- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 10 August 2016 18:33
- Hits: 1539
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ผันผวน? คาดตลาดมีความผันผวนมากขึ้น หลังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ ที่เป็นบวกเข้ามาหนุนภาพรวมตลาด ขณะที่ดัชนีเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา คากอาจมีแรงขายทำกำไรออกมา ทำให้การปรับขึ้นอาจยังเป็นไปอย่างจำกัด แม้ยังได้รับปัจจัยหนุนจากประเด็นเดิมที่มีการรับรู้และสะท้อนไปบ้างแล้ว ทั้งตัวเลขการจ้างงาน และตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณดีต่อเนื่อง รวมถึงการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมของอังกฤษ ที่คาดยังส่งผลดีต่อ Fund Flow ไหลเข้ามาในภูมิภาค รวมถึงไทย ล่าสุดยอดซื้อสุทธิต่างชาติ เกือบ 5,300 ล้านบาท และทำให้ YTD ยอดซื้อสุทธิสะสมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สูงกว่า 94,000 ล้านบาท
เช่นเดียวกับประเด็นในประเทศ ที่คาด Sentiment ยังเป็นบวกจากสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ หลังการลงประชามติ “รับร่าง รธน.” และทำให้เข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ที่คาดน่าจะเกิดขึ้นในช่วง ก.ย. – ต.ค.’60 ซึ่งคาดช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุนให้ดีขึ้นตามลำดับ
โดยยังอยู่ในช่วงการประกาศผลการดำเนินงาน - 2Q/59 และเงินปันผลซึ่งคาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงต้นสัปดาห์หน้า
ยังคงติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังมุมมองของ ธปท. เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อน 2 เรื่องหลัก (1) เริ่มมองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเริ่มมี Downside Risk จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น และ (2)
เงินเฟ้ออาจจะกลับเข้าสู่เป้าหมายได้ช้ากว่าที่เคยประเมินไว้เล็กน้อยจากราคาพลังงานที่ต่ำกว่าคาด และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น SCC และ VNG
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK,UNIQ,PYLONและ SEAFCO
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ในขณะที่ BCP และ IRPC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี
SET SET50 SET100
1,548.21 +5.95 986.05 +2.98 2,213.57 +7.23
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA 3.76, NASDAQ +12.34, S&P +0.85, FTSE +42.17, CAC +52.61 และ DAX +260.54
ภายใต้มุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร - ก.ค. ที่เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มมากกว่าคาด และล่าสุดจากตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่ง - มิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.3% ที่บ่งชี้ว่าภาคค้าส่งมีแนวโน้มช่วยหนุนเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง พร้อมปรับเพิ่มสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเมื่อพ.ค. จากประมาณการเดิมขยายตัว 0.1% เป็นขยายตัว 0.2% อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นเป็นไปอย่างจำกัดหลังราคาน้ำมันลดลง ส่งผลต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน และผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง
ขณะที่จับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 26/8/59 โดยเฉพาะถ้อยแถลงของประธานเฟด ที่คาดอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ ฯ และทิศทางเศรษฐกิจของอังกฤษ หลังธนาคารกลางอังกฤษประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ย. -US$0.25 อยู่ที่ US$42.77 ต่อบาร์เรล ภายใต้ความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลัง EIA ปรับเพิ่มคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ปี’60 อยู่ที่ 8.31 ล้านบาร์เรล/วัน จากคาดการณ์เดิมเมื่อก.ค. ที่ 8.2 ล้านบาร์เรล/วัน และอยู่ระหว่างติดตามการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของโอเปก ในวันที่ 26 – 28/9/59 ที่กรุงอัลเจียร์ส ประเทศแอลจีเรีย เพื่อหารือถึงแนวทางการสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
23.6 1.99 3.06
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 69,832.25
สถาบัน -1,763.98
บัญชีหลักทรัพย์ -954.93
ต่างประเทศ 5,290.45
ในประเทศ -2,571.54
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$5.4 อยู่ที่ US$ 1,346.7 ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งส่งผลให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดใจสำหรับ
นักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +5,290 ล้านบาท สะสม YTD +94,726 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 10 - 12 ส.ค. 2559
10/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
สต็อกน้ำมัน
งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนก.ค.
11/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ค.
12/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค.
ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.
สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนส.ค.
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่อง จากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
(7) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (CENTEL, MINT, ERW) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยล่าสุดสภาพัฒน์ฯ ปรับเพิ่มคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวปี’59 อยู่ที่ 33 ล้านคน จากเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6%
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.04 อยู่ที่ 1.54% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.16 อยู่ที่ 11.66
หุ้นแนะนำ : TMT
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788