- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 08 August 2016 17:40
- Hits: 5019
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ขึ้นแต่ไม่น่าไกล-เลือกลงทุนรายตัว
วันนี้คาด ดัชนีฯหุ้นไทยแรลรี่ รับข่าวผลการลงประชามติรับร่าง รธน. คาดขึ้นทดสอบ แนวต้าน 1,535/1,540 จุด จากความเชื่อมั่นการเมืองไทยเพิ่มขึ้นโดยจากนี้ไปเราคาดจะเกิดการเลือกตั้ง ก.ย.- พ.ย. 2017
ระยะสัปดาห์ (เล่นรอบ) คาดดัชนีฯหุ้นจะขึ้นรับข่าวราว 1-1.5% แต่ไม่น่ามี New high เกิน 1,550 จุด กรอบดัชนีฯสัปดาห์นี้ ขยับขึ้นเป็น 1,505-1,550 จุด (จากเดิมคาด 1,490/1,480-1,530/1,540 จุด) มองดัชนีฯ มีโอกาสทดสอบ แนวต้าน 1,550 จุด แต่ไม่น่าจะเกิน เพราะผลประชามติน่าจะเป็นปัจจัยที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนแล้ว ซึ่งเป็นไปตามโพลของสำนักต่างๆ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติได้ซื้อสุทธิสะสมระหว่าง 1-5 สค.รวม 1.67 พันล้านบาท และกองทุนซื้อคืนไปเมื่อวานศุกร์ 1.9 พันล้านบาท คาดอาจจะมีแรงขาย Sell on fact บางส่วนจากแรงซื้อดักผลรับร่างฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน
แนวโน้มรายเดือน คาดครึ่งแรกของเดือน สค.จะซิ๊กแซกขึ้น แนวต้าน 1,550 จุด ก่อนจะปรับฐานตามมา 3-5% เมื่อไม่ผ่านแนวต้าน ปัจจัยลบ ยังคงเป็นดัชนีฯหุ้นไทยเข้าโซน PE +2SD (กำไรวิ่งตามราคาหุ้นไม่ทัน) แรงซื้อต่างชาติในครึ่งเดือนหลังคาดชะลอลงจาก การรอดูท่าที FED ในงาน Economic symposium ที่ Jackson Hole 25-27 สค.นี้ รวมถึง BOJ ชะลอเพิ่ม QE เพื่อรอประเมินผล QE ที่ออกไปก่อนหน้านี้ ส่วน MSCI รอบนี้ จับตาหุ้นมีโอกาสถูกเพิ่มเข้าคำนวณ เช่น BJC TASCO พิจารณาจากปริมาณการซื้อขาย และมูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
หุ้นแนะนำวันนี้ AOT KBANK MINT
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) AOT ตัวเลขผู้โดยสารในเดือน เม.ย.-มิ.ย. เติบโต 11% YoY โดยมาจากทั้งการเติบโตในส่วนของต่างประเทศและในประเทศ (เติบโต 10% YoY และ 13% YoY ตามลำดับ) เราประเมินกำไรสุทธิในไตรมาส 3/59 (เม.ย.-มิ.ย.) ที่ 4,787 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18% YoY แต่ลดลง 16% QoQ ถ้าไม่รวมรายการพิเศษขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรหลักคาดอยู่ที่ 4,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% YoY แต่ลดลง 15% QoQ เรามองว่าไตรมาสที่ถือว่าเป็นช่วง Low season ของการท่องเที่ยวกำลังจะผ่านไปแล้ว ราคาหุ้นก็น่าจะสะท้อนไปแล้ว อีกทั้งไตรมาสต่อๆไปจะได้แรงหนุนเนื่องจากเป็นฤดูกาลของการท่องเที่ยว มุมมองปี 2560 เรายังคาดกำไร AOT จะโตได้ถึง 15% YoY เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 490 บาท
