- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 11 August 2016 17:25
- Hits: 1055
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : BEM, BKD, BLA, CPALL, ERW, ICHI, ITEL (IPO), MTLS,
SAMART-SIM-SAMTEL, TPCH, TVO
Our Portfolio Aug 2016 : AAV, BEM CK, SCB, TACC
2016SET Target1650
ช่วงนี้รอเลือกหุ้นทยอยซื้อตอนลบ ดีกว่า ไล่ซื้อช่วงบวก...
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่อง และส่วนใหญ่ในระหว่างวันเริ่มเน้นหนักทางด้านแกว่งตัวลบมากขึ้น ถึงแม้ว่าดัชนียังคงขยับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกในช่วงต้นชั่วโมงการซื้อขาย คาดว่าเพราะยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน ขณะที่ตลาดขยับขึ้นมามากแล้วในช่วงที่ผ่านมาแนวโน้มตลาดวันนี้ : ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้เริ่มมีจังหวะปรับตัวลงและปิดลบ โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ร่วงลงราว 2.5% เนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐพุ่งขึ้นสวนทางกับตัวเลขคาดการณ์ นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือน ก.ค.ด้วย ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้หลายแห่งเปิดเป็นลบ ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้ลดลงรุนแรง แต่ FSS คาดว่าน่าจะกดดัน SET ต่อเนื่อง ทำให้เรายังคาดหมายโอกาสปรับพักตัวลงก่อนของตลาดหุ้นไทยในช่วงถัดจากนี้ ประกอบกับบ้านเราจะติดวันหยุดพรุ่งนี้(12 ส.ค.) ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดต่างประเทศ ดังนั้นต้องระวัง SET ปรับตัวลงเร็ว-ลงแรงไว้ด้วย
กลยุทธ์ : แม้ว่า FSS ยังให้น้ำหนักในเชิงบวกกับ SET โดยคาดว่าดัชนีมีโอกาสที่จะยกระดับขึ้นไปเคลื่อนไหวแถว 1650 จุดหรือใกล้เคียงได้ก่อนสิ้นปีแต่ระยะสั้นต้องระวังการปรับตัวลง ซึ่งถือเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นทยอยซื้อเพิ่มใหม่ได้ ดังนั้นยังแนะนำให้ทยอยซื้อช่วง SET ปรับตัวลงจะปลอดภัยกว่า
แนวรับ 1545-1540 , 1538-1532 จุด
แนวต้าน 1550-1554 , 1556-1560 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MINT, ICHI, HMPRO(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่น US$884ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$366ล้าน ไต้หวัน US$225ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้าUS$100ล้าน ขณะที่ไหลออกเวียดนาม US$3.7ล้าน และฟิลิปปินส์ US$2.6ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคตามสภาพคล่องในตลาดการเงินโลกที่เพิ่มขึ้นแต่วันนี้อาจมีแรงขายทำกำไรหลังราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้ร่วงลงราว 2% เนื่องจากรายงานสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐที่เพิ่มขึ้นผิดคาด
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (+) ITEL “บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม” เป็นผู้ให้บริการเช่าโครงข่ายความเร็วสูงที่มีความหลากหลายทั้งเส้นทางรถไฟและถนน ครอบคลุม 75 จังหวัดทั่วประเทศ ด้วยสายFiber Optic หุ้มเหล็กอีกหนึ่งชั้นทำให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง และให้บริการติดตั้งโครงข่ายและ Data center บริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโตสูง และได้รับการสนับสนุนจากรัฐในการเป็น Digital economy เราคาดกำไรสุทธิในปีนี้โต 135% Y-Y เป็น 72 ล้านบาท และโตต่อเนื่องเฉลี่ย 47% ต่อปีในช่วง 2017-19 ประเมินราคาพื้นฐาน 7.80 บาท(DCF) (FSS เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ ITEL)
• (+) กำไรสุทธิส่วนใหญ่ดีกว่าคาด +27% Q-Q, +5% Y-Y ที่ดีกว่าคาดส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Commodity เพราะกำไรจากสต็อกมากกว่าคาด และส่วนต่างสินค้าปิโตรเคมีสูงกว่าคาด ขณะที่กลุ่มอื่นใกล้เคียงคาด สะท้อนเศรษฐกิจในประเทศที่ค่อยๆฟื้นตัว แต่ไม่ได้กระจายทุกกลุ่ม กลุ่มที่มีกำไรเติบโตแข็งแกร่งถ้าไม่นับกลุ่มพลังงานและปิโตรฯ ได้แก่กลุ่มไฟแนนซ์ ค้าปลีกที่เน้นตลาดบน สื่อโฆษณานอกบ้าน อาหาร และโรงแรม
• (+) CPALL กำไรสุทธิ 2Q16 ทำ new high ที่ 4.2 พันล้านบาท ตามคาด +3.2% Q-Q,+33.6% Y-Y กำไรจะดีกว่านี้ถ้าไม่ถูกฉุดด้วย MAKRO แต่ธุรกิจร้าน 7-11 ยังโตดี SSSGฟื้นต่อเนื่อง +5% Y-Y เป็นบวก 6 ไตรมาสติดต่อกัน แนวโน้ม 2H16 จะดีขึ้นจาก Stamppromotion เราปรับใช้ราคาพื้นฐานปีหน้าที่ 68 บาท แนะนำซื้อ
