- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 04 August 2016 18:01
- Hits: 1135
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
ราคาน้ามันมีแนวโน้มดีดขึ้นต่อ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันและการจ้างงานภาคเอกชนออกมาดีกว่าคาด ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด 0.23%, 0.43%, 0.31%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดคละเคล้าได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด 0.26%, -0.17%, -0.16%, 0.20%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 40.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.10 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA รายงานการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ลดลง คลายกังวลภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นลงในกรอบแคบ ๆ สวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง เนื่องจากผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงและผิดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่น แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะอนุมัติงบกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 28 ล้านล้านเยนวานนี้ แต่ภายใต้แผนกระตุ้นดังกล่าว แบ่งเป็นการผ่านงบประมาณรายจ่ายพิเศษ4.6ล้านล้านเยนในปีงบประมาณปัจจุบันและส่วนที่เหลือจะทยอยออกในปีงบประมาณ 2017 ซึ่งญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าจะสามารถผลักดัน GDP ในปี 2017 ได้ราว 1.4% ซึ่งรายละเอียดของแผนดังกล่าวจะเป็น 3.3 แสนล้านเยน แจกเงินผู้มีรายได้ต่ำ 22 ล้านคน 3.5 ล้านล้านเยน สำหรับดูแลสวัสดิการของรัฐ 10.7 ล้านล้านเยน ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ 10.9 ล้านล้านเยน บรรเทาผลกระทบต่อธุรกิจ SMEs 3 ล้านล้านเยน ฟื้นฟูและบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติแผ่นดินไหว แต่อย่างไรก็ตามแรงสะท้อนจากค่าเงินเยนญี่ปุ่นกลับแข็งค่า รวมทั้งการตอบรับของตลาดหุ้นญี่ปุ่นในเชิงลบด้วย เนื่องจากตลาดมองว่ารัฐบาลญี่ปุ่นใช้งบกระตุ้นที่แท้จริงน้อยเกินไป ทางด้านตลาดหุ้นภูมิภาคตอบรับในเชิงลบเช่นกัน กอปรกับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PM) ภาคบริการของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน ขยายตัวที่ระดับ 51.7 ในเดือนก.ค. ลดลงจากระดับ 52.7 ในเดือนมิ.ย.
ส่วนการประชุมกนง. วานนี้ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ย 1.5% ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 แต่การประชุมในครั้งนี้กนง. มีความเป็นห่วงเศรษฐกิจโลก รวมทั้งกังวลการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลอื่น ๆ ในภูมิภาค อาจไม่เอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เนื่องมีเม็ดเงินไหลเข้าไทยมากในช่วงนี้ ซึ่งธปท. ยืนยันว่ามีเครื่องมือในการดูแลค่าเงินบาททำให้ค่าเงินบาทวานนี้อ่อนค่าทันทีจากระดับแข็งค่าหรือต่ำสุดในระหว่างวันที่ระดับ 34.74 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าหรือปรับขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 35.02 บาท/ดอลลาร์ เราเชื่อว่าน่าจะมีการแทรกแซงทั้งจากคำพูดและและการใช้เครื่องมือเข้าดูแล ทำให้ค่าเงินบาทมีการแข็งค่านับตั้งแต่ต้นปีที่ราว 2.31% ในขณะที่อินโดนีเซียแข็งค่าราว 4.37% และฟิลิปปินส์แข็งค่าราว 1.23% นอกจากนี้กนง. ยังมีความเป็นห่วงการลงทุนภาคเอกชนที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และการส่งออกที่ยังไม่ฟื้น ทั้งจากผลพวง Brexit และภาคการเงินในยุโรป ส่วนการลงประชามติในสุดสัปดาห์นี้ คาดว่าจะกระทบไม่มาก ระยะสั้นอาจไม่มี แต่ต้องดูว่ารัฐบาลจะรับมืออย่างไร คาดว่าจะกระทบกับหุ้นไทยไม่มากเช่นกัน เนื่องจากต่างประเทศให้ความสำคัญกับตัวเลขเศรษฐกิจมากกว่าการเมือง ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่า จะปรับตัวขึ้น-ลงในกรอบแคบ ๆ เพื่อรอดูผลประชามติในสุดสัปดาห์นี้
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ปรับตัวลงมาไม่ต่ำกว่าแถว ๆ 1,490 จุด แนะนำ ซื้อลงทุนได้
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]
