- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 19 August 2016 17:27
- Hits: 5026
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Small is still beautiful
วันนี้คาด ดัชนีฯแกว่งขึ้นในกรอบ 1,542-1,553 จุด คาดหุ้นกลาง-เล็ก สลับขึ้นเล่น แทน หุ้นใหญ่ที่ขึ้นจากแรงซื้อคืนเมื่อวานนี้
สัปดาห์นี้ คาดย่อสลับเด้ง แนวต้าน 1,575 จุด แนวรับ 1,536/1,528 จุด แนะนำเลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัว / สะสมหุ้นกำไรโตดีในครึ่งปีหลัง-แต่ราคาหุ้นยัง Laggard ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้า คาดดัชนีมีลุ้นขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,575 จุด
แนวโน้มรายเดือน หลังขึ้นทะลุแนวต้าน 1,550 จุด จากการรายงานงบที่ดีกว่าคาด และประกาศปันผลระหว่างกาลที่สูงกว่าคาด (มองสิ้นปีนี้มีแนวโน้มจะขึ้นได้ถึง 1,600 จุด หรือทำ New high)
คงคาดแรงซื้อต่างชาติในครึ่งหลังเดือน สค.จะชะลอลงจาก การรอดูท่าที FED ทั้ง FOMC Minutes และงาน Economic symposium ที่ Jackson Hole 25-27 สค.นี้ รวมถึง BOJ ชะลอเพิ่ม QE เพื่อรอประเมินผล QE ที่ออกไปก่อนหน้านี้ บวกกับ Sell on fact หลังงบออก คาดว่าจะมีผลทำให้ดัชนีพักตัวสั้นๆ 3-5% (ในแต่ละรอบ) กลยุทธ์แนะนำ สะสมหุ้นที่ กำไรผ่านจุดต่ำสุดใน 2Q16 และ กำไรจะเร่งตัวขึ้นใน 2H16
หุ้นแนะนำวันนี้ TPCH วันที่ 22 สค. กกพ. จะเปิดซองฯ โรงไฟฟ้า ชีวมวล 36MW และ ประกาศรายชือผู้ได้รับคัดเลือกในวันที่ 25 สค. (บจ.ที่มีลุ้นได้แก่ RATCH BCP ECF-FPI TPCH) เราคาดว่า TPCH มีโอกาสสูงคว้างานชีวมวล 36MW เฟสนี้ ส่วนโรงไฟฟ้า SPP ปัตตานี้คาดว่าจะมีความคืบหน้าได้สัญญาขายไฟ (PPA) ภายในสัปดาห์หน้า
Events play: TMT, JMART group (SINGER J JMT) จัดประชุมนักวิเคราะห์/Opportunity day วันนี้
Morgan Stanley ออกรายงาน จีนได้ปรับนโยบายการผลิตถ่านหิน โดยอนุญาตให้ผลิตถ่านหินเพิ่มขึ้นได้ราว 2-3% เพราะมองว่าราคาถ่านหินปัจจุบันเป็นราคาที่ทั้งผู้ซื้อ (โรงไฟฟ้าถ่านหิน) และผู้ขาย (เหมืองถ่านหิน) มีกำไรอย่างเหมาะสม คาดจะส่งผลให้ราคาถ่านหินมี upside จำกัด และคาดเป็น sentiment เชิงลบต่อหุ้นถ่านหิน
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) กลยุทธ์ภาพรวมตลาด เราปรับเป้าหมายดัชนี SET สิ้นปี 2016 เป็น 1523 (PE 15.7 เท่า) และ เป้าหมายสิ้นปี 2017 ที่ 1670 โดยที่กำไรสุทธิ 2Q16 ของบริษัทที่อยู่ใน coverage ของเรา รายงานการเติบโต 11% YoY และ 11% QoQ ในขณะที่กำไรหลักก็เติบโตเช่นกัน 7% YoY และ 15% QoQ มากกว่าทีเราคาด 7% สำหรับการประมาณการกำไรสุทธิใน 3Q16 โดยรวมคาดเติบโต 418% YoY ในขณะที่คาดกำไรหลักเติบโต 8% YoY สาเหตุหลักที่กำไรปรับตัวสูงขึ้นโดยรวมมาจากฐานที่ต่ำใน 3Q15 ซึ่งกลุ่มพลังงานมีการบันทึกขาดทุน stock น้ำมัน และกลุ่มธนาคารมีการตั้งสำหรับจาก NPL ที่ปรับตัวสูงขึ้น กลุ่มที่คาดจะเติบโตได้ดีใน 3Q16 คือ กลุ่มอาหาร, Consumer finance, กลุ่มท่องเที่ยวและขนส่งและกลุ่มค้าปลีก เรามีการปรับประมาณการ EPS ปี 2016 ของ SET ขึ้นเป็น 97 บาท (ปรับเพิ่มจาก 93 บาท และสูงกว่าที่ตลาดคาด 3%)
