- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 18 August 2016 16:37
- Hits: 2901
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'แดงต่อเนื่อง'
SET ปิดปรับตัวลดลง จากแรงซื้อของนักลงทุนบางกลุ่มที่ชะลอตัวเพื่อรอดูการรายงานผลการประชุม FOMC และแรงขายทำกำไรหลังการรายงานงบไตรมาส 2 สิ้นสุดลง SET index ปิดที่ 1,531.63 จุด ลดลง 5.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.0 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ราคาน้ำมันปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นหลัง EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ ลดความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
(+) การเมืองในประเทศเดินหน้า หลังการลงประชามติ โดยกกต.คาดว่า หากขั้นตอนการจัดทำกฎหมายลูกไม่มีปัญหาติดขัดใดๆ การเลือกตั้ง สส.สามารถมีขึ้นได้ใน วันที่ 10 ธ.ค. 60
(+) Fund Flow ต่างชาติ Net Buy วานก่อนมูลค่า 1.3 พันล้านบาท
(-) BOT แสดงความกังวลต่อภาพรวมค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นที่ค่อนข้างเร็ว ซึ่งเกิดจากเงินทุนไหลเข้าในตลาดทุน ว่าอาจกระทบต่อการขยายตัวของภาคการส่งออก และการขยายตัวของเศรษฐกิจ
(-) ความกังวลต่อภาพรวมการท่องเที่ยวหลังเกิดความไม่สงบใน 7 จังหวัด กระทบความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว
(+/-) FOMC เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 ก.ค. ชี้ว่า กรรมการFED มีความคิดเห็นที่แตกต่างเรื่องเวลาในการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยบางส่วนเห็นว่าควรรอให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ก่อน ขณะที่บางกลุ่มมองว่าควรปรับขึ้นดอกเบี้ยก่อน
(+/-) กกพ. ได้พิจารณาคงค่าเอฟทีงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.59 ให้รองรับแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าและราคาก๊าซธรรมชาติที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นในต้นปีหน้า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
แนวโน้มราคาน้ำมัน
ภาพรวมค่าเงินบาทที่ผันผวนมากขึ้น
แนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐ
กลยุทธ์การลงทุน "เน้นเทรดกรอบแคบ"
คาดหมายการเคลื่อนไหวในกรอบแคบของดัชนี จากภาพรวมที่ขาดปัจจัยที่โดดเด่น หลังการรายงานผลการประชุม FOMC เจ้าหน้าที่ FED ยังมีความเห็นที่หลากหลาย ต่อทิศทางดอกเบี้ย โดยความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ยังคงมีความเป็นไปได้อยู่ ด้านในประเทศความกังวลต่อผลกระทบจากการท่องเที่ยวยังคงมีอยู่ เน้นหุ้น Global Play ที่ไดี้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้น
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
PTTEP เก็งกำไร
คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของผลประกอบการในช่วง 2Q59 โดยในช่วง 2H59 จะได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่สูงกว่า 1H59
ตลาดน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวเข้าสู่สมดุลมากขึ้นหลังจากที่ผู้ผลิตราย ใหญ่หั่นงบลงทุน และผู้ผลิตต้นทุนสูงลดการผลิต
ปัจจุบัณซื้อขายอยู่ที่ระดับ PBV 0.85 เท่า ซึ่งต่ำกว่าระดับเฉลี่ย 5 ปีที่ซื้อขายที่ระดับ 1.7 เท่า
TMT เก็งกำไร
รายงานผลประกอบการ 1H59 น่าประทับใจมีกำไร 562 ล้านบาท มากกว่าผลประกอบการปี 58 ทั้งปี
การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ (รถไฟฟ้า) ช่วยกระตุ้นปริมาณการใช้เหล็กในประเทศ
จากผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ส่งผลให้ Dividend Yield ของปี 59 อยู่ในระดับสูงราว 9% (จ่ายปันผลปีละครั้ง)
ทีมวิเคราะห์