- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 17 August 2016 16:58
- Hits: 714
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับสำคัญ 1530 เป็นจังหวะซื้อ
SET Index: 1533.20 เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 1530 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญเดิมของ SET Index หลังจากทะลุผ่านขึ้นไปทดสอบแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 1560 จุด แต่เรายังคงคาดว่า แนวโน้มของ SET50 หรือหุ้นขนาดใหญ่ ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1020 จุด เมื่อคิดเป็นระดับของ SET Index จะได้เป้าหมายในการปรับตัวเพิ่มขึ้นไป 1600 จุด จึงเน้นการเข้าซื้อหุ้นใน SET50 ต่อเนื่อง
แนวต้าน : 1540 และ 1544
แนวรับ : 1533 และ 1530
CKP = 32.50 / 33.00, KBANK = 193 / 195, KTB = 18.80 / 19.00, AOT = 400 / 404, TRUE = 8.40 / 8.60
Sino-Thai Engineering & Construction (STEC TB; THB 24.30) - ซื้อ
แนวต้าน : 26.00 และ 26.50 / แนวต้านสำคัญ 28.50
แนวรับ : 24.30 และ 24.20
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคที่บริเวณแนวต้าน 26.00-26.50 แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก ทำให้การปรับตัวลดลงมีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้น โดยมีแนวรับสำคัญที่ 24.00-24.20 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 50
แนะนำซื้อ STEC โดยมีแนวรับที่ 24.30 และ 24.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 26.00 และ 26.50 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 24.00 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 23.00 เป็นจังหวะซื้อเพิ่ม
Tipco Foods (TIPCO TB; THB 16.50) - ซื้อ
แนวต้าน : 18.00 และ 18.50 / เป้าหมาย 20.00
แนวรับ : 16.50 และ 16.30
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงเข้าใกล้แนวรับสำคัญของเส้นค่าลี่ย 200 วันที่บริเวณ 16.00 แต่สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ในระยะสั้น ซึ่งเราคาดว่า โครงสร้างในระยะยาวน่าจะผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นไปได้ และมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 20.00
MACD ปรับตัวลดลงทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบระดับ 60 แนะนำซื้อ
TIPCO โดยมีแนวรับที่ 16.50 และ 16.30 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 18.00 และ 18.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 15.70 ลงไป
SET50 Index Futures
S50U16 ปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 978 ลงไป ซึ่งเรากำหนดให้เป็นจุด STOp LOSS สถานะ Long หลังจากทะลุผ่านแนวต้านที่ 980 ขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 990 เนื่องจากแนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 960-965 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น และมีแนวต้านที่ 980
แนวต้าน : 978 และ 980
แนวรับ : 970 และ 967
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ STOP LOSS สถานะ Long ใน S50U16 ออกไปก่อน หลังจากปรับตัวลดลงหลุดระดับ 978 ลงไป รอการฟื้นตัวกลับขึ้นมาเหนือระดับ 980
STOP LOSS สถานะ Long หลังจาก S50U16 ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 978 ลงไป
CKPU16
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานที่บริเวณ 3.00 แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างแรงไปทดสอบแนวต้านที่ 3.20-3.26 ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป้าหมาย 3.60
แนวต้าน : 3.18 และ 3.24
แนวรับ : 3.04 และ 3.00
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ที่แนวรับ 3.00-3.04 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.18 และ 3.24
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า CKPU16 ปรับตัวลดลงหลุด 2.94 ลงไป
IRPCU16
ปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญของเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวที่ 4.90 ลงไป หลังจากพยายามฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 5.05-5.10 แต่ไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบรับที่ 4.60-4.64 บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และมีแนวต้านที่ 4.90
แนวต้าน : 4.86 และ 4.90
แนวรับ : 4.70 และ 4.64
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน IRPCU16 ที่แนวต้าน 4.86-4.90 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 4.70 และ 4.60-4.64
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า IRPCU16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 4.94 กลับขึ้นไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ตัวแปรหลักคือ ราคาน้ำมัน