(+) CK เราเชื่อว่าภาพกำไรของบริษัทมีความชัดเจนมากที่สุดในกลุ่ม คาด Backlog จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าสองเท่า และทำทำสถิติสูงสุดในช่วงครึ่งปีหลัง 2016 ยิ่งไปกว่านั้นปี 2017 จะยิ่งเป็นปีที่ดีไปกว่าปี 2016 จากโครงการที่รอประมูลหลายโครงการ ในขณะที่อตรากำไรขั้นต้นก็มองว่าจะอยู่ในระดับที่ดีเนื่องจากการแข่งขันที่น้อย เพราะมีโครงการเปิดประมูลหลายงาน แต่ละรายคงจะเลือกงานที่ตัวเองถนัด ทำให้ช่วยลดอุณหภูมิของการแข่งขันที่รุนแรงลง นอกจากนั้นยังมีปัจจัยหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจาก BEM ที่คาดว่าจะออกมาอย่างแข็งแกร่ง ในมุมมองของเรา CK ไม่เคยดีเท่านี้มาก่อน เราจึงเชื่อว่าราคาหุ้นสมควรที่จะเทรดที่ระดับ PBV ที่สูงสุด เราจึงมีการปรับ PBV เป้าหมายขึ้นเป็น 2.8 เท่า (+2SD จากค่าเฉลี่ย) จาก 2.5 เท่า (+1.5 SD จากค่าเฉลี่ย) ราคาเป้าหมายของเราปรับขึ้นเป็น 36.50 บาท (จาก 32 บาท) ยังคงคำแนะนำ ซื้อ
(-) SAPPE เราปรับคำแนะนำลงเป็นเต็มมูลค่า (จากเดิม ถือ) เพราะเรามองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาราว 25% จากความคาดหวังดีล M&A All CoCo จะช่วยหนุนกำไร แต่จากการประชุมกับผุ้บริหารเมื่อวานนี้ เราคาดกว่าจะเห็นกำไรจาก All CoCo อย่างมีนัยยะจะต้องใช้เวลาอีกราว 1-2 ปี นอกจากนี้คาดปัจจัยกดดันต่อราคาหุ้นในระยะ 6 เดือนข้างหน้ายังคงมีอยู่ เพราะกำไรมีแนวโน้มอ่อนแอต่อเนื่องในช่วง 6 เดือนข้างหน้า เพราะ low season และคาดจะเห็นอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนตัวลงเพราะ utilization rate ที่ลดลง
(+) PLANB ประกาศซื้อหุ้น 50% ในบริษัท Bright Sky Media Co., Ltd ซึ่งมีธุรกิจสื่อโฆษณาใน 22 สนามบิน ซึ่งได้รับสิทธิจาก AOT ราคาซื้อเทียบเป็น P/E ที่ราว 21 เท่า ซึ่งถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่ม เราคงคำแนะนำ ซื้อ และยังคงมองว่าในอนาคตบริษัทจะมีการซื้อกิจการเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้กำไรมากกว่าคาด
(+) PTT ประเด็นจากการประชุมนักวิเคราะห์ เรายังคงยืนยังมุมมองว่ากําไรของบริษัทจะกลับมาเป็นปกติ ราวปีละ 1 แสนล้านบาท ปัจจัยหนุนราคาหุ้นในช่วง 2H16 มาจาก 1) ต้นทุนแก๊สที่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง 2) กําไรจาก โรงปิโตรฯ u-rate ของ PTTGC ที่ปรับเพิ่มขึ้น (1H16 u-rate ตํ่าเพราะมี shut down) คงคําแนะ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 355 บาท ปี 2016 (เรามีโอกาสปรับขึ้นอีก จากการ roll over ไป ปี2017)
หุ้นมีประเด็น
(+) TPCH กองทุนฯ ขอซื้อหุ้นบิ๊กล็อตจาก ผถห.รายใหญ่อันดับสอง 1.04% / เป็นรายการที่เกิดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ณ.ราคา 18.50 บาท (ที่มา ข่าวหุ้น / ตลท.)
