- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 22 August 2016 16:55
- Hits: 752
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ปรับลงในกรอบจำกัด
KGI คาด SET วันจันทร์แกว่งตัวลง แต่ไม่แรง ตลาดการเงินมีความกังวลเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเกี่ยวกับดอกเบี้ยเฟด (ศุกร์ที่แล้วปรับฐาน ตามคาด) ในสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่รายสำคัญของเฟด 2 คน (รองประธาน สแตนลีย์ ฟิชเชอร์ และผู้ว่าเฟดนิวยอร์ก วิลเลียม ดัดลีย์) ส่งสัญญาณว่าเฟดควรขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ ความเห็นดังกล่าวส่งผลให้ตลาดจะชะลอเพื่อรอดูการแถลงของนางเจเนต เยลเลน ในวันที่ 26 ส.ค. นี้ ล่าสุดสัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์มองโอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยใน ก.ย. และ ธ.ค. ที่ 12.0% และ 46.2% ตามลำดับ แรงกดดันต่อตลาดจึงยังไม่มาก ประเด็นดังกล่าวน่าจะทำให้กองทุนในประเทศปรับพอร์ตลดความเสี่ยงต่อไป ขณะที่โฟลว์ต่างชาติยังซื้อสุทธิแต่ชะลอลง ทำได้เพียงประคองดัชนีฯ ด้านปัจจัยในประเทศมีผลน้อย หลังจากงบไตรมาส 2/59 รายงานครบแล้ว ภาพรวม +11.6% YoY และ +4.4% QoQ
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร PLANB* / สะสมปันผล TMT, ASK
PLANB* (เป้า Consensus 6.9 บาท) 1) จากการเข้าพบผู้บริหาร เราประเมินไตรมาส 2/59 เป็นจุดต่ำสุดของปี โดยอัตรา Utilization rate ต่ำเพียง 59% ต่อเนื่องมา 2 ไตรมาสติด ขณะที่แนวโน้มการบริโภคในประเทศฟื้นตัว เป็นบวกต่อการเร่งงบโฆษณาในช่วงปลายปีนี้ และพอร์ตสื่อในมือตอนนี้เพิ่มขึ้นมา +25% YTD แล้ว 2) กระแสฟุตบอลไทยที่ดีต่อเนื่อง (ดูได้จากกระแสการจองตั๋วแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ที่ระบบการจองตั๋วของ FSMART ล่ม เพราะคนจองเยอะเกินไป) จะเป็นบวกต่อรายได้ของ PLANB* ในการเข้าตัวแทนบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยคาดไตรมาส 3/59 นี้จะเริ่มรับรู้กำไรบางส่วน คาดราว ±10 ล้านบาท ตามสัญญาตกค้างของตัวแทนเก่า และคาดปีหน้าจะมีกำไรเข้า PLANB ราว 100 – 150 ล้านบาท (กำไรที่จะเข้างบ PLANB ขึ้นอยู่กับการหารายได้สปอนเซอร์และการขายลิขสิทธิ์ให้สมาคมฯ) 3) ประเมินแนวรับ 6 บาท และ 5.9 บาท แนวต้านแรก 6.2 บาท หากผ่านได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6.7 บาท
TMT (เป้าพื้นฐาน 13.2 บาท ... อยู่ระหว่างพิจารณาปรับขึ้น) 1) คาดแนวโน้มราคาเหล็กจะขยับขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายไตรมาส 3/59 จาก i) รัฐบาลจีนมีนโยบายลดกำลังการผลิตเหล็กลง ส่งผลให้อุปทานเหล็กโลกมีแนวโน้มลดลง ii) ดีมานด์เหล็กในประเทศยังเติบโตจากการสต๊อกเหล็กเตรียมพร้อมการก่อสร้างโครงการลงทุนภาครัฐฯปลายปีนี้ 2) คาดปันผลปีนี้ >1.0 บาท/หุ้น (Dividend yield >7.9%) บนประมาณการฯปัจจุบันที่กำไรรวม 1H59 (ยังไม่รวม 2H59) คิดเป็น >90% แล้ว ... อยู่ระหว่างพิจารณาปรับประมาณการขึ้น 3) ประเมินแนวรับ 12.5 บาท แนวต้านแรก 13 บาท และถัดไปที่ 13.6 บาท (กรอบ Dividend yield band ในอดีต เคยต่ำสุดที่ 4.8% ซึ่งถ้าคิดกลับเป็นราคาเป้าหมายจะได้ 20.8 บาท อิงประมาณการฯปันผล 1 บาท/หุ้น)
ASK (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) 1) คาดปันผล 1.53 บาท/หุ้น (Dividend yield 6.7%) 2) คาดกำไรทำนิวไฮต่อเนื่องอีก 2 ไตรมาสติดเป็นอย่างน้อยใน 2H59 ทั้งจากสินเชื่อรถบรรทุกที่เติบโต (การลงทุนภาครัฐฯ) และต้นทุนดอกเบี้ยที่ลดลงจากการ Roll-over หนี้ที่ครบกำหนดชำระราว 7.3 พันล้านบาท ใน 2H59 (คาดต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายลดลงทันที 50 ล้านบาท คิดเป็น EPS 0.14 บาท) 3) ประเมินแนวรับเทรนไลน์ที่ 22.8 บาท และ 22.5 บาท แนวต้าน 24 บาท และถัดไปที่ ±27 บาท