เมื่อผลการดำเนินงาน Q2/16 ทยอยประกาศ ดัชนี SET ก็ดีดตัวขึ้นมาเล่นใกล้ระดับ 1560+/- จุด จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ที่หวังว่าเศรษฐกิจไทยจะค่อยๆ ฟื้นตัวในครึ่งปีหลังจากมาตรการลงทุนของภาครัฐและการท่องเที่ยว โดยใน Q2/16 อัตราการขยายตัวของการลงทุนภาครัฐเพิ่มขึ้นถึง 10.4% ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ส่งผลให้ GDP Q2/16 ออกมาโตกว่าคาดที่ 3.5%(YoY) เทียบ Q1/16 ที่ 3.2% อย่างไรก็ตามหลังเกิดการระเบิดในแหล่งท่องเที่ยวภาคใต้ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ออกมาประเมินผลกระทบจำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้จะลดลง 1-2 แสนคนหรือคิดเป็นรายได้ที่ 50,000-100,000 ล้านบาท ส่วนทาง NESDB มองผลกระทบจะมีไม่มากแต่กลับเพิ่มประมาณการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้าประเทศปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 33.5 ล้านคนจากประมาณ 30 ล้านคนในปีที่ผ่านมา
ผลกระทบที่เกิดขึ้น คาดยังเป็นแค่ระยะสั้น เว้นแต่สาเหตุของการวางระเบิดจะมาจากผู้ก่อการร้ายระหว่างประเทศหรือจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ ดังนั้นผลของการวางระเบิดจะกระทบกับหุ้นที่โยงท่องเที่ยวในช่วงสั้น แต่หากไม่เป็นอย่างคาดและยังมีเหตุการณ์วางระเบิดเกิดขึ้นมาอีก คาดผลของเหตุการณ์จะกระทบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังและจะกดดัชนี SET ให้ลงลึก ส่วนปัจจัยที่จะหนุนให้ดัชนี SET ขึ้นไปต่อหลังจากนี้ ที่มองเห็นคือ จะต้องมีแรงหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งตอนนี้ราคาน้ำมันก็ค่อยๆ ขยับตัวสูงขึ้น โดยระดับราคาน้ำมันเบรนท์ที่จะหนุนแรงซื้อหุ้นพลังงานหลัก น่าจะต้องขึ้นเหนือ 50 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ เพราะระดับดัชนีกลุ่มหุ้นพลังงานหลักของไทยกำลังขึ้นไปเล่นที่เส้นค่า +1SD ที่ราคาน้ำมันเบรนท์ที่ประมาณ 45+/- ดอลลาร์/บาร์เรล เทียบ Fitted line ที่ประมาณ 7,200 จุด โดยตอนนี้ดัชนีกลุ่ม (PTT/PTTEP/TOP/PTTGC) อยู่ที่ใกล้ 8,000 จุด (รูปด้านซ้าย)
จากสถิติการ Short ใน 4 รอบล่าสุดตั้งแต่ปี 2015 ถึงวันที่ 9 ส.ค. รอบการ Short แล้วกลับมา Long (หรือลดการ Short) ของบรรดา Money manager และ Hedge fund จะกินเวลา 11 13 13 และปัจจุบันกินเวลาไปแล้ว 11 สัปดาห์ (รูปด้านขวา) ดังนั้น Hedge fund น่าจะเริ่มกลับมา Long อย่างช้าในต้นเดือนหน้า หากเป็นไปตามคาด ราคาน้ำมันจะค่อยๆ ขยับ แต่จะแรงหรือไม่ ยังต้องติดตามดูสถานการณ์กันต่อ
หากราคาน้ำมันเกิดวิ่งขึ้นเหนือ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลและยืน แรงซื้อหุ้นพลังงานหลักน่าจะกลับมาเพิ่มขึ้นและจะเป็นตัวดันให้ดัชนี SET ขึ้นไปอย่างรวดเร็ว นั่นก็หมายความว่า จะต้องเข้าซื้อหุ้นพลังงานหลักและขายหุ้นอื่นๆออก แต่หากราคาน้ำมันที่ขึ้นมาแล้วยังยืนที่ระดับ 45-50 ดอลลาร์/บาร์เรล เรามองว่าไม่น่าจะเป็นแรงหนุนหุ้นพลังงานมากนัก กลยุทธ์การลงทุนในระดับดัชนีหากปรับขึ้นเหนือ 1560 จุดและราคาน้ำมันขึ้นเหนือ 50+/- ดอลลาร์/บาร์เรล เราแนะนำ ให้ทยอยขายหุ้น แล้วกลับมาซื้อ หุ้นพลังงาน อย่าง PTT PTTEP TOP IVL และ PTTGC
ความเสี่ยงช่วงสั้นของดัชนี SET ในรอบนี้เรามองอยู่ที่กรอบ 1560-1570 จุดเนื่องจากอาจมีแรงขายทำกำไรจากภาวะความเสี่ยงที่จะเกิดจากปัจจัยทางเทคนิคและค่า P/E ซึ่งเมื่อวานนี้ตลาดก็ได้ถูกเทขายลงมาแรงหลังเข้าใกล้ระดับดังกล่าว โดยเป็นแรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างประเทศและกองทุนเป็นหลัก วันนี้มองดัชนี SET จะแกว่งตัวลงหลังตลาดขาดปัจจัยหนุนและรับข่าวงบ Q2 ไปแล้ว วันนี้มองแนวรับที่ 1525-1533 จุดและแนวต้านที่ 1542-1550 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร IVL BCH SGP
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,533.20 จุด ลดลง 4.32 จุด (-0.28%) มูลค่าการซื้อขาย 31,177.17 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งผันผวนในกรอบ 1530-1540 จุด เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา หลังสิ้นสุดการรายงานผลประกอบการ Q2/59 ด้านตลาดภูมิภาคเคลื่อนไหวบวกลบ นักลงทุนกังวลหลังเฟดส่งสัญญาณอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า (20-21 ก.ย.นี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย คาดว่าจะแกว่งตัวลงต่อ โดยจะต้องระวังแรงขายต่อเนื่องของกองทุนและต่างชาติ หากยังไม่ชะลอลง SET จะมีโอกาสลงไปที่แนวรับ1520จุด หรือ1500 จุด โดยปัจจัยลบที่เริ่มกลับมากระทบคือการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดรอบใหม่ ซึ่งจะหนุนให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น และจะผลักดันให้เกิดการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ ระยะสั้นยังแนะนำชะลอการลงทุนโดยให้รอซื้อบริเวณ 1500-1520 จุด
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Sino-Thai Engineering & Construction (STEC TB; THB 24.30) - ซื้อ
Tipco Foods (TIPCO TB; THB 16.50) - ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : TPCH, CWT*, MAX*, PERM*, VTE* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]