(+) CENTEL เราแนะนำนักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น CENTEL เนื่องจากเราเชื่อว่ากำไรจะเริ่มฟื้นตั้งแต่ไตรมาส 3/59 ถึง ไตรมาส 1/60 (3 ไตรมาสติด) และยังมีประเด็นจาก 1) ราคาหุ้นยังถูก เทรด PE ปี 2559 ที่ 29.2 เท่า ใกล้กับจุดตอนเกิดเหตุการณ์ระเบิดในไตรมาส 3/58, 2) กำไรในไตรมาส 2/59 ประเมินว่าจะออกมาดีกว่าคาด โดยเรามองว่าน่าจะดีกว่าที่ตลาดคาดถึง 16% อีกทั้งเรายังมองว่าไตรมาส 3/59 ถึง ไตรมาส 1/60 จะยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งจาก The Maldives ที่เริ่มเปิดดำเนินการไปแล้ว และฐานปีที่แล้วที่ต่ำ และ 3) ประเด็นการทำ M&A เราคาดน่าจะเห็นการขยายธุรกิจเพิ่มเติมในช่วงปลายปีนี้ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 45 บาท ณ สิ้นปี 2559
(+) RJH หุ้นโรงพยาบาลน้องใหม่ โดยมีโรงพยาบาลในเครือ 2 แห่ง คือโรงพยาบาลราชธานีและโรงพยาบาลราชธานีโรจนะซึ่งทั้ง 2 โรงพยาบาลตั้งอยู่ที่จังหวัดอยุธยา (จำนวนเตียงคิดเป็น 58% ของทั้งจังหวัด) โดยเตรียมเข้า IPO ในตลาดคาดจะเริ่มซื้อขายในวันที่ 1 ก.ย. 2559 เราประเมินราคาเป้าหมายที่ 20 บาท คิดเป็น PE ปี 2559 ที่ 41 เท่า และปี 2560 ที่ 36 เท่า โดยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มเล็กน้อยประมาณ 2-3% เราประเมินกำไรในปี 2559 ที่ 147 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84% YoY และคาดจะเติบโตได้ต่อเนื่อง 13-15% ในปี 2560-2561 แม้ว่าจะเกิด Dilution หลัง IPO แต่เรามองว่ากำไรต่อหุ้น (EPS) หลัง IPO จะยังเติบโตได้ถึง 38% YoY จุดเด่นของ RJH คือ 1) จำนวนเตียงที่มากกว่าคู่แข่งในอยุธยาถึง 2-3 เท่า, 2) เป็นโรงพยาบาลเดียวในอยุธยาที่มีศักยภาพในเรื่องการตรวจหัวใจและ 3) รายได้ 50% มาจากประกันสังคม ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่ค่อนข้างเข้ามาสม่ำเสมอในทุกปี สำหรับประเด็นการเติบโตของ RJH จะมาจาก 1) RJH ได้ลงทุนหนักๆในช่วงปี 2557-2558 ทั้งในเรื่องของอุปกรณ์การแพทย์และการควบรวมโรงพยาบาลโรจนะเวช (เปลี่ยนชื่อเป็น โรงพยาบาลราชธานีโรจนะ) ซึ่งทำให้ปีนี้จะเริ่มรับรู้ผลประโยชน์ต่างๆที่เกิดขึ้นจากการลงทุน เห็นได้ชัดตั้งแต่ไตรมาส 1/59 รายได้เติบโตถึง 23% YoY และกำไรสุทธิเติบโตเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว , 2) ตั้งศูนย์รักษาโรคมะเร็งสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน, 3) ขยายพื้นที่และเตียงจากตึกใหม่ โดยคาดจำนวนเตียงจะเพิ่มขึ้นถึง 34% จากในปัจจุบัน
หุ้นมีประเด็น
(+) กกพ. ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติเทคนิค โรงไฟฟ้าชีวมวล 36MW ปริมาณการติดตั้งรวม 240.8MW: RATCH ผ่าน 2 โครงการ รวม 19.8 MW, TPCH ผ่านครบทั้ง 4 โครงการที่ยื่น รวม 37.7 MW, BCP ผ่าน 2 โครงการ รวม 19.8 MW และ ECF ร่วมกับ FPI ผ่าน 2 โครงการ รวม 19.8 MW
หลังจากนี้ กกพ. จะพิจารณาข้อเสนอด้านราคา และจะประกาศผลการคัดเลือกภายในวันที่ 25 สิงหาคม 2559 โดยโครงการที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องดำเนินการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ภายในวันที่ 23 ธันวาคม 2559 และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ภายในเดือนธันวาคม 2561 (ที่มา กกพ.)
