่ยงที่ต่ำจากสิทธิบัตรที่มีอยู่ในมือ นอกจากนี้ ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตถึง 2.0 S.D. ในส่วนของ Price Pattern ของ EPG ถึงแม้ยังคงอยู่ในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Sell Signal แต่ว่าในระยะสั้นอาจเกิดสัญญาณการฟื้นตัวของ EPG ได้ หาก Price Pattern ของ EPG สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 12.50 บาท เนื่องจากจะเป็นการกลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ ทั้งนี้หาก EPG สามารถกลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ได้สำเร็จ คาดว่าจะมีเป้าหมายเบื้องต้นในระยะสั้นอยู่ที่ 13.00 บาท (แนวต้าน: 12.60, 12.70, 12.90; แนวรับ 12.40, 12.20, 12.10)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
เปลี่ยนกลยุทธ์ดันส่งออก กรมการค้าระหว่างประเทศ ก.พาณิชย์เปลี่ยนเป้าหมายกลยุทธ์เพื่อยกระดับสถานการณ์ภาคการส่งออกปีหน้าซึ่งกรมฯ วางแผนที่จะจัดสรรการสนับสนุนการส่งออกส่วนใหญ่ด้วยงบ 2 พัน ลบ.ไปยังตลาดอาเซียนมุ่งเน้นประเทศเพื่อนบ้าน CLMV เพื่อสนับสนุนการค้าสินค้าและบริการรวมถึงสร้างเครือข่ายการค้าระหว่างประเทศเหล่านี้ ทั้งนี้จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างกงสุลไทยและรมว.กระทรวงที่เกี่ยวกับการค้าทั้งหลายราววันที่ 7-11 ก.ย. เพื่อมุ่งระบุอุปสรรคทางการค้าและถกกันถึงกลยุทธ์การส่งออกเพื่อผลักดันยอดส่งออก (Bangkok Post)
กระทรวงเตรียมมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว ก.คลังร่วมกับ ก.ท่องเที่ยวและกีฬากำลังพิจารณาออกประกันคุ้มครองเดินทางให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ นอกจากนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังกำลังคิดที่เสนอมาตรการลดภาษีสำหรับภาคท่องเที่ยวในประเทศในรูปของการให้หักลดหย่อนค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยวสำหรับฐานภาษี (Bangkok Post) ความเห็น: ถึงแม้ว่าเหตุการณ์วางระเบิดทางภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมาคาดว่าจะมีผลกระทบระยะสั้น แต่ยังคงมีการเสนอมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
Chevron กล่าวว่าจะไม่ถอนการลงทุนจากประเทศไทย นาย Stephen Green ประธานของบริษัท Chevron Asia Pacific Exploration and Production กล่าวว่า Chenron จะยังคงการลงทุนในสินทรัพย์ปิโตรเลียมในประเทศไทยต่อไป โดยจะยังคงเป็นหนึ่งในการลงทุนหลักของ Chevron แม้ว่าจะมีข่าวลือเรื่องการออกจากประเทศไทยหลังจากในช่วงที่ผ่านมามีการลดต้นทุนและพนักงานลงจำนวนมาก (Bangkok Post) ความเห็น: ประเด็นดังกล่าวถือเป็นการปฏิเสธข่าวลือที่ว่า PTTEP จะเข้าซื้อสินทรัพย์ปิโตรเลียมต่อจาก Chevron เช่นกัน ซึ่งส่งผลให้ PTTEP จำเป็นต้องแสวงหาสินทรัพย์และการลงทุนในแหล่งอื่นๆ เพื่อสร้างปริมาณสำรองปิโตรเลียมของบริษัทฯ ให้มากขึ้น จากปัจจุบันเป็นแนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่อง เรายังคงคำแนะนำ ขาย PTTEP ที่ราคาเป้าหมาย 68.0 บ.