หุ้นในกระแส
วันนี้เปิดซองประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ 36MW ปลดล๊อกการประมูลโรงไฟฟ้าอื่นๆที่ขนาดใหญ่กว่า
1) TPCH (เป้า Consensus 22.8 บาท) แนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินเป็น 2 สถานการณ์คือ i) ชนะการประมูล แนะนำ “เก็งกำไรตาม” แนวรับ 18.3 บาท แนวต้าน 19.8, 20.0 บาท และ ii) หากแพ้การประมูลฯ แนะนำ “ซื้อแนวรับ” 17.9, 17.6 บาท คาดมีการประกาศงานเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากการประมูล >10MW ขณะที่ Consensus ไม่ได้รวมการประมูลไว้ในประมาณการฯ
2) ECF (ยังไม่มีเป้า Consensus) หุ้น Dark Horse บ.ร่วมทุนระหว่าง ECF+FPI และโรงไม้ท้องถิ่น ผ่านคุณสมบัติการประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวล 2 แห่ง รวม 20MW สำหรับนักลงทุนที่เข้าเก็งกำไรสั้น ตามที่เราแนะนำวันศุกร์ วันนี้กำหนดจุด Stop loss ทันทีถ้าหลุดแนวรับ 3.62 บาท แต่ถ้าผลการเปิดซองชนะการประมูล แนะนำ “เก็งกำไรตาม” แนวต้าน 3.9 บาท และ 4.0 บาท
3) IFEC* (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) ประเมินไตรมาส 3/59 บันทึกกำไรพิเศษอีกราว ±500 ล้านบาท หลังนำ รร ดาราเทวี ออกจากแผนฟื้นฟูฯในปลายเดือน ส.ค.นี้ (PE จะลดลงเป็น ±15 เท่า จากตอนนี้ 19 เท่า) และคาดปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในต่างประเทศที่ COD แล้ว ภายในไตรมาส 3/59 ... Downside จำกัด ประเมิน Replacement cost เฉพาะที่ COD แล้ว ไม่ต่ำกว่า 6.1 บาท
หุ้นมีข่าว
(-) นายกฯ มองการเริ่มต้นของรถไฟฟ้าสายสีม่วงต่ำกว่าคาด (เดอะ เนชั่น) ในมุมมองของเราไม่ได้รู้สึกแปลกประหลาดใจกับเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเราคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยของสายสีม่วงเพียง 30,000 รายต่อวันในช่วงเริ่มต้นให้บริการ เนื่องจากยังขาดสถานีเชื่อมต่อที่เตาปูน (แต่ตลาดคาดการณ์ไว้สูงถึง 60,000-70,000 ราย ขณะที่ผู้ใช้บริการจริงประมาณ 20,000 ราย หลังเริ่มให้บริการวันที่ 6 สิงหาคม 2559) ส่วนในอนาคต เราคาดว่าจำนวนผู้ใช้บริการจะเพิ่มขึ้นจากการมีสถานีเชื่อมต่อและการเรียนรู้เส้นทางที่ดีขึ้นของผู้ใช้บริการ ดังนั้น เราเห็นว่า ยังไม่สามารถสรุปความชัดเจนได้มากนักในระยะแรก สำหรับ BEM* ซึ่งเป็นผุ้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง เรายังแนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 7.48 บาท
(+) 6 บิ๊กเชน รร.ไทย-เทศชิงดำ 'บัดเจ็ตโฮเต็ล' ในปั๊ม PTT* (ฐานเศรษฐกิจ) 6 บิ๊กธุรกิจโรงแรมดังไทย-เทศ ตบเท้าชิงดำบัดเจ็ต โฮเต็ล ในปั๊มน้ำมันปตท. ไล่ตั้งแต่ เซ็นทรัล-ดิ เอราวัณ กรุ๊ป-ซี.พี.แลนด์-บีทู-ดุสิต และซุปเปอร์ 8 หลังล่าสุดกลุ่มทวิน ทาวเวอร์ ถอนตัว เผยแต่ละรายโชว์ศักยภาพเก๋าเต็มที่ หวังเป็นพันธมิตรธุรกิจกับยักษ์ใหญ่ สิ้นปีนี้คัดเหลือรายเดียว โดยจะประเดิม 5 แห่งทำเลทองก่อน ระบุสร้างไม่เกิน 79 ห้อง ขายคืนละ 500-700 บาท ด้านปตท.แจงรุกขยายรายได้นอนออยล์
(+) NYT คลังสินค้ากระจายรายได้ลดเสี่ยงรถยนต์ (โพสต์ทูเดย์) NYT รุกเพิ่มรายได้ประจำจากธุรกิจคลังสินค้า แนวโน้มผลงาน ครึ่งปีหลังจะดีขึ้นจากภาพรวมส่งออกรถยนต์โต นายเทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นามยง เทอร์มินัล (NYT) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาพื้นที่ขนาด 80 ไร่ ซึ่งอยู่ใกล้กับท่าเทียบเรือ A5 ของบริษัทที่เพิ่งซื้อที่ดินมา เพื่อพัฒนาเป็นคลังสินค้าเพื่อให้ลูกค้าที่มาเช่าท่าเรือไว้เก็บสินค้า หากพัฒนาแล้วเสร็จจะทำให้บริษัทมีพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 1.2 แสนตารางเมตร (ตร.ม.) ซึ่งจะทำให้บริษัทมีพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าทั้งหมดประมาณ 2.7 แสน ตร.ม.
(+) MILL รายได้ปีนี้ทะลุ1.5หมื่นล. ยอดขายเกิน 1 ล้านต้น-โรงงานพม่าบุ๊ค (Q3 ข่าวหุ้น) “มิลล์คอน” ลั่นรายได้ปีนี้ทะลุ 1.5 หมื่นล้านบาท คาดยอดขายเหล็กเกิน 1 ล้านตัน รับอานิสงส์โครงการก่อสร้างภาครัฐทยอยออกมา ขณะที่ไตรมาส 3/59 โรงงานผลิตเหล็กรูปพรรณที่เมียนมาเริ่มผลิตและบันทึกรายได้เข้ามาหนุน
(+) CRANE รับบริหารท่าเรือตรัง จ่อบุ๊ครายได้ 30-50 ล้าน ลั่นปีนี้ขาดทุนลด (ข่าวหุ้น) “CRANE” เผยเซ็นรับงานบริหารท่าเรือ จ.ตรัง พร้อมให้บริการรถเครน-โลจิสติกส์ เตรียมบุ๊ครายได้ปีนี้ 30-50 ล้านบาท ลั่นงบปี 59 ขาดทุนลดลง รับอานิสงส์จากประมูลโครงการภาครัฐ ดันยอดขายเครื่องจักรเพิ่ม
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
SCB* (เป้าพื้นฐาน 190 บาท) ประเมินแนวรับ 155 บาท หากต่ำกว่าแนะนำ “Short against” ลงไปรอรับที่บริเวณ ±150 บาท ... คาดเป็นหุ้นแบงก์ที่ฟื้นตัวเร็วๆในสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว
TWZ (เป้าพื้นฐาน 0.49 บาท) สร้างฐานบริเวณ 0.34 – 0.35 บาทได้ คาดจะกลับไปสู่กรอบราคา 0.36 – 0.40 บาทได้ ... โดยประเมิน Valuation ไม่แพงด้วย PBV 0.95 เท่า และ PE ปีนี้ที่ 17 เท่า (บนประมาณการกำไรปัจจุบัน ที่มีโอกาสปรับขึ้นอีก หลังกำไร 1H59 คิดเป็น 80% ของประมาณการฯทั้งปี)
TASCO* (เป้าพื้นฐาน 38.85 บาท) แนะนำ “สะสม” แนวรับ 25.25 บาท ... โดยประเมิน Downside จำกัด + เป็นหุ้นใน SET100 ที่ยัง Laggard ตลาดฯ และคาดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว อย่างไรก็ดีหากราคาหุ้นหลุดแนวรับสำคัญ 25.25 บาท แนะนำ “ขายล๊อกกำไร” สำหรับนักลงทุนที่ซื้อตามที่เราแนะนำก่อนหน้า วันที่ 6 มิ.ย.
CPF* (เป้าพื้นฐาน 33 บาท) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุด Trailing stop หากต่ำกว่า 31.75 บาท ... ราคาไก่ ปรับขึ้นแรง
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
BJCHI* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 7.75 บาท มุมมองจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้อยู่ในเชิงบวกเล็กน้อย นโยบาย low cost country sourcing (LCCs) ในธุรกิจน้ำมันและก๊าซ คาดจะส่งผลดีกับ BJCHI นอกจากนี้อุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่ฟื้นตัวขึ้น ยังช่วยให้ BJCHI มีโอกาสสูงที่จะได้งานมูลค่า 1 หมื่นล้านบาทจากที่เข้าประมูลทั้งสิ้น 2 หมื่นล้านบาทในปีนี้ อย่างไรก็ดีกำไรในปี 2559 จะลดลงจาก GPM ของงาน EPC ที่ต่ำกว่า และการที่โครงการใหม่ๆกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านในช่วง 1H59 แต่ทิศทางของกำไรจะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งในปีหน้า อีกทั้งอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงถึง 5.0-6.0% ต่อปี
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- กรอบราคา 1547 - 1537 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1547 จุดนั้น อาจสะสมแรงผลักราคาให้ปรับขึ้นต่อเนื่อง แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่ารับ 1537 จุดนั้น อาจสะสมแรงกดทางลงให้ปรับลดลงต่อเนื่อง
แนวรับวันนี้: 1537/1522 แนวต้านวันนี้: 1547/1554
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]