- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 25 July 2014 16:32
- Hits: 1907
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : เคลื่อนไหวในกรอบเดิมคือ 1530-1550
เราคาดว่าตลาดไทยในวันนี้จะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นเดียวกับเมื่อวาน โดยมีปัจจัยหนุนคือ ตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐที่ออกมาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเก็งกำไรการประกาศงบไตรมาส 2 ของทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับข่าวเรื่องรัฐธรรมนูญชั่วคราวช่วยหนุน Sentiment การลงทุน แต่การที่ตลาดปรับขึ้นมาแรงเมื่อวาน ส่งผลให้อาจมีการขายทำกำไรชั่วคราวได้บ้าง
แนวรับ/แนวต้าน : 1530/1550
กลยุทธ์ : เล่นสั้น เน้นกลุ่มอสังหาฯ พลังงานทดแทน และขนส่ง
สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40%: พอร์ตหุ้น 60%
นักลงทุนระยะสั้น : SIM(4), WHA(39)
นักลงทุนระยะยาว : TTA(26), DEMCO(13)
จับข่าวมาเก็งกำไร
CPF : วานนี้ราคาหุ้น CPF ปรับตัวเพิ่มขึ้นในการซื้อขายภาคบ่าย หลังบริษัทประกาศขายหุ้น 23.75% ในบริษัท ซี.พี.โภคภัณฑ์ (CPP) หรือ 43 HK ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ให้กับบริษัท ITOCHU corporation ซึ่งเป็นบริษัทเทรดดิ้งรายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น เรามองว่าดีลนี้เป็นบวกต่อ CPF คงคำแนะนำ ซื้อ โดยเลื่อนไปใช้ราคาพื้นฐานปี 2558 ที่ 36.50 บาท (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
+ นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท. เตรียมจัดงาน “ไทยแลนด์ โฟกัส” ในวันที่ 27-28 ส.ค. นี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในสถานการณ์ของไทยให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างชาติ หลังรัฐธรรมนูญชั่วคราวมีผลบังคับใช้ และนำไปสู่การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ส่งผลให้ทิศทางการปฏิรูปประเทศไทยเริ่มชัดเจนมากขึ้น โดยเชื่อว่าจะมีนักลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 คน เข้าร่วมรับฟัง รวมทั้งมีแผนเดินหน้าโรดโชว์ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อดึงดูดนักลงทุน เพราะผลจากการโรดโชว์ที่ผ่านมา พบว่า นักลงทุนต่างประเทศยังสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้นไทย
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 1.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 102.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงอย่างหนักในเดือนมิ.ย. และดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐชะลอตัวลง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้สกัดปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ดัชนีภาคการผลิตของจีนขยายตัวแข็งแกร่ง
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,083.80 จุด ลดลง 2.83 จุด หรือ -0.02%
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) เพราะได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ รวมถึงยอดขายบ้านใหม่และดัชนีภาคการผลิต นอกจากนี้ รายงานผลประกอบการที่ผันผวนของบริษัทเอกชน รวมถึงแคทเทอร์พิลลาร์ ยังส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดซบเซาลงด้วย