(+) LOXLEY ข่าว คู่แข่งสำคัญโครงการรถเมล์ไฟฟ้า (ที่จะประมูลเดือน กย.-ตค.) ถอนตัว
นายจาง ควายทอง ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน บริษัท ควายทอง นิว เอเนอร์จี จำกัด เปิดเผยว่า ควายทอง กรุ๊ปได้ชะลอแผนลงทุนจำนวน 5,000 ล้านบาท ซึ่งเตรียมไว้สำหรับนำเข้าและประกอบรถบัสพลังงานไฟฟ้า ออกไปก่อน เพื่อรอความชัดเจนจากรัฐบาลโดยก่อนหน้านี้ได้หารือร่วมกับองค์การขนส่งมวลชน (ขสมก.) เพื่อเป็นผู้จัดหาและให้บริการรถเมล์ไฟฟ้า ไปในระดับหนึ่งแล้ว (ที่มา เดลินิวส์ 18 สค.)
(+) KBS คาดงบ 3Q16 พลิกมีกำไรจากขาดทุน 2Q16 ที่ 147 ล้านบาท อานิสงส์ราคาน้ำตาลโลกพุ่ง (ที่มา ข่าวหุ้น) / เราเห็นว่า BRR น่าสนใจซื้อมากสุดในกลุ่มน้ำตาล เพราะขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่นขาดทุน แต่ BRR มีกำไร 42 ล้านบาท และงวด 6 เดือน กำไร 165 ล้านบาท ซึ่งดีกว่า Consensus คาด โดยกำไร 6 เดือนคิดเป็น 57% จากที่ Consensus ทำ (ที่มา BLS Research, SAA Consensus)
(-) SAPPE เรื่อง Partner ในจีน ที่เราเคยแจ้งไปก่อนหน้า ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ราคาหุ้นขึ้นมา แรงรับข่าวนี้บวกกับงบดี กลยุทธ์ แนะขายล็อกกำไรเพราะ Fully value อิงราคาเป้าหมาย ของ เรา และ Consensus
(+) MACO ข่าว กองทุนต่างชาติ เทมเพิลตัน ได้เข้ามาลงทุนถือหุ้น MACO แล้ว 4% และกองทุน Ashmore เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนในสัดส่วน 10% เพราะเชื่อมั่นว่า MACO กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น (ที่มา ASPEN / หุ้นอินไซด์)
(+) หุ้นรอขึ้น XD: 19 สค. [email protected] บ., [email protected] บ., [email protected] บ., [email protected] บ., 23 สค. [email protected] บ., [email protected] บ. (ที่มา ตลท.)
(+) INTUCH แจง “สิงเทล” เข้าซื้อหุ้น 21% จากแอสเพน โฮลดิ้ง ราคาหุ้นละ 60.83 บ. มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท คาดจบดีลภายใน ธค.59 (ที่มา ข่าวหุ้น)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) โบรกฝรั่งเกิน 50% ยังคิดว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธค.นี้ หลังฟังรายงานการประชุมเฟดเมื่อ 17 สค. แต่เราคาดว่าไม่เป็นลบต่อตลาดหุ้นไทย เพราะอย่างน้อยก็ไม่ได้เปลี่ยนมุมมองว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าเดิม ตรงข้ามถ้าตัวเลข US Core PCE ปลายเดือนนี้ออกมาต่ำกว่า 1.5% y-y ด้าน MS ฟันธง Consensus จะเริ่มปรับลดมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธค.นี้ และเราคาดจะส่งผลให้ เกิดแรงซื้อคืนตลาดหุ้นเกิดใหม่เพิ่มขึ้นในช่วง กลางเดือน กย.-พย. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กองต่างชาติจะเริ่มเก็บหุ้นสำหรับการลงทุนในปีหน้า
(*) รองนายก สมคิด เผยจะดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่ามากเกินไป หลังมีเงินไหลเข้ามากช่วงนี้ (ที่มา ASPEN)
(*) ศุกร์ Indonesia 7D Reverse Repo rate คาด ลดดอกเบี้ยลงเหลือ 5% จาก 5.3% ไต้หวัน GDP 2Q16 คาดคงที่ 0.7% (ทีมา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
