- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 09 August 2016 17:00
- Hits: 1530
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ยังมีโอกาสปรับขึ้น? คาดอาจเป็นไปอย่างจำกัด หลังดัชนีเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา อาจถูกขายทำกำไรออกมาบ้าง ขณะที่คาดภาพรวมตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากประเด็นเดิมทั้งตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณดีต่อเนื่อง และการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมของอังกฤษ ที่คาดยังส่งผลดีต่อ Fund Flow ไหลเข้ามาในภูมิภาค รวมถึงไทย ล่าสุดยอดซื้อสุทธิต่างชาติ เกือบ 7,000 ล้านบาท และทำให้ YTD ยอดซื้อสุทธิสะสมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สูงกว่า 89,000 ล้านบาท
ทางด้านประเด็นในประเทศ คาด Sentiment ยังเป็นบวกจากสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ หลังการลงประชามติ “รับร่าง รธน.” และทำให้เข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ที่คาดน่าจะเกิดขึ้นในช่วง ก.ย. – ต.ค.’60 ซึ่งคาดช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุนให้ดีขึ้นตามลำดับ และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นคาดส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
ขณะที่ยังอยู่ในช่วงการประกาศผลการดำเนินงาน - 2Q/59 และเงินปันผล
ซึ่งคาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงกลางเดือนนี้
ยังคงติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังมุมมองของ ธปท. เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อน 2 เรื่องหลัก (1) เริ่มมองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเริ่มมี Downside Risk จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น และ (2)
เงินเฟ้ออาจจะกลับเข้าสู่เป้าหมายได้ช้ากว่าที่เคยประเมินไว้เล็กน้อยจากราคาพลังงานที่ต่ำกว่าคาด
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น SCC และ VNG
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK,UNIQ,PYLONและ SEAFCO
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ในขณะที่ BCP และ IRPC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี
SET SET50 SET100
1,542.26 +23.57 983.07 +20.45 2,206.34 +43.15
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-/+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA -14.24, NASDAQ -7.98, S&P -1.98, FTSE +15.66, CAC +4.91 และ DAX +65.15
จากการขายทำกำไรหลังดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นโดดเด่นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จากตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ดีเกินคาด อย่างไรก็ตามการปรับลงเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากยังได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังมีรายงานว่ากลุ่มประเทศส่งออกน้ำมัน –โอเปก เตรียมจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในเดือนก.ย. ที่กรุงอัลเจียร์ส ประเทศแอลจีเรีย เพื่อหารือถึงแนวทางการสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกจากหุ้นในกลุ่มธนาคาร และตัวเลข ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม - มิ.ย. ของเยอรมนี เพิ่มขึ้น 0.8% มากกว่าที่คาดว่าจะขยายตัว 0.7%
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ย. +US$1.22 อยู่ที่ US$43.02 ต่อบาร์เรล หลังมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน - โอเปก เตรียมจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 26 – 28/9/59 ที่กรุงอัลเจียร์ส ประเทศแอลจีเรีย เพื่อหารือถึงแนวทางการสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน
ขณะที่ประธานโอเปกแสดงความคิดเห็นว่า จากการสำรวจราคาน้ำมันในตลาดโลกช่วงที่ผ่านมา ทำให้คาดการณ์ว่า ภาวะผันผวนในตลาดน้ำมันจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว พร้อมกับคาดว่า ภาวะเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่ใช้น้ำมัน มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดจะช่วยหนุนความต้องการน้ำมันให้ปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ด้วย
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
23.54 1.98 3.07
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 76,292.36
สถาบัน 1,582.06
บัญชีหลักทรัพย์ 1,050.40
ต่างประเทศ 6,887.69
ในประเทศ -9,520.15
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$3.1 อยู่ที่ US$ 1,341.3 ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งจากความกังวลต่อแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งและดีกว่าคาด และยังถูกกดดันจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +6,888 ล้านบาท สะสม YTD +89,436 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 9 - 12 ส.ค. 2559
9/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วย – 2Q/59
สต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนมิ.ย.
10/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
สต็อกน้ำมัน
งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนก.ค.
11/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ค.
12/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค.
ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.
สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนส.ค.
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่อง จากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
(7) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (CENTEL, MINT, ERW) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยล่าสุดสภาพัฒน์ฯ ปรับเพิ่มคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวปี’59 อยู่ที่ 33 ล้านคน จากเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6%
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัว อยู่ที่ 1.58% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.11 อยู่ที่ 11.50
หุ้นแนะนำ : PTT
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788