ต่างประเทศ
อีกความเห็นหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย: นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(Fed) สาขาซานฟรานซิโก ระบุว่าหาก Fed ปล่อยเวลาให้เนิ่นไปในการขึ้นดอกเบี้ย อาจก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจและหากเป็นไปได้ควรปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ความเห็นดังกล่าวหนุนความเห็นของนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธาน Fed สาขานิวยอร์กที่มีความเห็นว่าควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์ก่อน ดังนั้น นักลงทุนยังจับตาที่การประชุมของเหล่าประธานธนาคารกลางจากทั่วโลกในแจ็คสัน โฮล มลรัฐไวโอมิง ในวันศุกร์นี้ ซึ่งคาดหมายว่านางเจเน็ต เยลเลน ประธาน Fed อาจให้มุมมองเชิงลึกยิ่งขึ้นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (Reuters)
ราคาพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากเทรดเดอร์ได้บันทึกกำไรก่อนการประชุมของเหล่าประธานธนาคารกลางจากทั่วโลกซึ่งเป็นที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธาน Fed มีหมายกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์ ราคาพันธบัตรอ้างอิงอายุ 10 ปีปรับตัวลง 13/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 1.582% เพิ่มขึ้น 5 bps จากเมื่อวันพฤหัส (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 สัปดาห์เทียบกับเงินยูโรเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันหลังจากประธานสาขาของ Fed รายหนึ่งให้ความเห็นสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนที่กำลังมาถึง ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ล่าสุดเพิ่มขึ้น 0.37% อยู่ที่ระดับ 94.508 จุด อย่างไรก็ตาม ดัชนีดังกล่าวปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สอง (Reuters)
สหรัฐ :
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบเมื่อวันศุกร์ จากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค ขณะที่นักลงทุนชั่งน้ำหนักแนวโน้มของการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนที่กำลังมาถึง การที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐวิ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมาเป็นเพราะส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำรวมทั้งข่าวผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่สดใสและตัวเลขเศรษฐกิจที่ดี (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันศุกร์ปรับตัวลดลง ส่งผลให้เป็นการปรับตัวลดลงในรายสัปดาห์ที่มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา นำโดยการปรับตัวลดลงของราคาหุ้น Vopak ซึ่งประกอบธุรกิจแท็งค์เก็บสินค้าหลังจากรายงานผลประกอบการน่าผิดหวัง ขณะที่การปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มธนาคารใหญ่ๆ ยังคงกดดันตลาด (Reuters)
Theresa May นายกฯ อังกฤษ จะไม่เริ่มการเจรจาการออกจาก EU อย่างเป็นทางการก่อนสิ้นปีนี้ อ้างอิงจากคำกล่าวของโฆษกรัฐบาล โดยเธอกล่าวว่าจุดยืนของรัฐบาลยังคงเหมือนเดิมและมาตรา 50 จะไม่ถูกบังคับใช้ก่อนสิ้นปีนี้ (Reuters)
เอเชีย :
จีนแสดงความโกรธเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาในตัดสินใจของออสเตรเลียในการออกกฎรักษาความปลอดภัยในการที่มีผู้ชนะการประมูลจากจีนสำหรับ Energy Grid มูลค่า 7.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และเริ่มต้นกระบวนการประมูลใหม่ ตราสารหนี้ของออสเตรเลีย สกอตต์ มอร์ริสัน ที่จะต้องขออนุมัติการลงทุนใหญ่จากต่างประเทศ ถูกบล็อกการขาย Ausgrid ให้กับ State Grid Corp ของจีนและ Cheung Kong Infrastructure Holdings จากฮ่องกง ก่อนหน้านี้ เดือนที่แล้วสหราชอาณาจักร กล่าวว่าจะทบทวนแผนการที่จะสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์สองจุด ที่ Hinkley Point กับการสนับสนุนทางการเงินจากจีน ซึ่งนายกรัฐมนตรี Theresa May ของอังกฤษ กังวลเกี่ยวกับแผนการลงทุนของจีนที่นำเสนอมา (Reuters)
ญี่ปุ่นกำลังดำดิ่งลึกเข้าไปในเงินเฮลิคอปเตอร์: BOJ กล่าวว่าไม่มีความเป็นไปได้ของเงินเฮลิคอปเตอร์ ผ่านการมีข้อกำหนดที่เข้มงวด ที่ต้องทำให้ถูกต้อง อย่างไรก็ตามในขณะที่รัฐบาลมีแผนจะออกพันธบัตรอายุมากกว่า 40 ปี ที่เหมือนเป็นการสร้างหนี้ บ่งบอกว่าตราบใดที่มีการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) จากตลาด ซึ่งไม่ได้เป็นการจัดจำหน่ายพันธบัตรทางตรงให้กับกองทุนเพื่อการใช้จ่ายของรัฐบาล อย่างไรก็ตามความแตกต่างไม่ชัดเจน ขณะที่นักลงทุนซื้อพันธบัตร แต่ขายทันทีให้ BOJ ซึ่งตอนนี้ BOJ ก็ซื้อทั้ง 30 ล้านล้านเยน (299.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ในพันธบัตรที่ออกใหม่โดยรัฐบาลเป็นประจำทุกปี ซึ่งให้ผลทางความรู้สึกเช่นเดียวกับเงินเฮลิคอปเตอร์ (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันปิดคงที่วันศุกร์ ด้วยน้ำมันดิบสหรัฐบวกรายสัปดาห์มากสุดนับแต่ มี.ค.หลังพุ่งเกือบ 25% ในช่วงสองสัปดาห์ Brent ปิดต่ำลงไม่กี่เซนต์ที่ 50.88 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยได้ไปแตะจุดสูงสุดรอบสองเดือนที่ 51.22 ดอลลาร์ ราคา Brent บวก 8% รายสัปดาห์ เพิ่มขึ้นสามสัปดาห์ติดกัน (Reuters)
ราคาทองร่วงกว่า 1% วันศุกร์ หักหัวหลังจากบวกไปสี่วันติดตามเสียงที่แตกของเจ้าหน้าที่ Fed สหรัฐ เกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะขึ้นดอกเบี้ย แต่รายสัปดาห์ก็ยังเป็นสัปดาห์ที่สองที่ปรับบวก ราคาทองคำตลาดจรร่วง 1.5% ปิดที่ 1,337.37 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำรายสัปดาห์บวกไปราว 0.6% (Reuters)
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun, CFA, FRM (No.49234) Tel: 02 680 5094