(+) TPCH เจรจาเข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ภาคใต้เพิ่มเติมอีก 2-3 โครงการ กำลังการผลิตไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ต่อโครงการ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในช่วงไตรมาส 3/59 นี้ (ที่มา อินโฟเควส) / ข่าวซื้อกิจการนี้ สร้างความประหลาดใจเชิงบวกแก่เรา ซึ่งเรายังไม่ได้รวมไว้ในคาดการณ์
(*) กระทรวงคลัง ชงแพ็คเกจแก้หนี้นอกระบบบรรจุในวาระเข้า ครม. แล้ว เสนองัด ม.44 สั่งห้ามคิดดอกเบี้ยเกิน 15% ต่อปี พร้อมเพิ่มโทษรุนแรงถึงขั้นติดคุก เปิดทางเจ้าหนี้เหล่านี้เข้าสู่ระบบโดยขึ้นทะเบียน พิโคไฟแนนซ์ โดยสามารถคิดดอกเบี้ยได้ 36% ต่อปี (ที่มา นสพ.บ้านเมือง)
(+) ปิดขายซองรถไฟฟ้าสายสีชมพู และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง มีผู้เข้ามาซื้อเอกสารข้อเสนอการร่วมลงทุนทั้ง 2 โครงการ ได้แก่ BEM, BTS+STEC, RTACH, ITD, TRC, PLE บริษัท เอส เค เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (จากเกาหลี), China Railway Construction Coporation Limited, ซิโนไฮโดร คอร์ปอเรชั่น ลิมิเต็ด (จากจีน) และบริษัทจากฝรั่งเศส ส่วน China Communications Construction Company Limited (ที่มา นสพ.บ้านเมือง)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) ผลโหวต “รับร่างฯ” BLS คาดว่าจะเกิดการเลือกตั้ง ก.ย.- พ.ย. 2017 เราคาดดัชนีฯหุ้นจะขึ้นรับข่าวราว 1-1.5% แต่ไม่น่ามี New high เกิน 1,550 จุด แนะนำซื้อเล่นรอบหุ้นฝรั่ง+กองทุน; กลุ่มแบงก์ (KBANK KTB SCB) บริโภคในประเทศ (CPF CPALL) พลังงาน (PTT TOP IRPC) ท่องเที่ยว (AOT MINT)
(-) วันจันทร์ เยอรมนี Industrial production มิย.คาด +0.9% จาก -1.3% m-m, Euro area Sentix investor confidence สค. คาด 3.6% จาก 1.7%, จีน รายงานส่งออก เดือน กค. คาด -3.4% จาก -4.8% y-y, ไต้หวัน ส่งออก เดือน กค. คาด -2% จาก -2.1% y-y(ที่มา Bloomberg)
(0) อังคาร US Wholesale inventories เดือน มิย.คาด 0%, เยอรมนี ส่งออก เดือน มิย. คาด +1.4% จาก -1.9% m-m, ธนาคารกลางอินเดีย คาดคงดอกเบี้ย 6.5%, จีน รายงานเงินเฟ้อ CPI กค. คาด +1.8% จาก 1.9%(ที่มา Bloomberg)
(0) พุธ ฝรั่งเศส Industrial production มิย.คาด +0.3% จาก -0.5%, ฟิลิปปินส์ ส่งออก เดือน มิย. คาด -16.5% จาก -3.8% (ที่มา Bloomberg)
(0) พฤหัส US Import prices กค. คาด -0.3% จาก 0.20% m-m. เงินเฟ้อ ฝรั่งเศส, อิตาลี กค. คาดทรงตัวในระดับต่ำ, ธนาคารกลางเกาหลีใต้ คาดคงดอกเบี้ย 1.25% สิงคโปร์ GDP 2Q16 คาด 2.2%, ธ.กลางฟิลิปินส์ คาดคงดอกเบี้ย 3%, มาเลเซีย Industrial production มิย.คาด +2.5% จาก 2.7%(ที่มา Bloomberg)
(0/+) ศุกร์ US PPI คาด +0.1% จาก 0.5% US Retail sales กค. คาด +0.4% จาก 0.6% m-m. EURO area GDP 2Q16 2nd คาด +0.3% คงที่, จีน Industrial production กค.คาด +6.2% จาก 6.2%, มาเลเซีย GDP 2Q16 คาด +4% จาก 4.2%, ฮ่องกง GDP 2Q16 คาด +1% จาก 0.8% (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค