- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 08 August 2016 17:16
- Hits: 728
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
เต็มไปด้วยปัจจัยบวก
คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นแรง จากการที่เต็มไปด้วยปัจจัยบวกทั้งภายใน และภายนอกประเทศ ภายนอก ตัวเลขว่าจ้างงานสหรัฐเดือน ก.ค. ที่ออกมาดีกว่าตลาดคาดมาก เสริมความมั่นใจในเศรษฐกิจสหรัฐเป็นอย่างยิ่ง แม้อาจจะนำไปสู่การปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นปีนี้มากกว่า 1 ครั้งได้ ภายในประเทศการที่ประชาชนไทยลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญของ คสช. ทำให้ให้การเลือกตั้งปีหน้าชัดเจนขึ้น ตามแผนของรัฐบาลทำให้ความเสี่ยงทางการเมืองในรัฐสภาดูลดลง แต่ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่าการเมืองนอกรัฐสภาจะลดลงหรือไม่นับจากนี้ การที่กระทรวงการคลังมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในไตรมาส 2 สูงกว่า 3.2% ที่ขยายตัวในไตรมาส 1 สอดคล้องกับมุมมองของ ธปท. และเป็นปัจจัยบวกยิ่ง
หุ้นเด่นวันนี้ : BEM (Bt8.05; BUY; AWS 2016 TP Bt10.10)
บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) คาดว่าจะมีแนวโน้มผลประกอบการที่สดใสมากจากปีนี้เป็นต้นไป โดยได้แรงหนุนจาก 1) รายได้จากการบริหารการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงซึ่งเริ่มเปิดบริการ 6 ส.ค.59 2) โครงการทางด่วนศรีรัช-ถนนวงแหวนรอบนอกจะเปิดในวันที่ 20 ส.ค.59 3) รัฐบาลประกาศใช้มาตรา 44 เพื่อเพิ่มความเร็วในการเจรจาเกี่ยวกับสัญญาสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายจะแล้วเสร็จภายใน 135 วันนับจาก 21 ก.ค.59 (คาดว่าเจรจาตรงกับ BEM) ทำให้กรณีนี้ที่ล่าช้ามานานถึง 1 ½ ปั ได้ข้อสรุปและเดินหน้าต่อไป ถึงแม้ว่าเราจะคาดหวัง BEM จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 2/59 ลดลง 31% QoQ มาอยู่ที่ 480 ล้านบาทจาก 702 ล้านบาท ในไตรมาส 1/59 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายพิเศษเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์หนี้ เราคาดทั้งปีมีกำไรปกติ 3.0 พันล้านบาทในปี 2559 เพิ่มขึ้น 70% YoY และ 4.2 พันล้านบาทในปี 2560 เพิ่มขึ้น 38% YoY เราประเมินมูลค่าเหมาะสมของ BEM ตามวิธี DCF ที่ WACC 7.8% ได้ราคาเป้าหมายที่ 10.10 บาทซึ่งรวมถึงประมาณการรายได้จากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย และการต่ออายุสัมปทานของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเดิม ทำให้ราคาหุ้นในปัจจุบันยังมี upside 24% Price Pattern ของ BEM ยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ BEM มีเป้าหมายสำคัญของการทำ New High อยู่ที่ 8.60 บาท ซึ่งราคาหุ้น BEM ขึ้นไปทดสอบเป้าหมายดังกล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 8.60 บาทได้สำเร็จ ต้องความแข็งแกร่งในการปรับตัวขึ้นของ BEM ในรอบนี้ต่อว่าจะสามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 8.60 บาทได้หรือไม่ ซึ่งปิดตลาดเหนือ 8.60 บาทได้สำเร็จ จะมีเป้าหมายของการทำ New High ต่อไปอยู่ที่ 10.80 บาท ทั้งนี้ BEM มีจุด Stop Loss ระยะสั้นในรอบนี้อยู่ที่ 8.00 บาท (Resistance: 8.25, 8.35, 8.50; Support: 8.05, 7.90, 7.80)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ประชามติรับร่างคะแนนนำ ผลอย่างไม่เป็นทางการจาก กกต. จากคะแนนเสียงที่นับไปแล้ว 94% ชี้ว่า 61.4% ของผู้ลงคะแนนสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญขณะที่ 38.6% ไม่รับร่าง ส่วนคำถามพ่วงว่าให้ สว. มีสิทธิร่วมกับเลือกนายกฯ ด้วยนั้น 58.1% เห็นชอบด้วย อีก 41.9% ไม่เห็นชอบ (Bangkok Post) ความเห็น: ผลออกมาสอดคล้องกับผลสำรวจก่อนลงประชามติ กระบวนการนับจะมีต่อในวันนี้
ก.คลังมอง GDP ไตรมาส 2 ดีขึ้น รมว.คลังเชื่อว่า GDP ไทยไตรมาส 2/59 น่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกที่โต 3.2% โดยคาดไว้ว่าโต 3.4% หนุนโดยการใช้จ่ายภาครัฐและมาตรการกระตุ้นต่างๆ (Bangkok Post) ความเห็น: สอดคล้องกับมุมมองล่าสุดของ ธปท. ว่าการเติบโตเศรษฐกิจไตรมาส 2 น่าจะชนะไตรมาส 1 สภาพัฒน์จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศช่วง เม.ย.ถึง มิ.ย. ใน ส.ค. 59
ผุดแนวคิดเมืองปลอดภาษี กระทรวงการคลังเปิดเผยว่าอยู่ในระหว่างการศึกษาการจัดตั้งเมืองการค้าปลอดภาษี (Border Town) เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดน โดยจะเปิดให้ผู้ประกอบการในประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องการซื้อสินค้า สามารถมาสั่งซื้อสินค้าในเขตปลอดภาษีได้ ขณะเดียวกันจะเปิดโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าไปซื้อสินค้าในเขตปลอดภาษีดังกล่าวด้วย ซึ่งจะมีการกำหนดให้สามารถซื้อได้รายละไม่เกิน 2 หมื่นบาทต่อเดือน เพื่อไม่ให้เกิดกระทบกับการค้าในตัวเมือง โดยในเบื้องต้นจะเสนอให้มีการตั้งให้ครบในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจ (Bangkok Post)
เร่งดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงระยอง กระทรวงคมนาคมเตรียมนำโครงการโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-ระยอง ระยะทาง 193 กม. มูลค่าโครงการ 1.53 แสนลบ. เพื่อเสนอให้คณะกรรมการ PPP พิจารณาภายในเดือน ส.ค. นี้ โดยคาดว่าโครงการลงทุนดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจในแนวพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก (Eastern Economic Corridor) เบื้องต้นคาดว่าหลังจากที่ได้รับการอนุมัติแล้วจะสามารถเริ่มเปิดประมูลได้ในปีหน้า (Bangkok Post)
ต่างประเทศ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีและต่ำกว่าปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบวันนับแต่กลางเดือนพ.ค. หลังจากตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค. ที่แข็งแกร่งเกินคาดกระตุ้นความหวังว่า Fed จะปรับขั้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปีแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์อยู่ที่ 1.589% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปีล่าสุดเพิ่มขึ้นเกือบ 11 bps (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อวันศุกร์ หลังจากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นเกินคาดและตัวเลขค่าจ้างปรับตัวขึ้น ดัชนีค่าเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.5% อยู่ที่ 96.212 จุด พลิกฟื้นจากสัปดาห์ก่อนที่ลดลง 2% ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานรายสัปดาห์ที่ตกต่ำที่สุดนับแต่เดือนเม.ย. (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อวันศุกร์ โดยดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สองในเดือนก.ค.กระตุ้นความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเร่งขยายตัว (Reuters)
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเพิ่มขึ้น 255,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 292,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่ 287,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ระดับ 4.9% ต่ำกว่าระดับ 5% ซึ่งเป็นระดับที่แสดงว่ามีการจ้างงานเต็มอัตรา (Reuters)
ความเป็นไปได้ที่ Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าอยู่ที่ระดับ 18% หลังจากรายงานตัวเลขการจ้างงานและเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 46% ในเดือนธ.ค. จากข้อมูลของ CME Group’s FedWatch (Reuters)
Fed สาขาแอตแลนตาปรับเพิ่มประมาณการจีดีพีสหรัฐไตรมาส 3/59 ว่าจะขยายตัวที่ระดับ 3.8% เมื่อวันศุกร์หลังจากการประกาศข้อมูลการจ้างงานล่าสุดและตัวเลขดุลการค้า ทั้งนี้ ประมาณการจีดีพีไตรมาส 3/59 ล่าสุดสูงกว่าตัวเลขจีดีพีที่ประกาศเมื่อวันพฤหัสเล็กน้อยที่ระดับ 3.7% (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันศุกร์ปรับตัวสูงขึ้น หนุนจากข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาดีกว่าคาด รวมไปถึงผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน อาทิ LafargeHolcim ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตปูนซิเมนต์และคอนกรีต อย่างไรก็ตามผลประกอบการของ Royal Bank of Scotland ที่ประกาศออกมาอ่อนแอส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลง (Reuters)
เอเชีย :
ดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือน มิ.ย. เกินดุลที่ 974,400 ล้านเยน (9.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เนื่องจากดุลการค้าขยายตัว แต่การขยายตัวของดุลบัญชีเดินสะพัดยังน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์จากโพลล์รอยเตอร์ ที่คาดการณ์การเกินดุลไว้ที่ 1.06 ล้านล้านเยน (Reuters)
ญี่ปุ่นออกประท้วงใหม่ไปยังกรุงปักกิ่งในวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากเรือยามชายฝั่งของจีนและเรือประมงประมาณ 230 ลำเรือประมง แล่นเข้าใกล้เกาะเล็กเกาะน้อย ที่โตเกียวพิจารณาว่าเป็นเขตพิพาทในทะเลจีนตะวันออก เป็นการออกแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศ (Reuters)
เศรษฐกิจในบางภูมิภาคของจีนแสดงถึงความแตกต่างในภาวะเศรษฐกิจในงวดครึ่งแรกของปี 2559 โดยจังหวัดที่พึ่งพาการทำเหมืองแร่และการผลิตเหล็ก รายงานภาวะอ่อนแอหรือไม่มีการเจริญเติบโต แต่บางเมืองใหญ่กลับเจริญรุ่งเรือง โดยจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เป็นผู้ผลิตเหล็ก เช่น เหลียวหนิง รายงานเศรษฐกิจหดตัวลง 1% YoY ในช่วงครึ่งแรกของปี เป็นจังหวัดเดียวในประเทศจีนที่รายงานการหดตัว ในขณะที่เมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของฉงชิ่งรายงานการเจริญเติบโตถึง 10.6% ซึ่งดีที่สุดในประเทศ ขณะที่การเจริญเติบโตทั่วประเทศมีอัตรา 6.7% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยวันศุกร์ เพราะมีการปิดสถานะชอร์ตกลับมาในช่วงท้ายตลาด หลังจากช่วงต้นอ่อนตัวเพราะดอลลาร์แข็งค่าจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 6 จากรายงานของ Baker Hughes ราคาน้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าลบ 13 เซนต์ (-0.3%) ปิดที่ 41.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังร่วงไปเกือบ 2% ก่อนหน้านี้ Brent ล่วงหน้าปรับลงแค่ 2 เซนต์ปิดที่ 44.27 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองร่วงมากถึง 1.7% วันศุกร์ เพราะดอลลาร์แข็งค่าหลังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐออกมาเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดใน ก.ค. เพิ่มโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ราคาทองคำตลาดจรได้ลงไปต่ำสุดของสัปดาห์ที่ 1,336.46 ดอลลาร์และไปปิดลบ 1.7% ที่ 1,338.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเป็นระดับที่อ่อนแอมากสุดนับแต่ 12 ก.ค. และปิดรายสัปดาห์ร่วงลง 0.9% (Reuters)
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun, FRM (No.49234) Tel: 02 680 5094