• (+) TPCH กำไร 2Q16 ทำ new high ต่อเนื่องตามคาด +60% Q-Q, +804% Y-Yเพราะมีโรงไฟฟ้า 1 แห่งเริ่ม COD ต้นไตรมาส และโรงไฟฟ้าช้างแรกได้ปรับราคาขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นประมาณ 1 บาทต่อหน่วย แนวโน้มกำไร 2H16 ยังเป็นขาขึ้น เราปรับกำไรปี2016-18 ขึ้นเป็นโตเฉลี่ย 135% ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 20.50 บาทจาก 19.50 บาทแนะนำซื้อ
• (+) BEM กำไรสุทธิ 2Q16 ที่ต่ำกว่าคาดเพราะค่าธรรมเนียมคืนหนี้ก่อนกำหนด ในส่วนของธุรกิจหลัก กำไรตรงตามคาด 674 ล้านบาท -4% Q-Q ตามฤดูกาล, +36% Y-Yกำไรใน 1H16 +28% Y-Y คิดเป็น 41% ของทั้งปี เรายังคงประมาณการและราคาพื้นฐานที่ 12 บาท ยังคงแนะนำซื้อ
• (+) IVL กำไรโตแรงกว่าเราและตลาดคาดมาก กำไรสุทธิ 2Q16 +45% Q-Q, +10%Y-Y ถ้าตัดรายการพิเศษ กำไรปกติ +118% Q-Q, +75% Y-Y จาก Margin ธุรกิจ PET ดีขึ้น แนวโน้ม 2H16 จะดีขึ้นเพราะรับรู้รายได้จากโรงงานที่เพิ่งซื้อมาเต็มไตรมาส มีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรขึ้น ยังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 38 บาท
• (-) SIM-SAMTEL-SAMART กำไร 2Q16 อ่อนแอทั้งกลุ่มโดยเฉพาะ SIM ที่ขาดทุนหนัก เราปรับเป็นขาดทุนต่อเนื่อง 2 ปีคือปี 2016-17 ยังคงแนะนำขาย กำไรของSAMART ถูกฉุดด้วยบ.ลูก เราปรับราคาพื้นฐานปีหน้าเป็น 16.50 บาท แนะนำถือ มีเพียงSAMTEL ที่ดูดีสุดแต่แนะนำถือเช่นกัน ราคาพื้นฐานปีหน้า 15 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
11 ส.ค. - ฟิลิปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
12 ส.ค. - MSCI Quarterly Index Review
- ตลาดหุ้นไทยปิดทำการเนื่องในวันแม่
- จีน: ยอดค้าปลีกและการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (ก.ค.)
- ฮ่องกง: 2Q16 GDP
- ยูโรโซน: 2Q16 GDP
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ก.ค.)
15 ส.ค. - ไทย: 2Q16 GDP (ตลาดคาด +3.3% Y-Y, +0.4% Q-Q)
- ญี่ปุ่น: 2Q16 GDP (ตลาดคาด +0.7% Q-Q annualized)
16 ส.ค. - สหรับ: Housing starts, Building permit (ก.ค.)
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ส.ค.)
17 ส.ค. - สหรัฐ: FOMC Meeting Minutes
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบเล็กน้อยโดยถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงค่อนข้างแรง รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่อ่อนแอกว่าคาด
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนส่วนใหญ่ปิดในแดนลบเช่นกันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาผสมทั้งดีและแย่
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนลบตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นนอกเหนือจากเรื่องราคาน้ำมัน ตลาดยังจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของจีนในวันพรุ่งนี้
(0) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวหลังแข็งค่าขึ้นช่วง 2 วันก่อนหน้า ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 34.70-35.85 บาท/ดอลลาร์
Currency Markets Current Previous %change
Bt/ US$* 34.81 34.77 -0.11
US$/ Euro 1.12 1.12 0.04
Yen/ US$ 101.24 101.29 0.05
Yuan/ US$ 6.63 6.64 0.04
Commodity Price Current Prev %change
Crude Oil 41.44 41.71 -0.65
GOLD 1,349.90 1,351.90 -0.15
BDI 638.00 631.00 1.11
ZINC 2,286.00 2,274.00 0.53
CRB index 179.55 181.43 -1.04
Source: Bloomberg *onshore rate
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ร่วงลง 1.06 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 41.71 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยว่าสต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นกว่า 1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ปริมาณการผลิตต่อวันของซาอุดิอาระเบียที่เพิ่มขึ้นในเดือน ก.ค.
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,351.90 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสาเหตุหลักๆเกิดจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า รวมถึงตัวเลขผลิตภาพแรงงานของสหรัฐฯปรับตัวลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research
0000000000000000000
? 2016 PricewaterhouseCoopers. All rights reserved.