- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 25 July 2014 17:51
- Hits: 2354
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“ซื้อ/ถือเหนือ 1530”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ภาพตลาดวันก่อน : ตลาดแกว่งตัวในกรอบแคบ เมื่อวานนี้ SET Index แกว่งในกรอบ 1538-1546 จุด และปิดตลาดด้วยค่าบวกเล็กน้อย 2.36 จุดที่ 1543.92 ทั้งนี้นักลงทุนรอข่าวใหม่เข้ามาหนุน เช่น Preview หรือรายงานผลประกอบการ 2Q57, ข่าว M&A, การอนุมัติโครงการลงทุนใหม่ๆ ของภาคเอกชนและของรัฐบาล, ความคืบหน้าตามโรดแมปของคสช., ตัวเลขเศรษฐกิจประเทศชั้นนำ ฯลฯ เป็นต้น นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นซื้อสุทธิ 1.2พันล้านบาท สถาบันในประเทศและพอร์ตบล.ก็ซื้อสุทธิด้วยเช่นกัน ด้านรายย่อยขายสุทธิ 1.9 พันล้านบาท
ปัจจัยและกลยุทธ์ : การโยกกลุ่มซื้อขาย + การเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กยังหนุนตลาด โรดแมปที่ชัดเจนของคสช.ในเรื่องการทำรัฐธรรมนูญฉบับถาวรและการปฏิรูปช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน รวมทั้งตลาดยังให้น้ำหนักกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำไรบจ.ในช่วง 2H57 และปี58 อยู่มาก ดังนั้นทิศทางตลาดหุ้นไทยจึงยังอยู่ในภาพ Sideway up ปัจจัยจับตาสัปดาห์หน้า คือ การประชุม FOMC ในวันที่ 29-30 ก.ค.57 ซึ่งตลาดจะดูว่าคณะกรรมการฯ จะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอย่างไร อย่างไรก็ตาม การที่ตัวเลขภาคที่พักอาศัยเดือนมิ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. และอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ชะลอตัวจากช่วงก่อนหน้า ทำให้แรงกดดันเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วผ่อนคลายลงกลยุทธ์ทางเทคนิค : ซื้อใหม่เน้นซื้อตามค่าบวก ค่าลบหรือต่ำกว่า 1530 จุดดูไม่ดี แนวเด้ง 1500+/-, 1480 จุด ส่วนการรีบาวด์มีแนวต้าน 1550-1560จุด หุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อลงทุนวันนี้เป็น GFPT
Fundamental Pick
GFPT แนะนำซื้อราคาปิด 14.50 บาท เป้าหมาย 16.40 บาท
* คาดกำไรสุทธิ 2Q57 เติบโต 46%YoY และ 4%QoQ เป็น 440 ล้านบาท โดยเป็นผลจากปริมาณส่งออกไก่สดแช่แข็งไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น และยอดขายอาหารปลาสูงขึ้น ทำให้รายได้รวมเติบโต 10%YoY ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอ่อนลงเล็กน้อยเป็น 14.3% ตามการขยับขึ้นของราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ แนวโน้มกำไร 3Q57 ยังแข็งแกร่ง แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์จะเพิ่มขึ้นและราคาขายไก่ในประเทศที่อ่อนลงตามอุปทานที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยฤดูกาลทำให้มาร์จิ้นอ่อนลง แต่ปริมาณการส่งออกที่สูงขึ้น เพราะเป็น High season ของการส่งออกเข้ามาช่วยชดเชยคาดการณ์อัตราการเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปีในระยะยาว โดยเป็นผลจากการขยายกำลังการผลิตของฟาร์ม 10-15% ต่อปี เพื่อรองรับการเติบโตของอุปสงค์ในประเทศ และลูกค้าส่งออกหลักในประเทศญี่ปุ่น (โดยส่วนหนึ่งผ่านบริษัทร่วม GFN – ปี 58 จะซื้อไก่สดจาก GFPT เพิ่มเป็น 1.3-1.4 แสนตัวต่อวัน จาก 1.2 แสนตัวต่อวันในปี 57) แนะนำซื้อ โดย DBS ให้ราคาพื้นฐาน 16.40บาท อิงกับ P/E ปี 57 ที่ 12.5 เท่า ทั้งนี้ประมาณการของเรามี Positive Upside จากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับขึ้นน้อยกว่าคาด
ปัจจัยต่างประเทศและโภคภัณฑ์
-/+ สหรัฐ : ยอดขายบ้านใหม่มิ.ย.ลดลงมากกว่าคาด & PMI ภาคการผลิตก.ค.ลดลงMoM แต่ยังสูงกว่า 50 รวมทั้งภาคแรงงานยังฟื้นตัวดี
* กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่ายอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย.ร่วงลง 8.1% จากเดือนพ.ค.แตะที่ 406,000 หน่วย ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 475,0000หน่วย
* มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐ ลดลงลงแตะ56.3 ในเดือนก.ค. จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 57.3 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 49 เดือน
* กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 ก.ค.57 ว่าลดลง 19,000 ราย สู่ระดับ 284,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปีครึ่งและบ่งชี้ถึงการปรับตัวดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน
• สหรัฐ : จับตาผลประชุมเฟด 29-30 ก.ค.57
* ปัจจัยที่จับตาในสัปดาห์หน้า คือ ผลการประชุมเฟดวันที่ 29-30 ก.ค.57 ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (Fed fund rate) ไว้ที่ 0-0.25% และทยอยลด QE3 ต่อ (ล่าสุดอยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านUS$/เดือน) แล้วไปสิ้นสุดโครงการในการประชุมเดือนต.ค.57 ส่วนระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นต้องดูถ้อยแถลงว่าคณะกรรมการ FOMC มีความเห็นต่อทิศทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอย่างไร อย่างไรก็ตาม การที่ตัวเลขภาคที่พักอาศัยเดือนมิ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. และอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ชะลอตัวจากช่วงก่อนหน้า ทำให้แรงกดดันเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วผ่อนคลายลง
+ จีน : PMI ภาคการผลิตเดือนก.ค.57 สูงสุดในรอบ 18 เดือน
* เอชเอสบีซี โฮลดิงส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 52.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน จาก 50.7 ในเดือนมิ.ย.
- IMF ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกปีนี้เป็น 3.4% (เดิม 3.7%) โดยหลักมาจากเศรษฐกิจสหรัฐและจีนโตน้อยกว่าคาด
* กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2557 ลงสู่ระดับ 3.4% จากตัวเลขคาดการณ์เมื่อเดือนเม.ย.ที่ระดับ 3.7% อย่างไรก็ดีอัตราการขยายตัวจะเพิ่มขึ้นไปแตะที่ระดับ 4% ในปี 2558 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับตัวเลขคาดการณ์ในครั้งก่อน ทั้งนี้ IMF ระบุว่ามีเพียงบางปัจจัยที่นำไปสู่การปรับตัวลดลงเพียงชั่วคราวโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่ร่ำรวย เช่น สหรัฐ, จีน กำลังเผชิญกับความเสี่ยงจากเศรษฐกิจชะลอตัวหากไม่มีการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการปฏิรูปในเชิงลึกมากขึ้นเช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการแก้กฎหมายเกี่ยวกับภาษี
* IMF มองงว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงจากปัญหาการเมืองในตะวันออกกลางและยูเครนที่อาจจะฉุดรั้งอัตราการขยายตัวในปี 57-58 ลงได้อีกระลอก
• ตลาดหุ้นสหรัฐทรงตัว
* ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,083.80 จุด ลดลง 2.83 จุด หรือ -0.02% ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 4,472.11 จุด ลดลง 1.59 จุด หรือ -0.04% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,987.98 จุดเพิ่มขึ้น 0.97 จุด, +0.05% การซื้อขายซบเซา เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอกว่าคาด รวมทั้งแคทเทอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการก่อสร้างรายใหญ่ระดับโลก ร่วงแรง 3.08% หลังผลประกอบการแย่กว่าการคาดการณ์ของตลาด
- สัญญาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง แต่ยังเหนือ100 US$/bbl
* สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 1.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 102.07 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 96 เซนต์ ปิดที่107.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้ข้อมูลเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงของสหรัฐบดบังการปรับตัวดีขึ้นของPMI ภาคการผลิตในเดือนก.ค.ของจีน
- สัญญาทองคำ COMEX ร่วงแรง
* สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 13.9ดอลลาร์ หรือ 1.07% ปิดที่ 1,290.8 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์กดดันสัญญาทองคำ
ปัจจัยในประเทศและหลักทรัพย์
+ บอร์ดกสทช.มีมติแจกคูปองดิจิตอล 690บาท/ครัวเรือน ... แนะนำซื้อ SAMART
* บอร์ดกสทช.เคาะราคาคูปองทีวีดิจิตอล 690 บาท/ครัวเรือน ใช้แลกซื้อกล่อง Set top boxและ TV ดิจิตอล ครอบคลุม 22.9 ล้านครัวเรือน คาดสิ้นปี 57 แจกได้ 11 ล้านครัวเรือน หรือราว50% ของทั้งหมด
* ความเห็น Retail Research DBS : บริษัทที่ได้ประโยชน์ คือ SAMART, IRCP, AJD,SVOA, IT เป็นต้น ทั้งนี้แม้ว่าราคาคูปองจะลดลงจากช่วงก่อนหน้านี้ที่ประมาณ 1 พันบาท/ครัวเรือน แต่เนื่องจากครัวเรือนส่วนใหญ่จะมีความต้องการใช้ Set top box มากกว่า 1 กล่อง/ครัวเรือน ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลพบว่าความต้องการอยู่ที่ประมาณ 1.8-2.0 กล่อง/ครัวเรือนทำให้ยอดขาย Set top box จะยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งหุ้น Top pick ในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ คือ SAMART (แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 28 บาท) ทั้งนี้แม้ว่ารายได้และกำไรจาก TVDigital จะไม่ได้เป็นสัดส่วนที่สูง แต่ก็มาช่วยเสริม ขณะที่รายได้หลัก คือ ส่วนแบ่งกำไรจาก SIMยังเติบโตแข็งแกร่ง เพราะความต้องการซื้อสมาร์ทโฟนที่มากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามพฤติกรรมผู้บริโภค ส่วนผลประกอบการของ SAMTEL แม้ไม่ได้ขยายตัวสูงแต่ก็ไปได้ดี สำหรับธุรกิจของSAMART เองก็เติบโตประมาณ 5-10% ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่มีเสถียรภาพ
• การเมือง : Timeline ในการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ (ประมาณ 11 เดือน) ... ความชัดเจนทำให้ความเชื่อมั่นดีขึ้น
* นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ได้ระบุว่าตารางเวลาทำงานขององค์กรต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 จะเริ่มนับหนึ่งจากการเรียกประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นัดแรก ซึ่งคาดว่าจะเป็นประมาณต้นต.ค.57 แล้วหลังจากนั้นก็ตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน แล้ว โดยการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรจะไปควบคู่กับการทำงานของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปร.) โยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 11เดือนจะแล้วเสร็จและได้รัฐธรรมนูญฉบับถาวร แล้วจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป
* ความเห็น Retail Research DBS : ความชัดเจนของแผนและความคืบหน้าเป็นลำดับของการปฎิรูปทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยดีขึ้น แม้ว่าจะมีบางประเด็นที่เป็นข้อห่วงใยแต่ก็ยังไม่ได้มีน้ำหนักในช่วงสั้น โดยน้ำหนักของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแบบ V-Shape ใน 2H57 และการเติบโตในอัตราที่เร่งตัวขึ้นในปี 58 รวมถึงการขยายตัวของกำไรบจ.ที่ดีขึ้นในปีหน้ามีมากกว่า ขณะเดียวกันหุ้นขนาดกลาง-เล็กในตลาดหุ้นไทยมีจำนวนมากขึ้น ทำให้นักลงทุนมีตัวเลือกในการลงทุนเพิ่มมากเมื่อเทียบกับ 4-5 ปีก่อน ดังนั้นหุ้นขนาดกลาง-เล็กจึงมีส่วนช่วยผลักดันการปรับขึ้นของตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันได้ดีกว่าเมื่อหลายปีก่อน
- AOT : มีข่าวว่าอาจต้องลดค่าธรรมเนียมสนามบินให้ THAI ตามแผนปรับโครงสร้าง
- มีกระแสข่าวว่าภายใต้แผนการปรับโครงสร้าง THAI จะมีเรื่องการลดค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ซึ่งในส่วนนั้นมีเรื่องค่าธรรมเนียมสนามบินที่ต้องจ่ายให้กับ AOT ด้วย โดยอาจจะมีการขอลดอัตราค่าธรรมเนียมในส่วนนี้กับ AOT ลง อย่างไรก็ตาม เราจะสอบถามไปยัง AOT เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าจะมีการลดจริงหรือไม่ และถ้าลดจะเป็นอัตราเท่าใด
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]